INDHAMMA:เจริญพระกรรมฐาน

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ทำไมจึงต้องเจริญพระกรรมฐาน

คนถึงแม้ว่าจะทำบุญหนัก แต่ว่าเวลาจะตาย บังเอิญจิตไปนึกถึงอกุศลเข้าอย่างใดอย่างหนึ่ง 

อกุศลก็จะพาลงไปอบายภูมิก่อน ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นจะต้องเจริญพระกรรมฐาน เจริญสมาธิ 

คำว่าสมาธินี่แปลว่าการตั้งใจ

อย่างที่ท่านทั้งหลายทำบุญกันนี่ก็จะบอกว่า อุ้ย...หลวงพ่อมาทีไร ฉันก็ถวายสังฆทานทุกที 

การถวายสังฆทานแต่ละครั้งมีสิทธิ์ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นที่ ๕ เรียกว่า นิมมานรดี

หรือถ้าจะไม่ไปก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ดี บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท เราอาจจะเผลอได้

ตามบาลีว่า “เอกะ จะรัง จิตตัง” 

จิตดวงเดียวเที่ยวไป 

จิตน่ะมันรับอารมณ์เดียว เวลาที่เรารัก คนที่เรารัก 

สัตว์ที่เรารัก เขาจะทำเลวขนาดไหนก็ตาม 

เราก็ยังรัก ถึงเวลาโกรธขึ้นมา 

ทำดีขนาดไหน มันก็เกลียดใช่ไหม 

ไม่นึกถึงความดีของเขา 

ก็รวมความว่าจิตมันรับอารมณ์เฉพาะ

ฉะนั้น ถ้าหากว่าถ้าจิตออกจากร่าง ถ้าบังเอิญไปพบอกุศลเข้าก็ไปอบายภูมิได้ 

ฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงสอนให้ฝึกจิตให้มีอารมณ์ทรงตัว 

อันดับแรก ก็กำหนดรู้จับลมหายใจเข้าออก หายใจเข้านึกว่าพุท หายใจออกนึกว่าโธ 

แต่ว่าคำภาวนานี่ไม่จำกัดนะ จะนึกพุทโธก็ได้ นะมะ พะธะ ก็ได้ หรืออะไรก็ได้ 

นึกถึงพระพุทธเจ้าแล้วก็ภาวนาเป็นเครื่องโยงใจให้จิตมีงาน จิตมีงานในด้านบุญละบาป 

ขณะใดที่จิตรู้ลมหายใจเข้าออก จิตไม่คิดถึงเรื่องอื่น เวลานั้นจิตเป็นสมาธิ จิตว่างจากกิเลส

ขณะใดจิตรู้คำภาวนาอยู่ อารมณ์อื่นไม่เข้ามาแทรก เวลานั้นจิตว่างจากกิเลส มีความดี 

ฉะนั้นขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย ให้ถือว่าการเจริญสมาธิมีความจำเป็น 

ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า 

จงอย่านึกถึงความชั่วที่ผ่านมาแล้ว อะไรก็ตามที่มันเป็นบาปอย่านึกถึงมัน 

คิดอย่างเดียวด้านของความดี

ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด 

#ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:อุบายยอดเยี่ยม คอยจัดการความคิด

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

เ ร า เ ห็ น เ จ้ า แ ล้ ว “ม า ร” 

อุบายยอดเยี่ยม คอยจัดการความคิด ……………………………………

เมื่อเราเห็นสิ่งไม่ดีในจิตใจ ก็มักจะพยายามผลักไสไล่ส่ง นั่นคือ การสำคัญมั่นหมาย 

การให้ความสำคัญกับสิ่งนั้น วิธีจัดการที่ถูกคือ "รู้เท่าทัน" แบบไม่ยินดียินร้าย 

สักแต่ว่ารับรู้ ว่านี่คือความคิด นี่คือความจำ เท่านั้นเอง...ไม่ต้องทำอะไรมาก 

ในพระไตรปิฎก..มารจะแปลงตัวมา เป็นพราหมณ์ เป็นนั่น เป็นนี่ มาหลอกพระพุทธเจ้า 

พระพุทธองค์ท่านจัดการอย่างไร

ท่านบอก..."เราเห็นเจ้าแล้วมาร" 

เป็นหลักปฏิบัติว่า... 

เมื่อมีกิเลส แปลงตัวเป็นนั่นเป็นนี่ มาก่อกวน 

มาสร้างความเดือดร้อนในชีวิต 

เราไม่ต้องไปสู้กับมัน แค่รู้ แล้วบอกว่า...

"เราเห็นเจ้าแล้วมาร" เราเห็นเจ้าแล้ว ความจำ 

เราเห็นเจ้าแล้ว ความคิด 

เราเห็นเจ้าแล้ว ความน้อยใจ 

เราเห็นเจ้าแล้ว ความสงสารตัวเอง ฯลฯ 

สักแต่ว่าเห็น เท่านั้นก็พอ

แต่ไม่ใช่ว่า มันจะหายทันทีครั้งแรก 

แต่ถ้าเราฝึกอย่างนี้บ่อยๆ พอมีความคิดเก่าๆ ผุดขึ้นมา เราไม่ได้ยึดมั่นว่า เป็นเรา 

เป็นของเรา เราไม่ได้ถือกรรมสิทธิ์ หรือ identify กับสิ่งนั้น สักแต่ว่า เป็นอาการของจิต 

สักแต่ว่า เป็นอาการของสมอง แล้วแต่จะเรียก...อย่างนี้มันสบาย

พระอาจารย์ชยสาโรภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:ความประมาท ความไม่ประมาท

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา…มาฝึกกับพวกเราสิ…

คำว่า “ความประมาท” ในภาษาไทยกับในภาษาบาลีนั้น 

สังเกตเห็นว่ามีความหมายต่างกันเหลือประมาณ 

คือกว้างแคบต่างกันเหลือประมาณ. 

ในภาษาไทยเราหมายความกันแต่ว่าเป็นความเลินเล่อ 

เป็นความอวดดี, เท่านี้ก็พอแล้ว แต่ในภาษาบาลีหรือภาษาพระธรรม 

ในการปฏิบัติธรรมนั้น มีความหมายมาก ดูจะครบไปเสียทุกอย่าง

ในทางที่ไม่ดี นับตั้งแต่ความไร้สติสัมปชัญญะ ความโง่ ความขี้เกียจ

 ความไม่อดทน ความเห็นแก่ตัว ความงมงายหลงใหลในไสยศาสตร์ 

ความไม่จริงจังในหน้าที่ ไม่เข้มแข็ง เหล่านี้เป็นต้น, 

ล้วนรวมอยู่ในคำว่าประมาท

 ผู้ใดเป็นอยู่ด้วยความประมาทในลักษณะเช่นที่กล่าวนี้ ก็ไม่มีทางที่จะก้าวหน้าในทางธรรม, 

ไม่มีทางที่จะเดินไปสู่พระนิพพาน หรือลุถึงพระนิพพานได้, มีแต่การเสื่อมลง เสื่อมลง 

แล้วก็วินาศเสียก่อน โดยเฉพาะก่อนตาย.

ในข้อนี้ควรระลึกนึกถึงพระบาลีกันเพื่อจะเป็นหลัก. 

ตามพระบาลีนั้นกล่าวไว้ว่า 

อปฺปมาโท อมตํ ปทํ –ความไม่ประมาทเป็นทางที่ไม่ตาย

ปมาโท มจฺจุ-โน ปทํ –ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย

อปฺปมตฺตา น มียนฺติ –ผู้ไม่ประมาทย่อมไม่ตาย

เย ปมตฺตา ยถา มตา –ผู้ประมาทก็เหมือนกับตายแล้ว

 ขอให้นึกถึงความหมายที่ต่างกันอย่างตรงกันข้ามของสิ่งทั้งสองสิ่งนี้ คือ ความประมาท กับ ความไม่ประมาท 

ความประมาทนั้นเป็นทางแห่งความตาย, จะต้องตายในระหว่างเดินทาง 

จะไปพบจุดจบเป็นความตายในทางจิตใจ ไม่มีชีวิตหรือความเป็นอยู่ที่น่าปรารถนาแต่ประการใด.

ความไม่ประมาท ที่บุคคลดำเนินอยู่นั้น เป็นทางแห่งความไม่ตาย มีความหมายว่า จะไปสู่สภาพที่ไม่ตาย

โดยตรงอย่างนี้ก็ได้ หรือจะพูดกันอย่างธรรมดาๆสามัญว่า 

ผู้เดินในทางนี้จะไม่พบกับการตายในระหว่างทาง. 

ผู้ไม่ประมาทย่อมไม่ตาย นี้เป็นการยืนยันว่า 

ผู้ที่ไม่ประมาทแล้วจะไม่พบกันกับความตายทั้งทางกายและทางจิต

บางคนอาจจะคิดว่า ถ้าไม่ประมาทแล้วจะไม่ต้องเข้าโลงหรืออย่างไร. มันไม่ได้หมายความอย่างนั้น

ถึงจะเข้าโลงก็เข้าโลงอย่างคนไม่ตาย มันเป็นเรื่องของร่างกาย ที่ไม่ได้มีความยึดถือว่าเป็นตัวตนหรือของตน

มันไม่มีผู้ตาย มันไม่มีใครตาย แม้ว่าจะจับใส่โลง. ส่วนการเดินทางของชีวิตประจำวันนั้น 

ก็ไม่ประสบกับความเสียหาย หรือความวินาศ หรือความทุกข์ทรมานแต่ประการใด

จึงกล่าวได้ว่าผู้ไม่ประมาทเป็นคนไม่ตาย.

พุทธทาสภิกขุ

คนเดินทางเปลี่ยวคือ ผู้อยู่ด้วยความประมาท

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม 

INDHAMMA:ฝึกใจ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

 ใจของเรานี่มันอยู่ในกรง ยิ่งกว่านั้น

มันยังมีเสือที่กำลังอาละวาดอยู่ในกรงนั้นด้วย!

ใจที่มันเอาแต่ใจของเรานี้

ถ้าหากมันไม่ได้อะไรตามที่มันต้องการแล้ว

มันก็อาละวาด

เราจะต้องอบรมใจ

ด้วยการปฏิบัติภาวนา ด้วยสมาธิ

นี่แหละที่เราเรียกว่า

“การฝึกใจ”

หลวงปู่ชา สุภัทโท


#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน 

 #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 

 #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

 #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

 

INDHAMMA:หน้าที่ของใจ...คือทำใจให้มีความสุข

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

การทำใจให้เป็นสุขนั่นแหละเป็นหน้าที่ของเราทุกคน

การทำใจของเราให้เป็นทุกข์ไม่ใช่หน้าที่ ถ้าเรานั่งกลุ้มใจ

มีความทุกข์ความเดือดร้อน ด้วยเรื่องอะไรก็ตาม เรียกว่า

เราทำผิดหน้าที่ การทำผิดหน้าที่นั่นแหละคือการไม่ประพฤติธรรม

เพราะ ธรรมะคือหน้าที่ และหน้าที่ที่เราควรปฏิบัติก็คือ

การทำใจของเราให้เบาโปร่งให้มีความสุขอยู่ตลอดเวลา

ไม่ว่าเรื่องอะไรจะเกิดขึ้น ถ้ามันจะมีความทุกข์บ้างก็นิดๆ หน่อยๆ

ไม่ใช่ทุกข์กันนานๆ ทุกข์เป็นชั่วโมงหรือเป็นวันเป็นสัปดาห์ 

เป็นเดือน อย่างนี้ก็ไม่ใช่เรื่อง เป็นการกระทำตนไม่ถูกเรื่อง


ปัญญานันทภิกขุ 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน 

 #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 

 #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

 #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

INDHAMMA:3 บัญญัติสำหรับคนชั่ว คนดีและคนบริสุทธิ์

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...



ในวันที่สมมติกันว่า เป็นวันมาฆปุณณมี คือ เพ็ญเดือนมาฆะ สำหรับโอวาทปาติโมกข์นั้น

แบ่งออกได้เป็น ๓ หัวข้อว่า

สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง การไม่กระทำซึ่งบาปทั้งปวง

กุสะลัสสูปะสัมปะทา การทำกุศลให้ถึงพร้อม

สะจิตตะ ปะริโยทะปะนัง ทำจิตของตนให้ขาวผ่อง...

ถ้าท่านทั้งหลายจะฟังและสังเกตให้ดี ก็ย่อมจะเข้าใจได้ด้วยตนเอง 

ว่าโอวาท ๓ ข้อนี้มุ่งหมายอย่างไร...

สำหรับคนชั่วคนบาป ก็ทรงบัญญัติว่า อย่าทำบาป

สำหรับคนดีก็ทรงบัญญัติว่า ทำดีให้เรื่อยไปจนกว่าจะเต็มเปี่ยม

ส่วนคนที่สูงขึ้นไปก็ดี ก็คือคนบริสุทธิ์ ไม่ 'ติดอยู่' ในความชั่วหรือความดี จึงจะมีจิตใจบริสุทธิ์

จึงได้ทรงบัญญัติขึ้นอีกบทหนึ่งว่า การกระทำซึ่งจิตใจของตนให้บริสุทธิ์ คือขาวผ่อง ทีนี้ก็จะได้

พิจารณากันบ้างถึงคำว่าคนบริสุทธิ์ ทำไมจึงว่าคนบริสุทธิ์นี่ยิ่ง อันนี้สูงยิ่งไปกว่าคนดี คนดีใคร ๆ

ก็รู้ว่าตามความหมายที่เขาเรียกกันว่าคนดีนั้น ก็คือคนที่ไม่เบียดเบียนใคร หรือว่าทำมาหากิน

โดยสุจริต อย่างที่โลกเขาบัญญัติกันว่าเป็นคนดี แต่คนดีชนิดไหนก็ตาม ยังมีกิเลสเหลืออยู่

เป็นโลภะ โทสะ โมหะ อย่างนั้นอย่างนี้ บางทีก็เก็บซ่อนไว้ก็มี แม้ว่าจะดีถึงขนาดเป็นเทวดา

ก็ยังมีกิเลสชนิดใดชนิดหนึ่ง ส่วนใดส่วนหนึ่งเหลืออยู่ เป็นคนดีอย่างพรหม มันก็ยังมีกิเลส

ที่ยึดมั่นตัวตนเหลืออยู่มากทีเดียว ที่เห็นได้ง่ายๆ ก่อนนั้นก็คือว่า ไอ้คนที่ว่าดีนั่นแหละ

ก็ยังต้องนั่งเช็ดหัวเข่าด้วยน้ำตา หรือน้ำตาเช็ดหัวเข่าอะไรทำนองนั้นอยู่บ่อยๆ อย่างนี้เขาเรียกว่า

จิตใจยังหม่นหมอง ถ้าจิตใจไม่หม่นหมอง ทำไมจะต้องร้องไห้ ทำไมจะต้องกลัว

ทำไมจะต้องสะดุ้งหวาดเสียว ทำไมต้องวิตกกังวลจนนอนไม่หลับ แม้แต่จะวิตกกังวลว่า

บุญนี้จะหมดสิ้นไปเสีย ก็ยังทำให้นอนไม่หลับได้เหมือนกัน อย่างนี้ไม่เรียกว่า จิตนั้นขาวผ่อง

ยังเต็มอยู่ด้วยความวิตกกังวลยังเต็มอยู่ด้วยความกลัว ท้ายที่สุดแต่ความหวังซึ่งหวังอะไรกัน

ก็ไม่ทราบ เจ้าตัวก็ไม่ทราบ แต่ก็ยังมีความหวังอย่างนั้น หวังอย่างนี้ 

เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างนั้นอย่างนี้ อย่างนี้ก็เรียกว่า จิตนั้นยังไม่บริสุทธิ์ ยังไม่ขาวผ่อง 

ต้องทำให้หมดไปจากสิ่งเหล่านั้นอีกทีหนึ่ง 

จึงจะเรียกว่า คนที่มีจิตบริสุทธิ์แล้วเรียกว่าเป็นคนบริสุทธิ์ เพียงเท่านี้ก็จะเห็นได้แล้วว่า

คนดีนี่ตามความหมายของคนทั่วไปนั้นยังเป็นเรื่อง 

ยังเป็นคนละอย่างกับคนที่เรียกว่าคนบริสุทธิ์

คือ มีจิตใจบริสุทธิ์ ไม่มีกิเลสเหลืออยู่แม้แต่ส่วนใดส่วนหนึ่ง 

ถ้าจะพูดถึงบุคคลที่บริสุทธิ์สิ้นเชิงนี้

ก็จะมีแต่พระอรหันต์พวกเดียวเท่านั้นถ้ายังไม่ถึงกับเป็นพระอรหันต์ก็ยังเรียกว่า ยังไม่บริสุทธิ์

ยังไม่สิ้นเชิง เป็นพระโสดาบันพระสกิทาคามี พระอนาคามี นี่เป็นแต่เรื่องบริสุทธิ์โดยแน่อน

แต่ยังไม่บริสุทธิ์สิ้นเชิง

 

พุทธทาสภิกขุ ที่มา : มาฆบูชาเทศนา ปี ๒๕๑๖

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

INDHAMMA:ความเสียสละเป็นทางของความสงบ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ความอยากได้จนเกินพอดีเป็นทางมาร

ของความโกลาหลวุ่นวาย

ความเสียสละเป็นทางของความสงบ

ปัญหาของโลกที่นักการเมือง นักการทูต นักการทหาร

และนักการร้อยแปดคิดสะสางกันอยู่ แต่ยิ่งสางยิ่งยุ่งนั้น

เป็นเรื่องเนื่องมาจากการไม่รู้จักเสียสละกันบ้างนั่นเอง

ทุกคนอยากเอาทั้งนั้น เอาไว้มากยิ่งยุ่งมาก เอาออก

เสียบ้าง เรื่องยุ่งจะลดลงไป

 

เจ้าชายสิทธัตถะได้ทรงทำพระองค์เป็นตัวอย่างมาแล้วแต่ชาวโลกมิได้ดำเนินตาม จึงไม่หายยุ่ง ถ้าเรามา

คำนึงถึงพระคุณอันนี้ และดำเนินตามกันบ้างแล้ว ตัวเราจะได้พบกับความสงบเป็นแน่

ปัญญานันทภิกขุ

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน


INDHAMMA:ฝึกสติ...ช่วยกำจัดกิเลสให้หมดไป...

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...  

เวลาเราฝึกสตินานเข้าๆ 

สติกับปัญญานี้จะกลมกลืนเป็นอันเดียวกัน 

 เป็นสติปัญญาอัตโนมัติ 

ฆ่ากิเลสโดยอัตโนมัติด้วยเหมือนกัน ... 

 คือสติปัญญาอัตโนมัตินี้เป็นเองตลอด 

 ตั้งแต่ตื่นนอนพับจับติดปุ๊บเลย 

 ติดตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้กระทั่งหลับ 


นี่เรียกว่าสติปัญญาอัตโนมัติ ไม่ต้องตั้ง..เป็นเอง เสาะแสวงฆ่ากิเลสโดยอัตโนมัติ 

 คุ้ยเขี่ยขุดค้นฆ่ากิเลสเป็นอัตโนมัติ เหมือนกิเลสทำลายเราแต่ก่อนเป็นอัตโนมัติของมัน

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน


#inndhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

#ทำความเข้าใจ #ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #ลงมือทำทันที

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน


INDHAMMA:ปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

 "ไม่ควรปล่อยใจไปตามอารมณ์ ควรที่จะฝึกฝน

อบรมตนเอง ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

ขี้เกียจก็ช่าง ขยันก็ช่าง ให้ปฏิบัติมันไปเรื่อยๆ

ลองคิดดูซิ ทำอย่างนี้จะไม่ดีกว่าหรือ

การปล่อยใจตามอารมณ์นั้น จะไม่มีวันถึงธรรมของพระพุทธเจ้า"

เมื่อเราปฏิบัติธรรม ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

ไม่ว่าอารมณ์ใดจะเกิดขึ้นก็ช่างมัน

แต่ให้ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ปฏิบัติให้สม่ำเสมอ

การตามใจตัวเองไม่ใช่แนวทางของพระพุทธเจ้า

ถ้าเราปฏิบัติธรรมตามความคิดความเห็นของเราเอง เราไม่มีวันรู้แจ้งว่า อันใดผิด อันใดถูก

จะไม่มีวันรู้จักใจของตัวเอง และไม่มีวันรู้จักตัวเอง

ดังนั้น ถ้าปฏิบัติธรรมตามแนวทางของตนเองแล้ว ย่อมเป็นการเสียเวลามากที่สุด

แต่การปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธเจ้าแล้ว ย่อมเป็นหนทางตรงที่สุด

หลวงปู่ชา สุภัทโท

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน 
#อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 
#จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก 
#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

INDHAMMA:สติ...ไม่ได้มีไว้ทำในช่วงเวลาปฏิบัติธรรมเท่านั้น

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


การที่พระพุทธองค์สอนให้เราเจริญสติตลอดเวลา

เพื่อให้เรารับรู้ตลอดเวลา เราคิดอะไร เราพูดอะไร

หรือทำอะไรอยู่ เพราะคนเป็นจำนวนมากจำไม่ได้ว่า

ตนคิดอะไรอยู่ พูดอะไรอยู่ หรือทำอะไรอยู่ 

หรือจำได้บ้างจำไม่ได้บ้าง 

ก็เกิดจากการขาดสติอยู่ตลอดเวลา

การไปนั่งวิปัสนากรรมฐาน ก็คือ...การฝึกให้เราเป็นคนที่มีสติ ไม่ใช่เฉพาะเวลาปฏิบัติธรรม 

แต่เพิ่มความสามารถในการรับรู้อารมณ์ และควบคุมอารมณ์ 

แล้วใช้สติกับอารมณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นอกุศล หรือมิจฉาออกไปจากจิตเรา 

แต่ถ้าเราไม่ได้ทบทวนตนเอง อยู่อย่างสม่ำเสมอว่า 

เรานั้นมีสติ อยู่เสมอหรือไม่ หรือขาดสติบ่อยแค่ไหน

(การขาดสติก็จัดอยู่ในอารมณ์) 

คนเราขาดสติได้อยู่ตอนเดียวก็คือเวลานอนหลับ 

แต่ตั้งแต่วินาทีแรกที่ตื่นขึ้นมา ต้องฝึกตนเองให้เจริญสติทันที 

 (การไปปฏิบัติธรรมแล้วทางวัดสอนให้เรารับประทานอาหารช้าๆ 

แล้วให้คิดว่า ตักหนอ ยกช้อนหนอ

เอาช้อนมาที่ปากหนอ ใส่ปากหนอ เคี๊ยวหนอ 

ก็เพื่อให้เราเจริญสติทุกอิริยาบท ไม่ใช่ทำไปสนุกๆเท่านั้น...)

พระเมธีวชิโรดม

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด

 #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

INDHAMMA:ทำจิตให้เป็นเช่นนั้นเอง ในทุกๆเรื่อง

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

จิต นี้เอง ที่ทำให้ความทุกข์มันปรากฎ

จิต นี้เอง ที่ทำให้ความสุขจอมปลอมได้ปรากฎ

และ จิต นี้เอง ที่หลุดพ้นได้จากทุกข์และสุข จนได้พบความสงบเย็น

 ที่เป็นทุกข์กันอยู่ทุกวันนี้

ก็เพราะจิตถูกปรุงแต่งให้มีรสชาติเพื่อจะได้มีความสุข

แต่พอจิตชื่นชมสมสุขอยู่ได้ไม่นาน

จิตก็กลับมารับรสชาติของความทุกข์ได้อีก

อย่างนั้นแหละที่เรียกว่าความสุขจอมปลอม

จะเรียกว่า ความสุขเป็นเชื้อเป็นเหตุแห่งความทุกข์

ก็ไม่ถูกซะที่เดียว เพราะเมื่อใดที่จิตเป็นทุกข์

จิตก็พยามยามปรุงแต่งจิตให้มีรสชาติสุข

แล้วจิตที่ถูกปรุงแต่งให้สุขนี้เอง

เป็นราวกับเชื้อไฟที่เผาจิตให้กลับสู่สภาพเดิมคือทุกข์

  ดังนี้ ควรจะสรุปได้ว่า ความสุขกับความทุกข์ เป็นของกันและกัน เป็นของเวียนว่าย ตายแล้วเกิด

อยู่อย่างนั้นแล เป็นต้นว่า มะพร้าวสุขที่ตกลงจากต้น ลงสู่ดิน มะพร้าวผลนั้นก็งอกเติบใหญ่

ผลิตผลสุขตกลงสู่ดิน อยู่อย่างนั้นไม่สิ้นต้นมะพร้าวไป จิตที่ยังมีรสชาติสุขและทุกข์ อย่างนั่นคือ

จิตที่ยังมีการปรุงแต่ง ให้สุข ให้สุข พอหมดอายุของความสุข มันก็ทุกข์ มันก็ทุกข์ เป็นเช่นนั้นเอง

ดังนี้ควรศึกษาเรื่องจิตของตนเสียเถิด ทุกวันนี้ที่มันวุ่นวายก็เพราะมัวแต่มองจิตคนอื่น ไม่รู้จักจิต

ตัวเองเสียที ทำจิตให้เป็นเช่นเอง เช่นนั้นเอง ในทุกๆเรื่อง ไม่ต้องการสุข ไม่ต้องการสุข แล้วมันจะ

ไม่ทุกข์ สังคมก็จะไม่ต้องวุ่นวายอีดต่อไป เพราะตัวเองไม่วุ่นวายแล้ว มันเป็นเช่นนั้นเอง

ท่านพุทธทาส

#inndhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

INDHAMMA:ภาษาเพลง...ฟังให้เห็นภาษาธรรม...โอ๊ย....มันบ่แน่ดอกนาย...

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

เกิดเป็นคนต้องดิ้นรนบ่หยุด โลกมนุษย์มันบ่แน่บ่นอน

สิ่งที่แท้ก็คือกองฟอน ถ้าหากได้นอนแล้วบ่หน่ายบ่แหนง

บ้างมีเงินเที่ยวซะเพลินสนุก ถึงคราวติดคุก เลยต้องกินข้าวแดง

บ้างมีรถรา ราคาแพง ๆ ชอบขับแรง ๆ เลยไปชนกันตาย

โอ๊ยมันบ่แน่ดอกนาย

(*) คนชื่อน้อยโตใหญ่ก็มากมี คนชื่อมีทุกข์ยากก็เหลือหลาย

คนชื่อบุญหลาย ตายไปเมื่อวานนี้

คนที่ตายก็จงเอาไปฝัง คนที่ยังก็จงทำความดี

โอ๊ย มันบ่แน่ดอกนาย โอ๊ย มันบ่แน่ดอกนาย ...(โอ๊ย มันบ่แน่ดอกนาย)

เกิดเป็นคนต้องดิ้นรนบ่หยุด โลกมนุษย์มันบ่แน่บ่นอน....เย...

 เกิดเป็นคนมันบ่สูงบ่ต่ำ บ้างตัวดำได้เมียขาวก็มี

ถ้ามีเงินทอง รับรองว่าดี จะชั่วจะดีมีแต่คนนับถือ

ได้เมียงามทุกยามอยู่สุข บ่มีทุกข์เข้ามารุกฮือ

แต่พอเราตาย ทรามวัยพ้นมือ เมียเรานะหรือ บ่รู้ซิเป็นเมียใคร

โอ๊ย มันบ่แน่ดอกนาย.... *

สมัยหนึ่งเพลงลูกทุ่ง "มัน บ่ แน่ดอกนาย" กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย....

ไปถึ­งไหนๆ ก็ต้องได้ยิน. วันหนึ่งหลวงพ่อชาบังเอิญมีธุระผ่านเข้าเมือง ก็พลอยได้ยินไปกับ

ชาวบ้านเขาด้วย และเมื่อกลับถึงวัดท่านได้ปรารภเรื่องนี้ใ­ห้ลูกศิษย์ฟัง ในระหว่างการอบรมว่า

"...เออ นั่นมันร้องเพลงของพระพุทธเจ้าเลยน่ะนั่น.­..."

"ตัวที่ว่าไม่แน่นั่นล่ะ คือ ตัวพระพุทธเจ้าละนั่น ตัวที่ไม่แน่นั่นละคือตัวธรรมะ"

เคยพูดบ่อย ๆ แต่คนไม่ใส่ใจ อะไรเกิดขึ้นในปัจจุบัน ก็ว่า เออ อันนี้มันไม่แน่ แต่คำนี้คน

ไม่ค่อยได้ติดตาม คำง่ายๆ สั้น ๆ ที่ว่าไม่แน่ คำเดียวและถูกพูดบ่อยๆ คนก็ไม่ค่อยเอา

ถ้าเห็นอนิจจังชัดเจน มันก็เป็นพระสมบูรณ์นั่นเอง 

เห็นอนิจจัง มันเป็นของไม่แน่นอน ในรูป ในเวทนา 

ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณ 

อุปาทานมั่นหมายมันก็ไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ ทั้งห้า 

อะไรก็ช่างเถอะ ถึงจะเกิดอารมณ์อะไรที่ไม่พอใจ

จนถึงกับน้ำตามันจะไหลออกมา 

ให้เรานึกถึงคำสอนที่ว่า อันนี้ไม่แน่ ไว้เสมอเลยทีเดียว 

ด้วยสติสัมปชัญญะของเรา

มันจะพอใจ ไม่พอใจ มันจะดี จะชั่ว ก็ให้เห็นพอดี มันก็ถอนอุปาทานได้ เห็นว่ามันเป็นของไม่มีราคา 

แล้วก็มี การปล่อยวางไปในตัวด้วยเสมอ"

(จาก อุปลมณี น.305 - 306) ‪#‎ฟังเป็นก็เห็นธรรม‬

#inndhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

INDHAMMA:ความรัก...คืออะไร...

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ความรักคืออะไร...ใครตอบได้ช่วยตอบที... 

ความรัก คือ การตระหนักรู้ในสัจธรรม 

แล้วเราสามารถถอดถอนตัวเองออกมาจากความโลภ 

ความโกรธ ความหลง ได้อย่างสิ้นเชิง มีหัวใจที่บริสุทธิ์ 

หมดจด แล้วก็แผ่ความรักนั้นออกไปรักคนได้ทั้งโลก 

ความรักในทรรศนะของอาตมากล่าวอย่างสั้นที่สุดคือกรุณา คือ

จิตใจอันใหญ่หลวงที่สามารถรักคนได้ทั้งโลก

โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ

รักแท้คือกรุณาจะมาหลังจากการผลิบานทางปัญญาเสมอ

ถ้าไม่ได้มาพร้อมปัญญาเป็นได้แค่มายาการณ์ชนิดหนึ่ง พูดง่ายๆ

เป็นได้แค่ความรู้สึก

  “ฉะนั้นถ้าไปดูพระพักตร์ของพระพุทธรูปทุกองค์ ยิ้มทุกองค์ ทำไมยิ้ม เพราะจิตท่านเบิกบานผ่องใส

ท่านจึงกลายเป็นผู้ที่ยิ้มให้กับคนทั้งโลก รักที่แท้จะเป็นอย่างนั้น เราเกลียดใครไม่ลงเลย”

"และในชีวิตของมนุษย์เรามีบทเรียนอยู่สองบทเรียน หนึ่ง บทเรียนที่ยาก และสอง บทเรียนที่ง่าย

บทเรียนที่ง่ายก็คือทำอะไรก็สมหวังไปเสียทุกอย่าง แต่พอสมหวังไปเสียทุกอย่าง 

มนุษย์มักจะหลงตัวเอง

พอหลงตัวเอง นั่นคือ ต้นทางของความผิดพลาด " 

"และในโลกนี้ ไม่มีใครจะเป็นที่รักหรือจะเป็นที่ชังโดยส่วนเดียว แท้ที่จริง

เราจะพบเจอทั้งความรักและความชังอยู่เสมอๆ ธรรมดาของโลกย่อมเป็นเช่นนี้เอง..."

พระเมธีวชิโรดม 

[แถมท้าย]  

"พุทธศาสนาเข้าใจดีว่า ความรักคืออะไร หากไม่สัมพันธ์กับโพธิญาณ มันจะฉุดรั้งให้ตกอยู่ใต้วังวนของ

สังสารวัฎ เที่ยวเวียนว่ายตายเกิดไม่จบสิ้น น้อยนักจะสื่อรักผ่านถึงโพธิญาณ มีแต่จะรักหน่วงเหนี่ยวขมวด

เกลียวสัมพันธ์ขนดแน่นอยู่ในสังสารวัฎ พระพุทธศาสนาจึงชี้บอกว่าความรักก่อให้เกิดทุกข์

ทั้งนี้เพื่อให้สลัดออก เพราะทุกข์โศกเพทภัยเกิดแต่ความรัก ดังพุทธคาถาว่า...

เปมโต ชายเต โสโก

เปมโต ชายเต ภยัง

เปมโต วิปปมุตสัสสะ

นัตถิ โสโก กุโต ภยัง

รักเป็นแดนกำเนิด ให้เกิดโศก

ภัยทั้งโลกเกิดแต่รักประจักษ์เสมอ

ผู้พ้นรักสารพันไม่ฝันละเมอ

ความบ่นเพ้อถึงโศกภัย ไหนจะมี..."

จากหนังสือ พุทธภูมิ

[ภาวนาคนเดียวยังยาก มีคู่ยิ่งต้องภาวนาให้เป็นทั้งคู่ ไม่งั้นมีแต่ดึงกัน] 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม 

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ 

#คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

 #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก 

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

INDHAMMA:เริ่มต้นจากตัวเรา

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

การทำความดี ให้เริ่มต้นจากตัวเราก่อน

สังคมมันจะเลว แต่ตัวเราต้องไม่เลวร้าย 

เราห้ามตัวเราไม่ให้ทำความชั่วได้ 

แต่ห้ามคนอื่นอาจไม่ได้ 

อย่าหวังพึ่งผู้อื่น 

มากยิ่งกว่าการพึ่งตนเอง 

อย่าไปแสวงหา

หรือปรารถนาสิ่งนอกตัวเรา 

จนเกินพอดี

การทำความดีในตน เป็นสิ่งที่ทำได้ อย่าได้พลาดโอกาส 

ถ้าหาความเป็นธรรม นอกจากตัวเราเอง ท่านจะผิดหวัง

หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ


INDHAMMA:สติ...สำคัญที่สุด...

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

"...สติมีความสำคัญที่สุด...

สติมีหน้าที่ตัดสินว่าจะให้กิเลสชนะเหตุผล

หรือจะให้เหตุผลชนะกิเลส

ถ้าสติอ่อน ไม่ตั้งมั่นอยู่ ก็จะยอมให้กิเลสชนะเหตุผล

คือ กิเลสจะครองใจยิ่งกว่าเหตุผล

เชื่อว่าเชื่อกิเลสยิ่งกว่าเชื่อเหตุผล

ถ้าสติเข้มแข็งตั้งมั่นอยู่ ก็จะไม่ยอมให้กิเลสชนะเหตุผล

คือ เหตุผลจะครองใจยิ่งกว่ากิเลส

เชื่อว่าเชื่อเหตุผลยิ่งกว่าเชื่อกิเลส

เป็นผู้ใช้เหตุผลยิ่งกว่าเป็นผู้ให้กิเลสใช้.."

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม 
 #อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 
 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง 
#ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

INDHAMMA:สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยพาให้เราพ้นทุกข์...

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...  

ท่านเปรียบเทียบมนุษย์เรา

เหมือนนกเขาอยู่ในกรงแต่ไม่รู้จักกรง

นักปฏิบัติคือนกที่เห็นกรงแล้วอยากออกไป

ฉะนั้นเป็นเรื่องธรรมดาว่าพวกไม่เห็นกรง ต้อง งง

ไม่เข้าใจการกระทำของผู้ที่กำลังหาทางแหกคุก

แต่คนเราที่ต้องการแสวงหาชีวิตพ้นจากกรง

อยากอยู่ในที่ๆ กระพือปีกได้ มีชีวิตที่ดีงาม มีคุณภาพ

เราต้องทำตามคำสอนของผู้มีปัญญา

ผู้ที่เป็นอิสระจากความกักขังทุกประเภท 

ท่านสอนให้เราฝึกจิต

หลวงพ่อปัญญาท่านได้แสดงธรรมเอาไว้ด้วยว่า... 

แทนที่จะปล่อยนกออกจากกรง ปล่อยจิตเราออกจากกรงดีกว่า ไม่ต้องซื้อนกปล่อย

ทำจิตของเราให้รู้เท่าทันทัน หลุดจากกรงขัง นั่นแหละเป็นสิ่งประเสริฐ 

การนั่งหลับตาจึงน่าสนใจมาก เพราะจิตใจที่ปล่อยวางความกลัดกลุ้ม 

ซึมเศร้า ฟุ้งซ่าน วุ่นวาย วิตกกังวล ลังเลสงสัยได้เท่านั้น

ที่สามารถบินหนีจากวัฏสงสารไปได้

การปฏิบัตินี้ ต้องทำเอง

และไม่ควรหวังทางลัด ทุกวันนี้ ก็มียาเปลี่ยนอารมณ์ออกมาเยอะ แก้ทุกข์ได้ชั่วคราว 

แต่ผลข้างเคียงมีมาก และโทษที่สำคัญคือ การทานยาประเภทนี้ทำให้อ่อนแอ 

ขี้เกียจหาทางปล่อยวางที่ถูกต้องและยั่งยืน มันกลับมาบั่นทอนการเป็นที่พึ่งของตน

อยู่ไปอยู่มาทุกข์นิดเดียวก็ทนไม่ได้ ต้องกินยา มันง่ายจริง

แต่ความง่ายนั้นแหละที่ทำลายความเจริญของเรา คนป่วยบางคนไม่กินไม่ได้ แต่คนเราทั่วไป

ใช้ธรรมโอสถบำบัดดีกว่า พระพุทธศาสนาสอนให้เรารับผิดชอบชีวิตตัวเอง 

ไม่หวังพึ่งสิ่งภายนอกตัวเรา

อยากให้มันสงบ มีปัญญา ต้องสร้างเหตุปัจจัยที่เหมาะสม

การเพียรพยายามในทางที่ถูกต้องนั่นแหละ คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ชยสาโรภิกขุ

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม 

 #อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง 

#ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Select your language