Dhamma together:คำถามอันมีสาระต่อชีวิต

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


หากเรายินดีถอยห่างออกมา ไม่ปล่อยตัวไปตามกระแส

ชีวิตอันเชี่ยวกราก เราจะตระหนักว่าชีวิตอันแสนสั้นและ

ไม่มีอะไรแน่นอน และนี้กำลังเป็นคำถามแก่เราว่า 

อะไรเป็นสาระ อะไรไม่เป็นสาระ 

อะไรควรค่า อะไรควรค่ามากที่สุด 

น่าแปลกใจว่ามีคนน้อยมากที่สนใจจะถามตัวเองแบบนี้ 

เราอยู่ในยุคสมัยซึ่งเต็มไปด้วยคนฉลาดที่มัวแต่ขวนขวาย

ทำงานในลักษณะเบียดเบียนตนหรือผู้อื่น หรือไม่ก็ทำงาน

ซึ่งในที่สุดแล้วหาแก่นสารอะไรไม่ได้ มีคนจำนวนมาก

เหลือเกินที่เฝ้าหาคำตอบฉลาดๆ ให้แก่คำถามอันโง่เขลา

ในคาถาธรรมบท (คาถาที่ ๑๑ ยมกวรรค) พระพุทธองค์ตรัสว่า 

“ชนเหล่าใดเห็นสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และเห็นสิ่งที่เป็นสาระว่าไม่เป็นสาระ 

ชนเหล่านั้นมีความคิดผิดเป็นพื้นของจิตใจ ย่อมไม่ได้พบสาระ 

ส่วนชนเหล่าใดรู้สิ่งที่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และรู้สิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าไม่เป็นสาระ 

ชนเหล่านั้นมีความคิดถูกเป็นพื้นของจิตใจ ย่อมได้พบสาระ” 

อาจกล่าวได้ว่า 

การภาวนาแบบพุทธคือความเพียรที่จะเผยให้เห็นคำถามอันมีสาระต่อชีวิต 

และเพียรตอบคำถามเหล่านั้น

ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร 

แปลถอดความ โดย ศิษย์ทีมสื่อดิจิทัลฯ

#ทบทวนธรรม

#ทำให้มันเห็นของดี #ปฏิบัติให้มันรู้

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:เตรียมความพร้อมของตัวเอง ที่จะเผชิญกับปัญหาชีวิตทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่วันนี้

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


"คนที่มีความสุขสบายในทางโลก มีฐานะความเป็นอยู่ค่อนข้างดี

ชีวิตเรามีความสุข มีฐานะ มีอะไรอย่างนี้ ก็เป็นผลของความดีที่เราสร้างมา

อย่างน้อยเราก็สร้าง เช่น สะสมความรู้ต่างๆ ความสามารถต่างๆ

เราถึงรักษาตัวมีฐานะในสังคมที่สบายมาถึงวันนี้ได้

แต่การที่มีชีวิตสบายมากๆ บางทีมันทำให้เราประมาทง่าย

เราก็สบายแล้ว เอาไว้ลำบากก่อนค่อยปฏิบัติธรรม ถ้าเราเห็นว่าธรรมะนี่วันนี้ฟังเอาไว้ก่อน

วันไหนมีปัญหาชีวิตแล้วค่อยลงมือปฏิบัติ มันคล้ายๆ เราคิดเอาว่าถ้าวันไหนเราตกน้ำแล้ว

เราจะหัดว่ายน้ำ มันไม่ทัน เราต้องหัดว่ายน้ำให้เก่งซะก่อนที่เราจะตกน้ำ

เราอาจจะไม่ตกน้ำก็ได้ แต่ถ้าตกน้ำต้องว่ายเป็น

เราจะรอให้ชีวิตของเรามีปัญหาหนักหนาสาหัสก่อน

แล้วลงมือปฏิบัติธรรม มันประมาทเกินไป

เราอาจจะจมน้ำตายก่อนก็ได้

เพราะฉะนั้นถึงเราจะมีชีวิตที่สบาย

แต่ว่าความทุกข์มาถึงตัวเราเมื่อไรก็ได้

ไม่ใช่ว่าคนที่มีฐานะในสังคมดี

มันจะมีความสุขตลอดกาล

บางคนแค่ไปตรวจร่างกายประจำปีก็เจอมะเร็งแล้ว เจอโรคแปลกๆ 

ทุกวันนี้มีคนเป็นโรคประหลาดๆ เยอะแยะไปหมดเลย ปุบปับไปเลย

ชีวิตมันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หรืออย่างเราทำธุรกิจ เราว่ามันดีมันมั่นคง

การเมืองพลิกนิดเดียว เศรษฐกิจโลกเปลี่ยนนิดเดียว เราอาจจะล้มก็ได้

เพราะฉะนั้นในชีวิตเรานี่มีแต่ความไม่แน่นอน ตัวเราแน่นอน ครอบครัวเราอาจจะไม่แน่นอน

สามีอาจจะนอกใจ ภรรยานอกใจ ลูกติดยา ลูกติดการพนัน อะไรอย่างนี้เป็นไปได้เสมอ

ฉะนั้นไม่ใช่ว่าทุกวันนี้เรามีอยู่มีกินมีฐานะดีแล้ว เราจะมีความสุขนิรันดร มันไม่แน่หรอกชีวิตนี้


ถ้าเราไม่ประมาท เราต้องมาเตรียมความพร้อมของตัวเอง

ที่จะเผชิญกับปัญหาชีวิตทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่วันนี้

ตั้งแต่ความทุกข์ยังเข้ามาไม่รุนแรง เวลาที่ความทุกข์รุนแรงมาถึงเรา เราจะสู้ได้

เราจะได้เปรียบคนอื่น


การศึกษาธรรมะคือการให้ต้นทุนแก่ชีวิต มีประโยชน์มหาศาล

 เป็นต้นทุนแห่งชีวิตที่มั่นคง 

ดีกว่าประกันชีวิต คนที่ประกันชีวิตมีไหมที่ไม่ตาย อย่างไรก็ตายใช่ไหม เอาแน่นอนไม่ได้


แต่ถ้าเรามาฝึกปฏิบัติธรรม ถึงเราจะอยู่เราก็อยู่อย่างมีความสุข

ถึงเราจะตายเราก็ตายอย่างมีความสุข ถึงเราจะต้องพลัดพรากจากคนที่รัก เราก็ไม่ทุรนทุราย

ถึงเราต้องเจอกับสิ่งที่ไม่รัก เจอกับปัญหาชีวิตที่ร้ายแรง เราก็อยู่ได้ในทุกๆ สถานการณ์"

หลวงพ่อปราโมทย์  ปาโมชฺโช

24 กุมภาพันธ์ 2556

ธรรมะกลางเมือง ครั้งที่ 1

ราชกรีฑาสโมสร

#ทบทวนธรรม

#ทำให้มันเห็นของดี #ปฏิบัติให้มันรู้

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ใช้ชีวิตทางโลกให้สอดคล้องกับการปฏิบัติธรรม...เพียงกลับมาสังเกตที่กายและใจ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 


 การปฏิบัติธรรม คือ การกลับมาสังเกตที่กายและใจ

อย่างเวลาที่เชอรี่ไปออกกำลังกาย สังเกตว่า

กล้ามเนื้อมัดไหนทำงานอยู่ หรือเวลาเหนื่อยมากๆ 

ก็สังเกตดูว่า เราเหนื่อยที่ไหน 

หัวใจกำลังเต้นหรือบีบแรงแค่ไหน

หรือแม้กระทั่งเวลารับประทานอาหารที่เราชอบมากๆ

เราสังเกตดูใจของเราว่ามันมีอาการอย่างไร มันดีใจหรือ

มันชอบ นี่คือการฝึกสติที่เชอรี่พยายามทำให้เป็นธรรมชาติ

เมื่อสติแข็งแรง เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในใจคมชัดขึ้น


แต่ถ้าเราไม่ฝึกสติเลย เราจะมองไม่เห็นกิเลสภายในจิตใจของเรา ว่ามันร้ายกาจแค่ไหน ความเจ้าเลห์

และลูกล่อลูกชนของกิเลส เป็นอย่างไร และทำให้คิดว่าเราเป็นคนที่ดีแสนดีเหลือเกิน 

ด้วยเหตุนี้จึงพยายามฝึกให้ได้ทุกวัน เพื่อให้กิเลสในใจของเราลดน้อยลงบ้าง ....

เชอรรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ความดีอันใด ที่ยังไม่มี ก็ต้องเพียรพยายาม

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ของดีที่หลวงปู่มอบให้ลูกหลานทุกคน 

“ของดีอะไร อะไรคือของดี ของดีก็มีอยู่ด้วยกัน 

ทุกคนแล้ว” การที่ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บไข้ได้ 

พยาธินั้น ก็มีของดีแล้ว การมีร่างกายแข็งแรง 

มีอวัยวะ ครบถ้วน ไม่บกพร่องวิกลวิการ 

อันนี้ก็เป็นของดีแล้วของดีมีอยู่ในตน

ไม่รู้จะไปเอาของดีที่ไหนอีก 

สมบัติของดีจากเจ้าพ่อ เจ้าเแม่ให้มา 

ก็เป็น ของดีอยู่แล้ว มีอยู่แล้วทุกคน

จะไปเอาของดีที่ไหนอีกของดีก็ต้องทำให้มันเกิดมันมีขึ้นในจิตใจของตน 

ความดีอันใด ที่ยังไม่มี ก็ต้องเพียรพยายาม ทำให้เกิดให้มีขึ้นนี่แหละของดีของดีอยู่แล้ว

ในตัวของเราทุกๆ คน มองให้มันเห็น หาให้มันเห็น ภายในตนของตนนี่แหละ จึงใช้ได้ 

ถ้าไปมองหาแสวงหาของดี ภายนอกแล้วใช้ไม่ได้…” 

โอวาทธรรมโดย

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ (พ.ศ. ๒๔๓๐ – ๒๕๒๘)

#ทบทวนธรรม

#ทำให้มันเห็นของดี #ปฏิบัติให้มันรู้

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:สร้างสภาพจิตของเราให้มีความสุข

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

การทำบุญเป็นการสร้างสภาพจิตของเราให้มีความสุข

“…ทุกคนต้องการความสุข ทุกคนต้องการแสวงหาความสุข

ความสุขที่มีอยู่เป็นความรู้สึกมีความสุข แต่ว่าบางทีก็มีความรู้สึกมีความทุกข์

เราก็อยากขจัดความทุกข์ 

การที่ทำบุญนี้เป็นการเตรียมตัวที่จะขจัดความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นมาได้

เพราะว่าถ้าเราสร้างสภาพจิตของเราให้มีความสุข เราก็จะมีความสุข

ถ้าพูดแบบที่จะเข้าใจหลักธรรมะคือ เราไม่สร้าง ไม่ยอมให้เหตุของความทุกข์เกิดขึ้น

เมื่อไม่ยอมให้เหตุของทุกข์เกิดขึ้น เราก็ไม่ต้องเป็นทุกข์…”

๑๐๘ มงคล พระบรมราโชวาท

พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

เพื่อความสุขและความสำเร็จ

ของชีวิตแบบยั่งยืน

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน


Dhamma together:มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

 

บางคนอาจจะแย้งว่า คำสอนของพุทธศาสนา มีอยู่เป็น

ชั้นๆ ความมุ่งหมายก็ควรจะมีเป็นชั้นๆ เช่นให้มีความเจริญ

ในโลกนี้ แล้วมีความเจริญในโลกหน้า แล้วจึงถึง

ความเจริญอย่างเหนือโลก ดังที่ชอบพูดกันว่า

มนุษยสมบัติ สวรรค์สมบัติ และ นิพพานสมบัติ ที่เป็นเช่นนี้

ก็เพราะว่า เขาเหล่านั้น ไม่ทราบว่า สมบัติทั้ง ๓ นั้น

เป็นเพียงระดับต่างๆ ที่ต้องลุถึงให้ได้ในโลกนี้ และเดี๋ยวนี้

หรือในชาตินี้นั่นเอง ไม่ใช่เอาสวรรค์ต่อเมื่อตายแล้ว

และเอานิพพานหลังจากนั้น ไปอีกไม่รู้กี่สิบชาติ

ตามความหมายที่ถูกต้องนั้น มนุษยสมบัติ หมายถึง การได้ประโยชน์ อย่างมนุษย์ธรรมดาสามัญ

จะลุถึงได้ ด้วยการเอาเหงื่อไคลเข้าแลก จนเป็นอยู่อย่างผาสุก ชนิดที่คนธรรมดาสามัญ จะพึงเป็น

อยู่กันทั่วไป

สวรรค์สมบัติ นั้นหมายถึง ประโยชน์ที่คนมีสติปัญญา มีบุญ มีอำนาจวาสนา เป็นพิเศษ จะพึงถือ

เอาได้ โดยไม่ต้องเอาเหงื่อไคลเข้าแลก ก็ยังมีชีวิตรุ่งเรืองอยู่ได้ ท่ามกลางทรัพย์สมบัติ เกียรติยศ

ชื่อเสียง และ ความเต็มเปี่ยมทางกามคุณ

ส่วนนิพพานสมบัติ นั้นหมายถึง การได้ความสงบเย็น เพราะไม่ถูก ราคะ โทสะ โมหะ เบียดเบียน

จัดเป็นประโยชน์ ชนิดที่คนสองพวกข้างต้น ไม่อาจจะได้รับ เพราะเขาเหล่านั้น ยังจะต้องเร่าร้อน

อยู่ด้วยพิษร้าย ของราคะโทสะ โมหะ ไม่อย่างใด ก็อย่างหนึ่งเป็นธรรมดา แต่ถึงกระนั้น ก็ควร

พิจารณาให้เห็นว่าสมบัติทั้ง ๓ นี้ เป็นเพียงประโยชน์ที่อยู่ในระดับ หรือ ชั้นต่างๆ กัน ที่คนเรา

ควรจะพยายามเข้าถึงให้ได้ทั้งหมด ที่นี่ และเดี๋ยวนี้ คือในเวลาปัจจุบัน ทันตาเห็น นี้จึงจะได้ชื่อว่า

ได้รับสิ่งซึ่งพุทธศาสนาได้มีไว้สำหรับมอบให้แก่คนทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือคนที่ไม่ไร้

ปัญญาเสียเลย

พุทธทาสภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:สังเกตความเปลี่ยนแปลงทางจิตใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ในวัดป่า เสียงระฆังจะดังขึ้นทุกเช้าตอนตีสาม หลังจากนั้นก็จะดังขึ้นเป็นระยะเพื่อบอกสัญญาณ

กิจวัตรในแต่ละวัน เสียงระฆังไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่บอกเวลาเท่านั้น แต่ครูบาอาจารย์จะสอน

ให้ใช้เป็นเครื่องมือรักษาสติด้วย โดยสังเกตตัวเองว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อได้ยินเสียงระฆัง

รู้สึกกระตือรือล้น ยินดี เฉยๆ หรือไม่พอใจ และสังเกตว่าความรู้สึกต่อเสียงระฆังต่างกันอย่างไร

ในแต่ละครั้งหรือแต่ละวัน

 การใช้ชีวิตให้เรียบง่าย....

เอื้ออำนวยต่อการสังเกต

ความเปลี่ยนแปลงทางจิตใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น


สังเกตความเปลี่ยนแปลงทางจิตใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ

ด้วยการหมั่นสังเกตอยู่เนืองนิตย์ว่าเรารู้สึกต่อเหตุการณ์

ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ อย่างไร เราจะเข้าใจการทำงานของจิตใจ

เข้าใจอคติของตนเอง เข้าใจกิเลสตัณหา ความกลัว

และความวิตกกังวล ตลอดจนความมุ่งมั่น

ละความดีงามในจิตใจ

ชยสาโรภิกขุ

แปลถอดความ โดย ปิยสีโลภิกขุ


#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ในเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติขัดเกลา จิตใจตนเองก็เหมือนกัน มันไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าเหลือวิสัย

ที่เราจะทำไม่ได้ เพราะถ้าทำไม่ได้พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่บัญญัติไว้ ที่พระองค์บัญญัติหลักธรรม

ไว้นั้นแสดงว่าพระองค์ได้กระทำด้วยพระองค์เองแล้ว เห็นผลจากการกระทำนั้นแล้วว่า ได้จริงๆ 

จึงได้นำมาสอนแก่ชาวโลก เพื่อให้ชาวโลกได้นำมาปฏิบัติต่อไป เพราะฉะนั้น 

เราอย่าเหน็ดเหนื่อยเบื่อหน่ายในเรื่องนั้น แต่ให้คิดว่ามันเป็นเรื่องดีมีประโยชน์ เป็นเรื่องที่จะ

ก่อให้เกิดความสุขอย่างแท้จริงในทางจิตใจ มีความสงบเกิดขึ้นแล้วเราก็พยายามที่จะกระทำ

เท่าที่เวลาจะอำนวยให้ ทีนี้ เรื่องที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่จิตใจของเรา ทำไมเราจึงทำไม่ได้ 

ถ้าหากว่าตั้งใจจริงแล้วก็จะสำเร็จตามความปรารถนา...


เราลองมาคิดในแง่ตรงกันข้าม คือว่าในฝ่ายต่ำนั้น 

เราทำได้ คือว่าทำจนกลายเป็นนิสัยสันดานแล้ว 

ทีนี้เรามาคิดว่า ฝ่ายดีนี้ก็น่าจะทำได้ 

เราเปลี่ยนกำลัง เปลี่ยนความคิด ใช้สติปัญญาให้มาก

สักหน่อย กลับมาสร้างเสริมในด้านดีด้านงามต่อไป 

ก็ไม่เป็นเรื่องเหลือวิสัย เมื่อนิสัยในทางดีมีความละอาย

มีความกลัวต่อสิ่งชั่วสิ่งร้าย จิตใจก็มั่นคงอยู่ในคุณธรรม 

เราก็จะพ้นจากความ ทุกข์ความเดือดร้อนได้เหมือนกัน  

แล้วก็จะมีความสุขทางใจเพิ่มขึ้น

ทีนี้การกระทำในด้านดีนี่แหละเรียกว่าการปฏิบัติธรรม การกระทำในด้านเสียนั้นไม่ชื่อว่า

การปฏิบัติธรรม แต่เป็นการละเลยต่อธรรมะ ยิ่งมีการละเลยเพิกเฉยต่อ ธรรมมากเท่าใด 

ความตกต่ำทางจิตใจก็มีมากขึ้น แต่ถ้าเราเข้าใกล้ธรรมะมากเท่าใด จิตใจก็จะสูงขึ้นสะอาดขึ้น

ประณีตขึ้น แล้วก็จะมีความสุขทางใจเพิ่มขึ้น เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องที่ประจักษ์แก่ตน 

ผู้ใดประพฤติปฏิบัติก็จะเห็นผลด้วยตนเองว่ามีอะไรเกิดขึ้นในจิตใจของเราบ้าง

เช่น เราไม่เคยเข้าวัดรักษาศีลฟังธรรม แล้วเรามาเริ่มเข้าวัดรักษาศีลฟังธรรม 

เราจะรู้สึกว่าสภาพชีวิตเปลี่ยนแปลงไป มีความรู้ในเรื่องชีวิตถูกต้องขึ้น มีสติปัญญาเพิ่มขึ้น 

จะคิดอะไรจะพูดจะทำอะไรก็มีหลักมีเกณฑ์ มีระเบียบประจำจิตใจ ไม่ทำอะไรตามอารมณ์ 

ตามสิ่งที่มากระทบ เราก็จะเห็นว่าชีวิตเปลี่ยนแปลงไป คือเปลี่ยนแปลง ในทางที่ฉลาดขึ้น 

เข้าใจสิ่งต่างๆ ถูกต้องดีขึ้น การทำอะไรก็ไม่มีความประมาท รู้จักใช้เหตุใช้ผล ไม่เป็นคนอารมณ์

ร้อนอารมณ์แรงมากเกินไป อันนี้คือผลที่ปรากฏแก่เราผู้เข้ามาปฏิบัติ ว่ามันเกิดผลแก่เราอย่างไร 

เมื่อเราได้เห็นผลเช่นนั้นแล้ว เราก็พอใจในการที่จะศึกษาปฏิบัติมากขึ้น 

เพราะชีวิตมันเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีงาม มีความสุขสงบทางด้านจิตใจขึ้นกว่าปกติ 

ปัญญานันทภิกขุ 

#เติมธรรมะลงในชีวิต 

#๑๐ปีสวนโมกข์กรุงเทพ #BIA

#ทบทวนธรรม

#ทำให้มันเห็นของดี #ปฏิบัติให้มันรู้

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:บุญกุศลที่กว้างไกลที่สุด สูงที่สุด ประเสริฐที่สุด

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา มาฝึกกับพวกเราสิ


จะทำบุญทำทานอะไรขอให้มุ่งหมายเพื่อความตั้งอยู่

ได้แห่งพระศาสนา ในโลกนี้เมื่อพระศาสนามีอยู่ในโลกนี้

ทั้งโลก ทั้งจักรวาลจะมีสันติสุข จะมีสันติภาพ และบุญ

กุศลอะไรจะใหญ่ไปกว่านี้มันก็ไม่มี มันยังมีบุญแก่มนุษย์

โลก เทวโลก มารโลก พรหมโลก เพราะว่าพระศาสนา

ยังคงตั้งอยู่ได้ จงทำบุญทำกุศลโดยความมุ่งหมายว่า

เพื่อให้พระศาสนาตั้งอยู่ได้ ให้เป็นประโยชน์แก่สัตว์ทั้ง

หลายทั้งปวง บรรดาที่มีชีวิต ทั้งเทวดา ทั้งมนุษย์

ทั้งสัตว์เดรัจฉาน แม้ที่สุดต้นไม้มันก็มีชีวิต ขอให้ได้รับ

ประโยชน์จากการที่พระศาสนามีอยู่

พูดง่ายๆ ถ้าคนมันมีศาสนามันไม่เบียดเบียนต้นไม้ มันไม่เบียดเบียนป่าไม้ มันพลอยได้รับ

ประโยชน์อย่างนั้น นี่แหละบุญกุศลที่กว้างไกลที่สุด สูงที่สุด ประเสริฐที่สุด จงตั้งใจอย่างนี้

ให้ได้บุญได้กุศลอย่างนี้ ส่วนบุญกุศลอย่างอื่นนั้นมันเล็กๆ ทั้งนั้นแหละ ความร่ำรวยสวยงาม

อันนั้นเป็นเรื่องเล็กๆ เป็นเรื่องเด็กเล่นไปที่สุดก็มี แต่ถ้าเรื่องจริงก็ขอให้มนุษย์มีความสงบสุข

มีสันติภาพด้วยกันทั้งโลก

พุทธทาสภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:พัฒนาธรรมชาติ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

บางทีเราก็ไปพัฒนาในไอ้เรื่องที่มนุษย์ต้องทำ ต้องหมดเปลือง ต้องใช้เงินนี่มากเกินไป จนไม่ได้

พัฒนาธรรมชาติที่แทบว่าจะไม่ต้องใช้เงินเลย ธรรมชาติเหล่านี้เราจะพัฒนาได้โดยที่ไม่ต้องใช้

เงินเลย ถ้าเราจะไปสร้างตึกหลังหนึ่งต้องใช้เงินเป็นแสนๆ หรือเป็นล้านก็ได้ ก็มาเทียบประโยชน์

กันดู เท่าที่ได้สังเกตเห็นและรู้สึกอยู่นี่ก็รู้สึกเศร้าใจ รู้สึกละเหี่ยใจว่ามันเป็นเรื่องผิดอยู่มากๆทีเดียว

ที่ว่าไอ้สิ่งที่เราไปสร้างมันขึ้นด้วยเงินมากๆนั้นน่ะ กลับให้ผลในทางจิตใจน้อยกว่าไอ้ที่ธรรมชาติน่ะ

มันให้....เช่นพอเดินมาถึงตรงนี้ มานั่งลงตรงนี้จิตใจเย็นสบายบอกไม่ถูก แต่ว่าพอเข้าไปในตึก

หลังนั้นมันไม่เป็นอย่างนั้น มันกลับมืดมัว หรือกลับฟุ้งซ่าน หรือกลับเวียนวนอะไรไปเสียอีก...

ไอ้ที่ธรรมชาติให้ ธรรมชาติสอนนี่ให้ผลในทางจิตใจลึกซึ้งเยือกเย็น

รู้จักความสงบ รู้จักความว่างจากกิเลส

แต่ว่าไอ้สิ่งที่เราสร้างขึ้นมาด้วยเงินมากๆนั่นกลับไม่สอนอย่างนั้น

อย่างดีก็เป็นอุปกรณ์อย่างอื่น

ที่มานั่งตรงนี้จิตใจมันว่าง รู้จักความว่าง เย็นสบายในใจ อย่างนี้

มันหาอ่านจากหนังสือไม่ได้ พูดกันด้วยปากให้อย่างไรๆก็รู้สึก

ไม่ได้ แต่พอมาถึงตรงนี้ไม่ต้องมีใครบอก ไม่มีใครสอน

ธรรมชาติแวดล้อมจิตใจรู้สึกเองว่า อ้าว, ไอ้ที่มันว่างจากนิวรณ์

เป็นอย่างนี้ ที่มันว่างจากไอ้กิเลสเป็นอย่างนี้ จิตมันสบายบอก

ไม่ถูก....ศึกษาต่อไป รู้เอาเราไม่มีความคิดยึดมั่นถือมั่นอะไร

ถ้าเราไปยึดมั่นถือมั่นอะไรมันก็เป็นทุกข์เหมือนกับตกนรก

พอไม่ยึดมั่นอะไรมันก็สบายเยือกเย็นอย่างนี้ นี่ๆเรียกว่า

ธรรมชาติเขาสอน ทีนี้ธรรมชาติกลับเป็นผู้สอนดีกว่ามนุษย์สอน

เพราะฉะนั้นเราควรจะช่วยร่วมมือกับธรรมชาติ

พัฒนาธรรมชาติ

พุทธทาสภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:โดดเดี่ยวเพื่อดูใจ ...

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

“โดดเดี่ยวเพื่อดูใจ เห็นคุณค่าของความลำบาก

ทุกข์ที่ปรากฏ ความคิด ความฟุ้งซ่าน ความกลัว

การปรุงแต่ง ความเพียรที่อยากพ้นทุกข์ กราบขอบพระคุณ

ในความเมตตาของอาจารย์ปุ้ม ที่มอบประสบการณ์การ

ธุดงค์ในระดับเตรียมอนุบาลครั้งนี้ให้ได้เรียนรู้เข้าไปที่จิต

ที่ใจ 10 วันแห่งความยากลำบาก ที่มีศีลแปดคุ้มครองใจ

อยู่อย่างสันโดษ กินมื้อเดียว นอนน้อย ปฏิบัติให้มาก

ความลำพัง ความมืด สร้างความเพียร สร้างใจที่เด็ดเดี่ยว

และที่สำคัญที่สุด

การเห็นการปรากฏตัวแห่งทุกข์อย่าง แท้จริง และจิตใจที่ปลิ้นปล้อนตอแหล หลอกตัวเอง

ทีสุดท้ายประสบการณ์ครั้งนี้สอนให้เห็นว่า ทั้งหมดที่ผ่านมาในชีวิต เราไม่เคยมีความสุขจริงๆเลย

และที่เราเป็นทุกข์เป็นสุขนั้น ก็มาจิตตัวเดียวจริงๆ 18-28 ก.พ 2561 ณ ป่าเมืองกาญทริป

บ่มใจให้เข้มแข็งเพื่อสู้กับตัวเองตัวไป กราบอาจารย์ด้วยเศียรด้วยเกล้า”

ปาน ธนพร

http://www.tnews.co.th/index.php/contents/420918

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:เลือกคำถามที่ดีที่สุดที่ควรจะถามในสถานการณ์ยุ่งยากเป็นทักษะสำคัญของชีวิตที่ต้องพัฒนา

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ตอนที่ยังเป็นนักเรียน อาตมาเป็นเด็กที่อยากรู้อยากเห็น ชอบถามและมองอะไรในแง่มุมที่

ไม่เหมือนกับคนอื่น วันหนึ่งอาตมาได้รับเรียงความที่เขียนส่งครูวิชาภาษาอังกฤษกลับคืนมา

คุณครูเขียนความเห็นลงข้างๆเรียงความของอาตมาว่า

"หลายสิ่งหลายอย่างถามได้แต่ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบทุกข้อหรอก"

เวลาผ่านไปมากกว่าสี่สิบปีแล้ว อาตมายังรู้สึกขอบคุณที่คุณครูให้ความเห็นเรื่องนี้

เราเสียเวลาได้มากเหลือเกินในการตั้งคำถามที่ไม่จำเป็นต้องตอบ การทำอย่างนี้ทำให้เราละเลย

คำถามที่ควรจะถามไป การทำใจให้สงบและเลือกคำถามที่ดีที่สุดที่ควรจะถาม

ในสถานการณ์ยุ่งยากเป็นทักษะสำคัญของชีวิตที่ต้องพัฒนา

อาตมาขอยกตัวอย่างคำถามที่ควรหลีกเลี่ยง

เมื่อเกิดปัญหาหรือมีอะไรผิดพลาด

เรามีแนวโน้มที่จะถามว่า "ใครเป็นคนผิด"

คำถามแบบนี้ทำให้มองข้ามความซับซ้อนของปัญหา

และทำให้คนต้องประจัญหน้ากัน

คำถามที่ดีกว่าในกรณีนี้คือ

"ใครมีส่วนในการทำให้เกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดนี้บ้าง"

แยกแยะว่าปัญหาแต่ละเรื่องมีเหตุมีปัจจัยอย่างไร

แทนที่จะมุ่งตัดสินว่าใครผิดใครถูกช่วยให้เราเข้าใจปัญหา

ชัดเจนและหาทางออกได้ดีกว่า

ชยสาโรภิกขุ

แปลถอดความ โดย ปิยสีโลภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ความซับซ้อนของกรรม

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

การเขียนหนังสือด้วยปากกาหรือดินสอลงบนกระดาษ แผ่นเดียวนั้น เขียนลงครั้งแรกก็ย่อม

อ่านออกง่าย อ่านเข้าใจได้ง่าย แต่ยิ่งเขียนทับเขียนซ้ำลงไปบนกระดาษ แผ่นเดียวกันนั้น

ตัวหนังสือย่อมจะทับกันยิ่งขึ้นทุกที การอ่านก็จะยิ่งอ่านยากขึ้นทุกทีจนถึงอ่านไม่ออกเลย

ไม่เห็นเลยว่าเป็นตัวหนังสือ จะเห็นแต่รอยหมึกหรือรอย ดินสอทับกันไปทับกันมาเป็นสีสัน

เท่านั้น ให้เพียงรู้เท่านั้นว่าได้มีการเขียนอะไรลงบนกระดาษแผ่นนั้น หาอ่านรู้เรื่องไม่และ

หาอาจรู้ได้ได้ ว่าเขียนอะไรก่อนเขียนอะไรหลัง นี้ฉันใด การทำกรรมหรือการทำดีทำชั่ว

ก็ฉันนั้น ต่างได้ทำกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ทับถมกันมายิ่งกว่าตัวหนังสือที่อ่านไม่ออก

หารู้ไม่ว่าได้เขียนอะไรก่อนเขียนอะไรหลัง ทำกรรมแบบใดไว้ก็ไม่รู้ ไม่เห็น แยกไม่ออกว่า

ทำกรรมใดก่อนทำกรรมใดหลัง ทำดีอะไรไว้บ้าง ทำไม่ดีอะไรไว้บ้าง มากน้อยหนักเบากว่า

กันอย่างไร มาถึงชาตินี้ไม่รู้ด้วยกันทั้งสิ้น เป็นความซับซ้อนของกรรมที่แยกไม่ออก เช่นเดียว

กับความซับซ้อนของตัวหนังสือที่เขียนทับกันไปทับกันมา

ความซับซ้อนของกรรมแตกต่างกับความซับซ้อนของ

ตัวหนังสือ ตรงที่ตัวหนังสือเขียนทับกันมาก ๆ ย่อมไม่มี

ทางรู้ว่า เขียนเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดีอย่างไร แต่กรรมนั้น

แม้ทำซับซ้อนมากเพียงไร ก็มีทางรู้ว่าทำกรรมดีไว้มาก

น้อยเพียงไร หรือกรรมไม่ดีไว้มากน้อยเพียงไร โดยมีผลที่

ปรากฏขึ้นของกรรมนั้นเองเป็นเครื่องช่วยแสดงให้เห็น

ชีวิต หรือชาตินี้ของทุกคนมีชาติกำเนิดไม่เหมือนกัน 

เป็นคนไทยก็มี จีนก็มี แขกก็มี ฝรั่งก็มี มีชาติตระกูลไม่เสมอกัน ตระกูลสูงก็มี ตระกูลต่ำก็มี

มีสติปัญญาไม่ทัดเทียมกัน ฉลาดหลักแหลมก็มี โง่เขลาเบาปัญญาก็มี มีฐานะต่างระดับกัน

ร่ำรวยก็มี ยากจนก็มี ความแตกต่างห่างกันนานาประการ เหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องชี้ให้ผู้เชื่อ

ในกรรมและผลของกรรม เห็นความมีภพชาติในอดีต ของแต่ละชีวิตในชาติปัจจุบัน เกิดมา

ต่างกันในชาตินี้ เพราะทำกรรมไว้ต่างกันในชาติอดีต

ความแตกต่างของชีวิตที่สำคัญที่สุด ที่แสดงให้เห็นอำนาจที่ใหญ่ยิ่งที่สุดของกรรม

คือความได้ภพชาติของพรหมเทพ ความได้ภพชาติของมนุษย์ กับความได้ภพชาติของสัตว์

เทวดาอาจมาเป็นมนุษย์ได้ เป็นสัตว์ได้ มนุษย์อาจไปเปิดเทวดาได้ เป็นสัตว์ได้ และสัตว์ก็

อาจไปเป็นเทวดาได้ เป็นมนุษย์ได้ ด้วยอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ของกรรมอันนำให้เกิด

นี้เป็นความจริงที่แม้จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ความจริงนี้ก็ย่อมเป็นความจริงเสมอไป

ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงให้ผิดไปจากความจริงได้..

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ปฏิบัติธรรม...ไม่ใช่เพื่อให้ใจสงบหรือมีแต่ความสุข

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


การปฏิบัติธรรมนั้น...

ไม่ใช่เพื่อให้ใจพบกับความสงบ

หรือพบกับความสุขเท่านั้น...

แต่ยังเพื่อให้เราสามารถอยู่กับความไม่สงบ

และความไม่สุขได้ โดยที่ใจไม่ทุกข์

 

พระไพศาล วิสาโล

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:รักษาความถูกต้องของธรรมชาติในภายใน

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

ขอให้เรารักษาความถูกต้องของธรรมชาติในภายในไว้เถิด

การอนุรักษ์ธรรมชาติภายนอกก็จะไม่เป็นของยากเลย

ธรรมชาติทั้งหลายก็จะถูกจัดการกันอย่างถูกต้อง

ธรรมชาติที่เป็นภายใน พระพุทธเจ้าก็ทรงระบุไว้เอง

ท่านเรียกมันว่าธรรมะธาตุ หรือ ธาตุเฉยๆ ธรรมธาตุ

หรือธาตุแห่งธรรม เป็นตัวแท้ตัวจริงเป็นรากฐานแห่งธรรม

นี่ ธรรมธาตุ แล้วท่านก็ยังระบุไปยัง กฎอิทัปปัจจยตา

กฎอิทัปปัจจยตาคือทุกสิ่งต้องเป็นไปตามปัจจัย ตามเหตุ

ตามปัจจัย ท่านประกาศว่า พระพุทธเจ้าหรือพระตถาคตจะเกิด

ก็ตาม พระพุทธเจ้าจะไม่เกิดก็ตาม แต่ธรรมธาตุมันมีอยู่เด็ด

ขาดเป็นของธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ต้องสนใจอย่างยิ่ง

ธรรมชาติในภายในคือกฎอิทัปปัจจยตา ถ้าเรารักษาธรรมชาติภายในหรือธรรมธาตุ คือ

กฎอิทัปปัจจยตาไว้ได้เท่านั้นแหละ ความเห็นแก่ตัวไม่อาจจะเกิดขึ้นในจิต

จิตจะไม่มีความเห็นแก่ตัว ไม่มีความเห็นแก่ตัวแล้วอะไรจะไปทำลายธรรมชาติล่ะ มันไม่มี

มันเป็นไปไม่ได้ รักษาธรรมชาติในภายในไว้ให้ได้เถิด ธรรมชาติในภายนอกก็จะรักษาตัวมันเองได้

โดยอัตโนมัติ เพราะได้สนใจธรรมชาติในภายใน เมื่อเราไม่มีความเห็นแก่ตัว

เราก็รักษาความบริสุทธิ์งดงามของธรรมชาติไว้ได้

พุทธทาสภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:การปฎิบัติมีจุดจบ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ในเบื้องต้น การนั่งสมาธิจะสงบหรือไม่สงบก็ช่างมันเถิด

มันสำคัญที่ความเพียร บุญอยู่ที่ตัวความเพียร การชำระจิตอยู่ที่

ความเพียร ถ้าเราพยายามกำหนดลมหายใจตลอด 20 หรือ 30 นาที

หรือ 1 ชั่วโมง แล้วไม่สงบ อย่าด่วนสรุปว่าไม่ได้อะไรเลย

การปฏิบัติในเบื้องต้นคือการเปิดเผยสิ่งเศร้าหมอง ความฟุ้งซ่าน

วุ่นวาย ในจิตใจ และการฝึกปล่อยวางสิ่งเศร้าหมองเหล่านั้น

เราควรจะถือว่าการฝึกจิตคือการบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ที่สูงสุด ถึงแม้ว่าจิตจะยังไม่สงบ ให้ภาคภูมิใจว่าเราเป็นผู้ที่ตั้งใจ

ทำสิ่งที่พระพุทธเจ้าสั่งให้ทำ

ความยากลำบากในการชนะใจตัวเองต้องมีแน่นอนทุกคน เราจึงต้องอดทน

ความยากลำบากที่เกิดขึ้นเพราะการปฎิบัติมีจุดจบ

ส่วนความยากลำบากซึ่งเกิดขึ้นเพราะไม่ปฏิบัติธรรม ไม่มีจุดจบ

พระอาจารย์ชยสาโร

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ศีล สมาธิ ปัญญา...สั้นๆ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


"..การสำรวมระวังกายวาจาใจเรียกว่า ศีล

 

ใจสงบเรียกว่า สมาธิ

 

อาการที่รู้ทันเมื่อมีอารมณ์มากระทบ

รู้ตามความเป็นจริงเรียกว่า ปัญญา.."

 

หลวงปู่ชา สุภัทโท

ที่มา เห็นธรรมดับทุกข์

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:คุณธรรมที่สำคัญของความเป็นมนุษย์

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

 

ความกตัญญูกตเวที

เป็นคุณธรรมที่สำคัญของความเป็นมนุษย์

ความรู้คุณ...และ...ตอบแทนคุณท่านนั้น

สามารถคุ้มครองรักษาให้พ้นจากความชั่วทั้งปวงได้

ผู้ที่จะตอบแทนบุญคุณผู้ที่ทำคุณแล้ว

ย่อมไม่พูด ไม่ทำ สิ่งที่จะเป็นเหตุ

ให้ท่านผู้มีคุณเดือดร้อน

ความกตัญญูกตเวที มีพลังวิเศษจริง

สมเด็จพระญาณสังวร

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:แต่งกรรมดี

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


อย่าไปดูถูกเหยียดหยามคนนั้นคนนี้ 

มันเกิดอยู่กับกรรมของแต่ละคน 

ใครจะไปแต่งกรรมให้กันไม่ได้ 

เราเป็นคนด้วยกันก็แต่งกรรมดี 

คือพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เอาเป็นหลักใจ

เห็นคนอื่นเขาไม่ดีก็อย่าไปดูถูกเหยียดหยามเขา 



ให้คิดว่าเราก็อยู่ในท่ามกลางแห่งฟืนแห่งไฟเหมือนกัน 

เพราะกิเลสเป็นตัวยุแหย่ก่อฟืนก่อไฟให้เผาไหม้ตลอด  

ให้ระงับกันลงด้วยความให้อภัยซึ่งกันและกัน นั่นเป็นของดิบของดีนะ 

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

#ทบทวนธรรม

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:มีอารมณ์อยู่กับพุทโธ ทำให้มันเห็นของดี

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


มาอยู่นี้ ไม่ได้มาหาลาภยศอะไร มาหาทางหนีจากความทุกข์ กรรม คือการกระทำ

 ทั้งบาปทั้งบุญ ให้พิจารณา รู้ไหมบุญเป็นอย่างไร บาปเป็นอย่างไร 

คนที่ปฏิบัติหาทางออก จากกองทุกข์นั้น มันหายากแล้ว

ให้ลูกหลานจำให้ดี จำได้ไหม 

ให้มีสติ มีอารมณ์อยู่กับพุทโธ พุทโธเอาให้ได้ 

ทำให้มันเห็นของดี จำได้ไหม นี่ไม่ได้พูดเล่นนะ 

ให้จับลมกับกายนี้ กายนี้ให้เห็นเป็นกาย พระธรรมให้ได้ 

มีหูฟังแล้วก็ให้มันเป็นพระธรรม  ตาให้เป็นตาพระธรรม 

กายให้เป็นกายพระธรรม ใจก็ให้เป็นใจพระธรรม 

ทำให้มันได้ ให้มีพุทโธ อยู่กับกายนี้ใจนี้ จำไว้ที่ใจ 

จำได้ไหม จำดีๆ อย่าไปลืมนะ ไม่ต้องไปรู้ที่อื่น มันอยู่ในกายนี้ 

กายนี้แหละมันเป็นทุกข์ อยู่ทุกวันนี้ สังขารจะแตก จะตาย ก็ให้รู้ 


จำได้ไหม สมฺปโยโค ก็ให้รู้ จะต้องจากกัน ไม่ต้องตกใจ ให้พิจารณาเดี๋ยวนี้ 


จำได้ไหม จำให้ดีๆ ให้รู้อยู่กับกายกับใจ อย่าไปลืมให้รู้จริงๆ อย่าทำเล่นไม่ได้นะ กามก็ดี 

ตัวกามนี้จับมันให้อยู่ จับมันมัดไว้ ให้มันตาย 


จำได้ไหม ไม่ว่าสัตว์ว่าคน หากาม แสวงหากาม มันเดือดร้อนวุ่นวาย ก็เพราะกามนี้แหละ 

ชายหญิง สัตว์ ผู้ เมีย ต่างก็ยินดีกันแหละกัน มัวเมากันอยู่อย่างนี้ 

ให้มันเป็นธรรมโม อย่าให้เป็นธรรมเมา ให้ออกจากกาม หา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 

ให้จำไว้ จำไว้ให้มันดี ปฏิบัติให้มันรู้ กามมันตายแล้วมันก็สบาย 

ให้เป็นธรรมโม อย่าให้เป็นธรรมเมา จำให้ดี ๆ นะ ปฏิบัติให้มันรู้.. " 

จำได้ไหมอย่าไปลืมนะ ไม่ต้องพูดมาก พูดมากไปไม่ใช่ธรรมะ มันเป็นธรรมเมา 

โอวาทธรรมหลวงปู่แหวน สุจิณโณ

#ทบทวนธรรม

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ภาษาเพลง...ภาษาธรรม...ถ้าใครนินทาให้ได้ยิน...ก็ช่างปากเค้าปะไร...

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

 การนินทาเป็นโลกธรรมข้อหนึ่ง คือเป็นส่วนหนึ่ง

ของโลก ตราบใดที่โลกมนุษย์ยังมีอยู่การนินทาก็คง

ยังมีอยู่เหมือนกัน เมื่อเราได้เป็นขี้ปากเขา ก็ให้สอนใจ

ตัวเองว่า แม้แต่พระพุทธเจ้า แม้แต่พระอรหันต์

ทั้งหลาย ทุกยุกทุกสมัยก็เคยโดน นับประสาอะไรกับ

ตัวเราผู้หนาด้วยกิเลส เราไม่ต้องหนีไปหาที่อยู่ที่ไม่มี

การนินทาหรอก เพราะสถานที่นั้นหาได้ยากมาก

หน้าที่เราอยู่ที่การตั้งสติไม่ให้เราทุกข์กับการนินทา

อย่าให้จิตคิดปรุงแต่งในสิ่งที่เขานินทา

 

ถ้าเรามีอะไรที่บกพร่องจริงก็ค่อยแก้ไป และยอมรับว่าดีเหมือนกันที่เขานินทา ไม่อย่างนั้นเราคงจะ

ไม่รู้สึกตัวอีกนาน และขอให้เห็นว่าการโดนนินทาหรือใส่ร้ายเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับ

การพิจารณาโทษในความยึดมั่นถือมั่นในอัตตา ศักดิ์ศรี และภาพพจน์ ถ้าเห็นข้อนี้ชัดได้ ถือว่า

คนนินทาได้ทำบุญกับเรามากกว่า

พระอาจารย์ชยสาโร

ฟังเพลง....
หรือใครนินทาให้ได้ยิน ก็ช่างปากเค้าปะไร....


#ทบทวนธรรม

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Select your language