พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
หากเรายินดีถอยห่างออกมา ไม่ปล่อยตัวไปตามกระแส ชีวิตอันเชี่ยวกราก เราจะตระหนักว่าชีวิตอันแสนสั้นและ ไม่มีอะไรแน่นอน และนี้กำลังเป็นคำถามแก่เราว่า อะไรเป็นสาระ อะไรไม่เป็นสาระ อะไรควรค่า อะไรควรค่ามากที่สุด น่าแปลกใจว่ามีคนน้อยมากที่สนใจจะถามตัวเองแบบนี้ เราอยู่ในยุคสมัยซึ่งเต็มไปด้วยคนฉลาดที่มัวแต่ขวนขวาย ทำงานในลักษณะเบียดเบียนตนหรือผู้อื่น หรือไม่ก็ทำงาน ซึ่งในที่สุดแล้วหาแก่นสารอะไรไม่ได้ มีคนจำนวนมาก เหลือเกินที่เฝ้าหาคำตอบฉลาดๆ ให้แก่คำถามอันโง่เขลา |
ในคาถาธรรมบท (คาถาที่ ๑๑ ยมกวรรค) พระพุทธองค์ตรัสว่า
“ชนเหล่าใดเห็นสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และเห็นสิ่งที่เป็นสาระว่าไม่เป็นสาระ
ชนเหล่านั้นมีความคิดผิดเป็นพื้นของจิตใจ ย่อมไม่ได้พบสาระ
ส่วนชนเหล่าใดรู้สิ่งที่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และรู้สิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าไม่เป็นสาระ
ชนเหล่านั้นมีความคิดถูกเป็นพื้นของจิตใจ ย่อมได้พบสาระ”
อาจกล่าวได้ว่า
การภาวนาแบบพุทธคือความเพียรที่จะเผยให้เห็นคำถามอันมีสาระต่อชีวิต
และเพียรตอบคำถามเหล่านั้น
ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร
แปลถอดความ โดย ศิษย์ทีมสื่อดิจิทัลฯ
#ทบทวนธรรม
#ทำให้มันเห็นของดี #ปฏิบัติให้มันรู้
#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา
#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก
#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น