พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
มีพระพุทธภาษิตบทหนึ่งที่เราได้ยินกันมากเหลือเกินว่า
อตฺตาหิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งของตน
พระพุทธภาษิตบทนี้สำคัญมากที่สุด ว่าตนเป็นที่พึ่งของตน แต่ที่เราได้ยินนั้นมันครึ่งเดียว
ยังไม่เต็มบาท ห้าสิบสตางค์เท่านั้น ที่เต็มนั้นต้องมีแถมท้ายอีกหน่อยหนึ่งชั้นแรกว่า
ตนเป็นที่พึ่งของตน ต่อไปข้างท้ายว่า ธรรมะนั่นแหละเป็นที่พึ่งของตน ท่านสอนให้พึ่งธรรมะนั่น
แหละเรียกว่า พึ่งตนเอง หรือในพุทธภาษิตที่บอกว่า เธอทั้งหลายจงทำตนให้เป็นที่พึ่งของตน
อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง แล้วก็แถมท้ายว่า จงมีธรรมเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือให้พึ่งธรรม
ธรรมะก็คือหลักการสำหรับนำมาปฏิบัติ ผู้ใดต้องการที่จะพึ่งตนเองช่วยตนเอง ให้รอดพ้นจาก
ความตกต่ำ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ต้องประพฤติธรรม
|
เมื่อเราประพฤติธรรมก็ชื่อว่ามีธรรมะเป็นที่พึ่ง มีธรรมเป็นแพเป็นเรือสำหรับข้ามฟากของชีวิต ทะเลชีวิตก็คือความทุกข์นั่นเอง สังสารวัฏก็คือความทุกข์ ความเดือดร้อน ที่มันสลับฉากกันอยู่ในจิตใจของเรา ทำให้มืดบอดเร่าร้อนวุ่นวายกันอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าเป็นสังสารวัฏ คือเวียนอยู่เรื่อยไป เวียนไปเวียนมาอยู่ในเรื่องนั้นไม่รู้จักจบสิ้น วนไปวนมา |
เราต้องการจะตัดสังสารวัฏ ต้องตัดด้วยการประพฤติธรรมถ้าเราไม่ประพฤติธรรมก็ตัดไม่ได้
ที่นี้เราประพฤติธรรมเมื่อใดมันก็ค่อยตัดรอนสิ่งนั้นเรื่อยๆ ไป จนกระทั่งว่าตัดได้หมดมันไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป
จิตใจก็ถึงที่สุดคือหลุดพ้นจากความทุกข์เด็ดขาด นี่คือวิธีการของพระพุทธเจ้าสอนให้เรา
พึ่งตัวเองช่วยตัวเอง
ปัญญานันทภิกขุ
#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา
#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก
#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น