Dhamma together:การสั่งสอนธรรมหรือให้ธรรมด้วยความประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองนั้นมีความสำคัญเหนือกว่า

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

การให้ธรรมที่แท้จริง หมายถึงการทำตนเอง

ของทุกคนให้มีธรรม ให้ธรรมในตนปรากฏแก่คนทั้งหลาย

โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมีการแสดงออกเป็นการสั่งสอนด้วย

วาจา การสั่งสอนธรรมหรือให้ธรรม 

ด้วยความประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองนั้น 

มีความสำคัญเหนือกว่า 

การแสดงธรรมแบบพระธรรมเทศนาของพระ 

หรือเช่นด้วย การแจกหนังสือธรรมเป็นอันมากด้วยซ้ำ

เพราะการประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ

จนธรรมนั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายกับใจ นั่นแหละเป็นการแสดงธรรม

ให้ปรากฏแก่ผู้รู้ผู้เห็นทั้งหลายทั้งปวง และจะต้องได้ผลมากกว่า

การให้ธรรมที่เป็นข้อเขียนในหน้าหนังสือ

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก  

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:สำรวมจิตใจ ให้มีความสว่าง สะอาด สงบ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

จะทำอะไรๆ ไม่ต้องใช้กิเลส ใช้ปัญญา

"แม้ที่สุดแต่เราต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ซึ่งคนส่วนมาก

จะต้องใช้กิเลส เราก็ไม่ต้องใช้กิเลส เราทำด้วยจิตใจที่

ประกอบไปด้วยสติสัมปชัญญะ ตามที่เราจะทำได้อย่างไร

เราจะตีด่าว่ากล่าวเด็กๆ ที่เป็นลูกเป็นหลาน

เราก็ไม่จำเป็นต้องบันดาลโทสะ จงสำรวมจิตใจ

ให้มีความสว่าง สะอาด สงบ แล้วใช้อำนาจของ

ความสว่างคือสติปัญญานั้นทำไป ตามที่รู้สึกว่า

ควรทำอย่างไร ในที่สุดก็เป็นผลดี 


แม้ที่สุดแต่การที่เรา จะบริโภควัตถุปัจจัยสิ่งของต่างๆ ตามธรรมดาของมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่

ก็จะต้องเป็นไปด้วยสติสัมปชัญญะ ถ้ายังบังคับตนไม่ได้ยัง จะต้องเกี่ยวข้องด้วยรูป รส กลิ่น เสียง

สัมผัส ก็ยังต้องทำไปด้วย สติสัมปชัญญะ อย่างนี้มันก็ไม่สูญเสียไปโดยสิ้นเชิง

คือจะยังมีความสะอาด สว่าง สงบ เหลืออยู่บ้างตามสมควร ที่พอจะเรียกได้ว่ายังพอมีอยู่กับเนื้อ

กับตัว แต่ถ้าเราโง่เขลา ไปตามอำนาจกิเลสโดยสิ้นเชิงแล้ว ก็ไม่มีอะไรเหลือ และการกระทำ

นั้นๆ ก็จะเหมือนกับการกระทำของสัตว์เดรัจฉาน ไม่ผิดไม่แปลกไม่แตกไม่ต่างอะไรกันเลย แล้วจะมี

ความดับทุกข์ได้อย่างไร  จะเป็นมนุษย์ได้ที่ตรงไหน"

พุทธทาสภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:“วันแรกของวันที่เหลือ” หรืออาจเป็น “วันสุดท้ายที่เราใช้มาจนเวลาได้หมดลงแล้ว”

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


คืนวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๑ หลวงพ่อของพวกเรา (พระเดชพระคุณพระเทพสิทธินายก) มีอาการไม่สบาย

ลูกศิษย์จึงนำไปส่งโรงพยาบาลใกล้วัด ไม่มีใครคิดว่า นั่นจะเป็นการไปโรงพยาบาลครั้งสุดท้ายของ

หลวงพ่อ พอเช้าวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๘.๕๐ น. หลวงพ่อก็จากพวกเราไปอย่างสงบ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายจะเสียใจและตกใจกับข่าวนี้เพียงไร ทุกคนพูดเหมือนกันว่า

“มันเร็วเกินไป” แต่นี่แหละคือ สัจธรรมของชีวิต ที่เป็นเทศนาสุดท้ายซึ่งหลวงพ่อกำลังสอนพวกเรา

หลวงพ่อสอนว่า “จงอย่าประมาท”

เพราะ “ความตายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา”

ความตาย ไม่มีนิมิต ไม่มีเครื่องหมาย

ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าตนจะทอดร่าง

วางขันธ์ลงตรงไหน สิ่งที่เราทำได้

อย่างดีที่สุดก็คือ ดำเนินชีวิตในแต่ละวัน

ด้วยความไม่ประมาท

สมกับที่พระบรมศาสดาได้ตรัสเอาไว้ว่า

ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา

เธอทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด

เทียนเล่มหนึ่ง เมื่อมันถูกจุดขึ้นมาแล้ว ไม่เร็วก็ช้า ก็ต้องดับไป ฉันใด ชีวิตเราทุกคนก็เหมือนกัน

กล่าวคือ เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว ไม่วันใดวันหนึ่งข้างหน้าก็ต้องแตกดับไป ฉันนั้น

ว.วชิรเมธี


#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ฝึกให้สงบท่ามกลางความไม่สงบ ต้องฝึกอย่างไร?

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

ฝึกให้สงบท่ามกลางความไม่สงบ ต้องฝึกอย่างไร?

สงบแบบห้ามคิดห้ามพูดถึงเรื่องที่ไม่สงบ ทำยาก

และไม่เกิดผลดีในระยะยาว ให้สงบด้วยปัญญา

ดีกว่า คือยอมรับในสิ่งที่ไม่สงบที่เกิดขึ้นว่า

เป็นเรื่องธรรมดา เรื่อง ‘เช่นนั้นเอง' แล้วงดการคิด

ปรุงแต่งด้วยความโกรธความแค้น

หรือความรำคาญ ซึ่งล้วนแต่เป็นอาการของ

วิภวตัณหา แค่นี้ก็ช่วยได้เยอะ

จิตที่สงบเพราะรู้เท่าทันปัญหาว่าเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งเกิดตามเหตุตามปัจจัย

คือจิตที่มีกำลัง และ สุขุมรอบคอบพอที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาตรงเหตุ

พระอาจารย์ชยสาโร

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ขอให้ไปศึกษากันเสียใหม่ ว่า การงานนั้นมันคือการประพฤติธรรม

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 


 การทำการงานนั้นก็คือการประพฤติธรรม แต่ด้วยเหตุที่พ่อแม่

มันไม่สอน ไอ้ลูกหลานมันก็ไม่รู้ ว่าการทำงานนั้นคือ

การประพฤติธรรม มันแยกออกจากกันเสีย มันก็เลยกลายเป็น

ภาระ หลายฝักหลายฝ่าย ทำงานแล้ว ยังจะต้องไปประพฤติ

ธรรม หรือทำบุญทำกุศล มันก็เลยมีหลายภาระ

ในฐานะที่เป็นพุทธบริษัทก็ดี หรือว่าศาสนาอื่นก็ดี สอนตรงกัน

หมด ในข้อที่ว่า การทำหน้าที่ของตนนั้น คือการประพฤติธรรม

คำว่า ธรรม ธรรมะ แต่โบราณกาลมาแล้ว เขาหมายถึงหน้าที่

ที่คนจะต้องทำ แม้แต่เป็นเรื่องให้ได้กินได้อยู่ ก็เรียกว่าหน้าที่

 

หรือว่าจะทำเพื่อบรรลุมรรคผลนิพพานในที่สุดนั้นก็เรียกว่า หน้าที่ก็คือธรรมที่จะต้องประพฤติ

ปทานุกรมกลางๆไม่เกี่ยวกับศาสนา ไม่เกี่ยวกับอะไร เขาก็จะแปลคำธรรมะว่าหน้าที่ มาแต่ดั้งเดิม 

ทีนี้ปัญหาทั่วประเทศก็คือว่ามีแต่คนทำงานอย่างเสียไม่ได้ เพื่อเอาเปรียบ ทำเล็กน้อยก็เรียกร้อง

ประโยชน์มาก อย่างนี้ก็จะเกิดปัญหาเรื่อยไปไม่มีที่สิ้นสุด...เพราะมันไม่สนุกกับการทำงาน ไม่เห็น

ว่าการทำงานคือการประพฤติธรรม ฉะนั้นขอให้ไปศึกษากันเสียใหม่ ว่า การงานนั้นมันคือการ

ประพฤติธรรม แม้แต่จะทำนา ต้องฝึกฝนให้มีสติปัญญา ให้มีความพากเพียร ให้มีความอดทน ให้มี

ความสามัคคี ให้รู้จักประหยัด แต่ละอย่างละๆนี้เหล่านี้เป็นธรรมะทั้งนั้น แล้วก็พอใจว่าได้ทำหน้าที่

ก็สบายใจ เคารพตัวเอง นับถือตัวเอง อย่างนี้เรียกว่าทำการงานมันสนุก ก็ได้ประพฤติธรรม

แล้วก็ควรจะมีอุบาย ชนิดที่จะได้ทำการงาน และสนุกสนานพร้อมกันไปในตัว ไม่ใช่ว่า มันจำเป็น

จะต้องทำ ก็ทำอย่างคร่ำเครียดหน้าดำ แล้วก็คอยแต่จะโมโหโทโส ในการงานที่ไม่เป็นไปอย่างใจ

หรือทำไม่ทันใจ ความโลภมันมาก คนที่ทำการงานนั้นก็มีอาการเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น จะเสื่อม

สุขภาพ แล้วมันก็ไม่รู้ว่าจะไปมีความสุขกันเมื่อไหร่

ฉะนั้นถ้าเป็นพุทธบริษัท เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าผู้มีปัญญา ก็ต้องรู้สึกสนุก รู้สึกพอใจ ตั้งแต่

เมื่อคิดว่าจะทำ แล้วก็ทำอยู่ ทำอยู่ ทำอยู่ จนเกิดผลสำเร็จขึ้นมา เพียงว่าได้ทำงานนี่ก็พอใจ

ได้ทำหน้าที่ของมนุษย์ มีความรับผิดชอบในการที่เป็นมนุษย์ ได้ทำหน้าที่ของมนุษย์ ก็พอใจ

เคารพนับถือตัวเองได้ ถ้าว่ามีการชี้แจงชักชวน ส่งเสริม เกลี้ยกล่อมอะไรกันให้ลูกหลานเข้าใจใน

เรื่องนี้ โดยตัวเองก็ทำเป็นตัวอย่างที่ดี คือเป็นผู้มีความสนุกในการงานแล้ว จะได้รับผลประโยชน์

กว้างขวางกว่านี้ กว่าที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้

พุทธทาสภิกขุ

ที่มา : โอวาทแก่คณะกลุ่มเกษตรกร ๓๐ กว่าจังหวัด ปี พ.ศ. ๒๕๑๘

#จดหมายเหตุพุทธทาส 9115180217000

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:อะไรที่เธอผลักไสจะคงอยู่ อะไรที่เธอตระหนักรู้จะหายไป

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


 ความโกรธเกิดขึ้นเมื่อจิตเผลอ ไม่มีสติ หลง เมื่อสติเกิดขึ้น

ความหลงจะหายไป ความเผลอจะหายไป เพราะความโกรธนั้น

ไม่มีที่ตั้ง ปัญหาของผู้ปฏิบัติก็คือ ขณะที่รู้ว่าโกรธนั้น ลึกลงไปใน

ใจมีความรู้สึก ไม่ชอบความโกรธนั้นร่วมอยู่ด้วย จึงไม่ใช่แค่

"รู้เฉยๆ" แต่มีความรู้สึกว่า อยากผลักไสความโกรธออกไปด้วย

จึงไม่ใช่สติที่บริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ หากจะเปรียบความโกรธ

เหมือนไฟ และสติเหมือนน้ำ เหตุใดน้ำนี้จึงดับไฟไม่ได้?

สาเหตุที่น้ำนี้ไม่สามารถดับไฟได้ ก็เพราะน้ำนี้ไม่บริสุทธิ์

แต่เจือด้วยน้ำมัน  


น้ำมันในที่นี้ คือ ความรู้สึกลบต่อความโกรธ อยากจะให้ความโกรธหายไป มันมีทั้งตัณหาและโทสะร่วมอยู่

ด้วยกัน ตัณหา คือ ความอยากให้ความโกรธหายไป โทสะ คือ ไม่ชอบความโกรธ รู้สึกลบต่อความโกรธ

จึงเปรียบเหมือนน้ำที่ไม่บริสุทธิ์ เจือด้วยน้ำมัน หลายคนมักบ่นว่า "ทำไมรู้ว่าโกรธแล้วไม่หายโกรธ"



สาเหตุก็เพราะว่าไม่ได้แค่รู้เฉยๆ ไม่ได้รู้ด้วยใจที่เป็นกลาง แต่มีความรู้สึกลบต่อความโกรธร่วมอยู่ด้วย...

สิ่งใดก็ตามที่ถูกกดข่มจะสู้ จะต่อต้าน มีคำพูดหนึ่งที่อาตมาใช้ได้ดี คือ อะไรที่เธอผลักไสจะคงอยู่ อะไรที่

เธอตระหนักรู้จะหายไป เราต้องมีสติรู้ให้เท่าทันตรงนี้ให้มากขึ้น ซึ่งเป็นตัวที่ละเอียด เมื่อเราแค่รู้เฉยๆ

ความโกรธจะดับไปเอง ความฟุ้งซ่านก็เช่นเดียวกัน แต่หากยิ่งพยายามกดข่มไว้ ความฟุ้งซ่านก็จะยิ่ง

รังควานจิตใจเรา สิ่งใดที่เรากดข่มจะไม่ยอมไปง่ายๆ ถ้าเป็นความรู้สึกผิด ยิ่งพยายามกดข่ม ยิ่งพยายามลืม

ก็จะยิ่งรบกวนจิตใจหนักขึ้นไปอีก หนทางเดียวเท่านั้นที่จะช่วยได้ก็คือ ต้องรู้มันด้วยใจที่เป็นกลาง อารมณ์

เหล่านั้นก็จะไม่มีที่ตั้งอีกต่อไป

พระไพศาล วิสาโล

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:เราจะทำบุญก็ดี เราจะทำอะไรก็ดี จงทำด้วยความสงบ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


"เราจะทำบุญก็ดี เราจะทำอะไรก็ดี

 จงทำด้วยความสงบ

 อย่าทำด้วยอารมณ์แห่งความร้อน 

 เพราะการทำด้วยอารมณ์ร้อนนั้น 

 มันจะพาเราไปสู่หายนะ เมื่อเกิดอารมณ์ร้อน 

 เราจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จงอย่าทำ 

 นั่งให้จิตใจมันสบายเสียก่อน 

 เมื่อจิตใจสบายแล้วปัญญาก็เกิด 

 เมื่อเกิดปัญญาแล้ว 

 จะทำสิ่งใดก็เป็นไปโดยความสะดวก

หลวงปู่ทวด วัดช้างให้

#ธรรมะทำใหม่ 

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:เสริมสร้างมโนธรรมให้เข้มแข็ง อันจะนำไปสู่การปล่อยวางจากความยึดติดถือมั่นในตัวตน

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

 ไม่ว่าจะทำอาชีพการงาน หรือทำกิจวัตรประจำวัน

 ก็สามารถเป็นโอกาสปฏิบัติธรรม หรือฝึกฝนจิตใจได้เสมอ

 เช่น ฝึกให้มีสติรู้ตัวอยู่เสมอ หรือลดละความเห็นแก่ตัว

 บ่มเพาะเมตตากรุณา รวมทั้งเสริมสร้างมโนธรรมให้เข้มแข็ง

 อันจะนำไปสู่การปล่อยวางจากความยึดติดถือมั่นในตัวตน

 หากปล่อยวางสิ่งติดยึดได้มากและลึกเท่าใด

 โพธิจิต ซึ่งอยู่แกนกลางของใจก็จะงอกงาม

 และเปล่งประกายสุกสว่างมากเท่านั้น

 ทำให้ชีวิตปลอดโปร่งสงบเย็นอย่างยิ่ง”

พระไพศาล วิสาโล

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:อธิษฐานสำเร็จและได้บุญ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

อธิษฐานอะไรต้องใช้ปัญญา ถ้าอธิษฐานอะไรที่ยากเกินไป

แล้วไม่สำเร็จจะรู้สึกท้อแท้ใจ และเสียความเชื่อมั่นในตัวเอง

ถ้าอธิษฐานอะไรง่ายเกินไป สำเร็จแล้วจะไม่รู้สึกภาคภูมิใจ

จะอธิษฐานอะไรควรเลือกข้อวัตรปฏิบัติที่ยากสักหน่อยหนึ่ง

คือควรจะรู้สึกในความท้าทาย ควรเลือกสิ่งที่จะสำเร็จ

ก็ด้วยการขัดเกลากิเลสพอสมควร สิ่งที่อธิษฐานควรจะ

เจาะจง และมีวิธีประเมินผลที่ชัดเจน เพราะถ้าอธิษฐานกว้างๆ

เช่นว่า จะเป็นคนน่ารักกว่าเดิมจะประเมินผลยาก

การอธิษฐานเป็นเครื่องมือที่สำคัญของนักปฏิบัติธรรม อธิษฐานอะไรได้สำเร็จ

ความยับยั้งชั่งใจเพิ่มมากขึ้น ความสำรวมเพิ่มมากขึ้น ความเชื่อมันในศักยภาพของตนเพิ่มมากขึ้น

เรียกว่าได้บุญตนเพิ่มมากขึ้น เรียกว่าได้บุญ

พระอาจารย์ชยสาโร

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:เราเป็นตัวอย่างให้เขาดู...ดีกว่าเราพูดให้เขาฟัง...

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


ขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ ให้มีความเสียสละ 

เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น...

เราเป็นตัวอย่างให้เขาดู...ดีกว่าเราพูดให้เขาฟัง

รู้น้อยแล้วปฏิบัติ...ดีกว่ารู้สารพัดแล้วอยู่เฉยๆ

โดยไม่ได้ทำอะไร 


สังคมเราจะอยู่อย่างสงบสุขได้ ก็ต้องมีความปรารถนาดี ช่วยเหลือเกื้อกูล มีเมตตาต่อกัน

เพราะการให้ ยิ่งให้ยิ่งมี ยิ่งให้ยิ่งได้ การอิ่มใจนั้น จะอิ่มได้นาน

พระอาจารย์ปารมี สุรยุทฺโธ 

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

 

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:สุขสงบคืออยู่ตรงกลาง

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

"มัชฌิมาปฏิปทา ก็แปลว่าทางสายกลาง จะกินความไปสูงสุดถึงเรื่องที่มนุษย์ไม่ค่อยจะสนใจ

อย่างจะใช้คำว่าถ้ามันเป็นกลาง เป็นทางสายกลางนั่นมัน "ไม่เป็นคู่ตรงกันข้าม"

คือมันไม่บวกและมันไม่ลบไม่บวกเป็น positivism ไม่ลบเป็น negativism

เดี๋ยวนี้มนุษย์เรามันชอบ positivism จนหลงใหล หลงใหล ก็เกลียด negativism เข้ากระดูก

มันก็ไม่ตรงกลาง มันต้องไม่ positiveไม่ negative คือไม่บวกและไม่ลบ จิตมันจึงจะอยู่

ตรงกลาง คือสงบหรือจะเรียกว่าพักผ่อนก็ได้

พระพุทธเจ้าท่านจึงเอามาใช้เป็นหลักดับไม่เหลือแห่งทุกข์

ดับไม่เหลือแห่งทุกข์ คือมัชฌิมาปฏิปทา มันอยู่ตรงกลาง

แต่ถ้าฟังไม่ถูกก็ฟังไม่ถูกนะ อาจจะเห็นว่าสอนให้ ไม่ให้

รักดี รักบุญ รักถูกไปเสียอีก เราต้องการความสงบสุขแล้ว

มันจะต้องอยู่ตรงกลางเสมอไป สำหรับคนแรกศึกษา

ให้รักดีเข้าไว้ ตรงนี้อยากจะบอกว่าสำหรับเด็กๆ หรือ

ปัญญาอ่อน ให้มันรักดีเข้าไว้ ให้มันรักบวกเข้าไว้

มันำไม่ได้หรอกที่มันจะ "เหนือดีหรือเหนือชั่ว"

มันทำไม่ได้ ไอ้ลูกเด็กๆ รักดีมีตัวตนไปก่อน 

ฟังแล้วก็ค่อยๆ สูงขึ้น สูงขึ้น มันก็เหนือดี พ้นดี มันก็เป็นกลางได้ แต่ถ้ามีสติปัญญาเดี๋ยวนี้แล้ว

ก็ดูเถิด ดีก็ยุ่งไปแบบดี ชั่วก็ยุ่งไปแบบชั่ว บุญก็ยุ่งแบบบุญ บาปก็ยุ่งไปแบบบาป ถ้าไม่ดีไม่ชั่ว

ไม่บุญไม่บาป ไม่สุข ไม่ทุกข์ ไม่ได้ไม่เสีย ไม่แพ้ไม่ชนะ ไม่กำไรไม่ขาดทุนไม่อะไร เหล่านี้มันคือ

สงบคืออยู่ตรงกลาง  แต่เค้าก็ไม่ค่อยคิดกัน เค้าชอบฝ่ายได้ฝ่ายบวก ชอบความเห็นแก่ตัว มันเป็น

พื้นฐาน ขอให้เรารู้หลักธรรมะนี้ ความเห็นแก่ตัวมันทำให้เอียงไปตามความรู้สึกของตัวคือกิเลส

มันจึงชอบฝ่ายบวก หลงใหลฝ่ายบวก เมื่อควบคุมไว้ไม่ได้ ความเห็นแก่ตัวนั้นก็ทำร้ายทำอันตราย

ตัวเอง ทำอันตรายผู้อื่น ฝรั่งเค้าไม่ค่อยเข้าใจ เมื่อผมบอกเค้าว่า ธรรมะ ธรรมะนี้ เพื่อทำจิตใจให้

อยู่เหนืออำนาจของบวกของลบ ทำจิตใจให้อยู่เหนืออำนาจ ของ positivism และ

negativism พวกฝรั่งเค้าจะไม่เข้าใจ แล้วเค้าจะไม่เชื่อว่ามันทำได้ ทำจิตใจให้อยู่เหนืออำนาจ

ของ positivism ซึ่งคนทั้งหลายทั้งโลกเค้าบูชากันทำไม่ได้ แต่เราบอกเค้าว่าธรรมะในพุทธ

ศาสนาต้องการอย่างนี้ ต้องการอย่างนี้"

พุทธทาสภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together : ผันเคราะห์ให้เป็นโอกาส

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

คนประมาททำโอกาสให้เป็นเคราะห์ 

แต่คนฉลาดทำเคราะห์ให้เป็นโอกาส

เป็นอันว่า ตอนนี้มีเคราะห์แล้ว ยอมให้มีความเศร้าโศก

เสียใจโอดครวญกันชั่วระยะสั้นๆ 

พอระบายเสร็จแล้วก็ #ให้รีบตั้งสติ 

ต่อไปนี้ก็รีบมาดีใจว่าเจอเคราะห์แล้ว 

ทำมันให้เป็นโอกาส ผันเคราะห์ให้เป็นโอกาส 

แล้วเราก็จะเจริญก้าวหน้าต่อไป ไม่ต้องกลัว

ฉะนั้น อย่าไปหมดกำลังใจ พระพุทธศาสนาไม่สอนให้เราท้อแท้ ไม่สอนให้เราท้อถอยอ่อนแอ 

เมื่อเจอปัญหา เจอเคราะห์กรรม เจอภัยอันตรายแล้ว ให้เข้มแข็ง แล้วใช้มันให้เป็นประโยชน์

ในการฝึกปรือตัวเองให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป แล้วเราจะมีความชำนิชำนาญยิ่งขึ้นในการที่จะ

แก้ปัญหา ในการที่จะผจญเคราะห์กรรมภัยอันตรายให้ผ่านก้าวไปสู่ความสำเร็จในการสร้างสรรค์

พัฒนาได้ต่อไป”

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( ป. อ. ปยุตฺโต )

ที่มา : จากธรรมบรรยายเรื่อง “ถ้าอยากพ้นวิกฤติ ต้องเลิกติดไสยศาสตร์”

#ทบทวนธรรม

#ทำให้มันเห็นของดี #ปฏิบัติให้มันรู้

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ผู้ปฏิบัติธรรมย่อมจะมีชีวิตและกิจการงาน ที่ประกอบด้วยความสว่าง สะอาด และสงบ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

“...ธรรมะในพระพุทธศาสนานั้นบริบูรณ์ด้วยสัจธรรม ที่เป็นสาระและเป็นประโยชน์ในทุกระดับ ซึ่งบุคคล

สามารถจะศึกษาและปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ คือความเจริญผาสุกแก่ตนได้อย่างแท้จริง กล่าวคือ

ผู้ปฏิบัติธรรมย่อมจะมีชีวิตและกิจการงาน ที่ประกอบด้วยความสว่าง สะอาด และสงบ

ที่ว่าสว่างนั้นคือมีปัญญารู้เหตุรู้ผล รู้ผิดชอบชั่วดีโดยกระจ่างชัด

ที่ว่าสะอาดนั้นคือไม่มีความทุจริตทั้งกายวาจาใจมาเกลือกกลั้ว เพราะเห็นจริงชัดในกุศลและในอกุศล

ที่ว่าสงบนั้น คือเมื่อไม่ประพฤติทุจริตทุก ๆ ทางแล้วความเดือนร้อนจากบาปทุจริต ก็ไม่มาแผ้วพาล

 

คนที่ประพฤติตนปฏิบัติงานโดยตั้งอยู่ในธรรมอย่างเคร่งครัด จึงเป็นผู้มีปรกติสุขอยู่ร่มเย็น

ไม่ทำความเดือดร้อนให้แก่ตนเอง แก่ผู้อื่น และสังคมส่วนรวม

ท่านทั้งหลายผู้ตั้งใจอุทิศแรงกายแรงใจของตน เพื่อพระพุทธศาสนาและความผาสุขของประชาชน 

จึงควรจะเพียรพยายามปฏิบัติส่งเสริมให้มหาชนได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมะอย่างถูกต้องทั่วถึง 

ก็จะช่วยให้แต่ละบุคคลดำรงตนอยู่ได้อย่างมั่นคงและเป็นสุขในทุกสถานการณ์ 

และช่วยค้ำจุนส่วนรวมมิให้เสื่อมทรุดลงได้ดังที่ท่านมุ่งหวัง…”

พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการประชุมสมาคมพุทธศาสนา ทั่วราชอาณาจักร

ครั้งที่ ๔๐ เรื่อง “พระพุทธศาสนากับภาวะวิกฤตของสังคมไทย” ณ วัดพระยายัง กรุงเทพมหานคร

วันเสาร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๑

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:จุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหา คือการกำหนดตัวปัญหาให้ชัดเจน

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 


ระวังคำว่า ควร คำว่า ไม่ควร ระวังคำว่า น่าจะ คำว่า ไม่น่าจะ

คำเหล่านี้อันตราย เป็นเหตุให้เกิดทุกข์

หลงอยู่กับคำเหล่านี้ก็ล่อแหลมต่อความ น้อยใจ เสียใจ

ท้อแท้ใจ  ที่จริง ควร และ น่าจะ แปลว่า เราต้องการ

ไม่ควร และ ไม่น่าจะ แปลว่า เราไม่ต้องการ เช่น

เราควรจะเป็นคนดีกว่านี้ เราน่าจะเป็นคนดีกว่านี้ แปลว่า

เราต้องการให้เราดีกว่านี้ เขาไม่ควรทำอย่างนั้น

เขาไม่น่าทำอย่างนั้น แปลว่าเราไม่ต้องการให้เขาทำอย่างนั้น

คำว่า ควร ไม่ควร น่าจะ ไม่น่าจะ เกิดจากการมองไม่เห็นว่าสิ่งทั้งหลายเป็นไปตามเหตุ

ตามปัจจัย ไม่เป็นไปตามความอยาก ความคาดหวัง หรือมาตรฐานของเรา

จุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหา คือการกำหนดตัวปัญหาให้ชัดเจน

แล้วคอยสร้างเหตุปัจจัยให้มันคลี่คลายไป

พระอาจารย์ชยสาโร

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:"วัตถุมงคล"

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


 "วัตถุมงคล" ถ้ากรรมมาตัดรอนแล้ว ป้องกันไม่ได้

 ป้องกันไม่ได้ ไม่ว่าสิ่งไหน จะไปต้านทานอำนาจกรรมนั้น

 ไม่มี แต่ถ้าผู้นั้น รู้ความหมายในวัตถุนั้นๆ ว่าเขาสร้างขึ้นมา

 ส่วนมาก เขาใช้สัญลักษณ์ ของผู้ที่ทำแต่ความดี 

 การมีวัตถุมงคลไว้ติดตัว ก็มีไว้เป็น เครื่องเตือนสติ-ปัญญา 

 ของตนไม่ให้ประมาทในการกระทำของตน 

 และต้องทำแต่ความดีเสมอ

 เรามีของดีอยู่กับตัว ก็ต้องทำแต่ความดี อย่างนี้แล้ว

 ก็นับว่า ผู้นั้นได้รับประโยชน์จากวัตถุมงคลนั้นๆ..

โอวาทธรรม

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ

วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ร่างกายกับใจนั้น จะต้องมีการพักผ่อนเท่าๆ กัน

p>พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

ร่างกายกับใจนั้น จะต้องมีการพักผ่อนเท่าๆกัน

ร่างกายพักผ่อนด้วยการนอน หลับนอนในเวลากลางคืน

ใจนั้นพักผ่อนด้วยการสงบอารมณ์ อันจะเป็นเหตุให้เกิด

ความวุ่นวายยุ่งยากทางใจด้วยประการต่างๆ

ถ้าเราพักผ่อนแต่เพียงร่างกาย จิตใจไม่ได้พักผ่อนเลย

ก็เกิดเป็นปัญหา เพราะว่าความเหน็ดความเหนื่อยทั้งหลายนั้น

มันอยู่ที่ใจ มากกว่าที่อยู่ที่ร่างกาย ความเหนื่อยทางใจนั้น

เป็นความเหนื่อยที่ลึกซึ้ง ส่วนความเหนื่อยทางร่างกายนั้น

เป็นแต่เพียงผิวเผิน แก้ง่ายสะดวกสบาย ไม่ลำบาก

แต่ว่า ความเหน็ดเหนื่อยทางจิตใจนั้น เป็นเรื่องที่แก้ยาก...

 

ทีนี้โดยปกติอารมณ์ต่างๆ นั้น ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นเครื่องยั่วเสมอไป ไม่ใช่ยั่วให้เกิดความโกรธเคือง

อะไรๆ เสมอไปก็หามิได้ มันมีเฉพาะเรื่องเฉพาะบางประการ ขอให้เราสังเกตุว่า ตาได้เห็นรูป

หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายได้ถูกต้องสิ่งไรก็ตาม บางทีมันก็เฉยๆ ไม่มีความรู้สึกอะไร

เช่น ตาเราเห็นของบางอย่างมันก็เฉยๆ ไม่มีการปรุงแต่งเป็นความรักความชัง หรืออะไรขึ้นมาในใจ

แม้แต่น้อย มันเพียงสักแต่ว่าเห็นแล้วผ่านพ้นไปเท่านั้นเอง แต่ว่าอารมณ์บางประเภทมันก่อให้เกิด

อะไรขี้น เช่นก่อให้เกิดความกำหนัด เกิดความขัดเคือง เกิดความลุ่มหลง เกิดความมัวเมาขึ้นในใจ

ของเรา มันก็มีเหมือนกัน อันนี้ขอให้เราสังเกตุดูตัวเราเอง ว่าเวลาเราเห็นอะไร ได้ยินอะไร

ได้รสอะไร ได้ถูกต้องสิ่งใดสภาพจิตของเรา มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มีความกำหนัดเกิดขึ้นหรือไม่มี

โทสะเกิดขึ้นหรือไม่ มีความลุ่มหลงเกิดขึ้น หรือไม่มีความมัวเมา มีความริษยา มีความพยาบาท

เคียดแค้น ต่อสิ่งเหล่านั้นที่มากระทบหรือไม่ ให้คอยสังเกตุลักษณะความคิดที่เกิดขึ้นในใจของเรา

การคอยสังเกตุนี่แหละ คือ เพ่งอยู่เฉพาะหน้าเหมือนกัน

"ปจฺจุปฺปนฺนญฺจ โย ธมฺมํ" คือ การเพ่งอยู่เฉพาะหน้า ก็คือการคอยสังเกตดูว่า เมื่อสิ่งนั้นมากระทบ

ตาเกิดอะไรขึ้น เสียงมากระทบหูแล้วเกิดอะไรขึ้น กลิ่นมากระทบจมูก ของเราแล้วเกิดอะไรขึ้น

เรารับประทานอาหาร เช่นรับประทานรสเปรี้ยว รสเค็ม รสหวาน รสผสมกัน เราก็ต้องคอยสังเกตุว่า

พอเคี้ยวถูกสิ่งนั้น มีรสเป็นอย่างนั้น อะไรเกิดขึ้นในใจเรา ให้คอยกำหนดไว้ ขณะรับประทาน

อาหารเข้าไปในปาก ก็คอยกำหนดไว้ ขณะดื่มก็คอยกำหนดไว้ ขณะรับประทานอะไรเข้าไปในปาก

ก็คอยกำหนดไว้ ตาได้ดู หูได้ฟัง จมูกได้กลิ่น มือได้สัมผัสสิ่งใด เราก็คอยกำหนดสิ่งนั้นไว้ ว่ามัน

เกิดอะไรขึ้นบ้างในจิตของเรา เราก็จะได้รู้ว่ามันเกิดอะไร

ปัญญานันทภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ภาวะของความสะอาด สว่าง สงบ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา มาฝึกกับพวกสิ



พระพุทธเจ้าคือภาวะของความ สะอาด สว่าง สงบ

สะอาด คือ ความที่จิตใจปกติ ไม่มีมลทิน

สว่าง คือ ความรู้ที่เห็นความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้นใน

จิตใจของตัวเอง

สงบคือ ความที่จิตใจปราศจากความคิด โลภ โกรธ หลง

ความคิดโลภ โกรธ หลง 

นี้แหละ คือทุกข์

พุทธองค์จึงตรัสสอนไว้ว่า

 มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น มีแต่ทุกข์เท่านั้นตั้งอยู่ มีแต่ทุกข์เท่านั้นดับไป

การทำวิปัสสนา เห็นธรรมนั้น จะต้องเห็นความคิดของเรา ไม่ใช่ไปเห็นแสงสี เทวดา

ท่าน ว. วชิรเมธี

#ทบทวนธรรม #ทำให้มันเห็นของดี #ปฏิบัติให้มันรู้

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน


Dhamma together: เผยแผ่ศาสนานั้น....ควรเผยแผ่ในใจตนก่อน...

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...



"การที่บุคคลคิดที่จะ เผยแผ่ศาสนานั้น เป็นสิ่งที่ดี

 แต่ที่ถูกต้อง ควรเผยแผ่ในใจ ตนก่อน 

เพราะจุดศูนย์กลาง แห่งการปฏิบัติ 

มิใช่อยู่ที่ พระพุทธเจ้า หรือ ครูบาอาจารย์

 หากอยู่ที่ตัวผู้ปฏิบัติเอง


- ท่านพ่อลี ธมฺมธโร -

#ทบทวนธรรม

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ทำไมเราจึงได้ถือศีล?

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา มาฝึกกับพวกเราสิ





ทำไมเราจึงได้ถือศีล?

ก็เพื่อทำใจของเราให้ดีขึ้น ให้งดงามขึ้น ให้ประณีตขึ้น

จิตใจคนที่ไม่มีศีลมันหยาบกระด้าง มีแต่ความโหด

ความดุร้าย ถึงบทจะฆ่าก็ฆ่า

ถึงบทจะลักก็ลัก

ถึงบทจะล่วงเกินอะไรก็ล่วงเกิน

ถึงบทจะพูดคำหยาบพูดโกหกก็พูดออกไป

ไม่มีอะไรเป็นหลักเกณฑ์ ถึงบทจะดื่มของมึนก็ดื่มเข้าไป

อย่างนี้แหละเรียกว่าผู้ไม่มีหลักเกณฑ์ ทำอะไรก็ทำไปตามความอยากความปรารถนา

ไม่มีความสำนึกว่า การทำนั้นจะเป็นการเสียหายแก่ ตนเอง แก่ท่าน ไม่มีธรรมประจำจิตใจ

เป็นพื้นฐานชั้นต้น เรียกว่าเป็นคนไม่มีศีล

ปัญญานันทภิกขุ


#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:เมื่อไรก็ตาม ได้ใกล้ชิดธรรมชาติกันเสียบ้างนั้น ควรจะถือว่าเป็นโชคดี

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

อาตมาอยากจะบอกท่านว่า ที่นี่ก้อนหินก็พูดได้ ต้นไม้ก็พูดได้; เว้นแต่ว่า หูของคนฟังจะดี

หรือไม่ดี. ท่านลองคิดดูว่า ต้นไม้พูดได้ ก้อนหินพูดได้ นี้เป็นอย่างไร, แม้แต่เม็ดกรวดเม็ดทราย

ก็พูดได้. ที่แท้ก็เป็นเรื่องที่ท่านมองเห็นกันอยู่แล้ว แต่ว่ากลับไม่เห็น หรือมองข้ามไป

เมื่อเรานั่งที่ก้อนหิน หรือเพ่งดูธรรมชาติเช่นก้อนหินก้อนใด

นาน ๆ ความคิดอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น เป็นความคิดชนิด

ที่ไม่อาจจะเกิดเวลาอื่นหรือที่อื่น แต่มันเกิดเฉพาะเมื่อเรานั่ง

ใกล้ก้อนหินก้อนนี้ เราก็ถือว่าก้อนหินก้อนนี้พูดได้ หรือเมื่อเรา

นั่งใต้โคนต้นไม้ต้นนี้ เราเกิดความรู้สว่างแจ่มแจ้ง หรือแม้แต่

ความคิดอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่อาจจะเกิดเมื่อเรานั่งในที่อื่น

เราก็ถือว่าต้นไม้ต้นนี้พูดได้ หรือแม้ที่สุดแต่ ลักษณะต่าง ๆ

คือลักษณะแห่งอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ที่แสดงอยู่ที่ก้อนหิน

ที่ต้นไม้เป็นต้นนั้น ก็ถือว่าเป็นการพูดของมัน

คนไม่อ่าน ไม่ฟัง ไม่คิด นี้เรียกว่าคนหูหนวกตาบอด.

 

ทั้งหมดนี้เรียกว่า คนใกล้ชิดกับธรรมชาติ เข้าถึง ธรรมชาติ เสพคบธรรมชาติ จนกระทั่งอ่าน

ธรรมชาติได้ พระพุทธเจ้าท่านก็รวมอยู่ในคนจำพวกนี้. หรือว่าคนเป็นอันมากในประเทศอินเดีย

ในยุคอุปนิษัทคือยุคพุทธกาลนั้น ก็มีลักษณะเช่นนี้ จึงได้เกิดการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมา.

คนสมัยนี้เอาแต่เล่น เอาแต่กิน เอาแต่หัวเราะ เอาแต่สรวลระริกซิกซี้อยู่ตลอดเวลาไม่ว่าที่ไหน

มันจึงมีจิตใจที่เป็นไปในรูปอื่น อ่านธรรมชาติไม่ออก เป็นเพื่อนกับธรรมชาติไม่ได้.

เพราะฉะนั้นแหละ การที่ท่านทั้งหลายจะมีโอกาสเมื่อไรก็ตาม ได้ใกล้ชิดธรรมชาติกันเสียบ้างนั้น

ควรจะถือว่าเป็นโชคดี ท่านมาที่นี่ ก้อนหินก็จะบอกว่า ไม่มีอะไรเป็นของท่าน ต้นไม้ก็จะบอกว่า

ไม่มีอะไรเป็นของท่าน แม้ไส้เดือนจะพูด ก็ต้องพูดว่าไม่มีอะไรเป็นของท่าน แล้วมันก็เป็น

ความจริง ตรงที่ว่าเมื่อท่านนั่งอยู่ที่นี่มันไม่มีอะไรเป็นของท่าน ท่านจึงมีความรู้สึกในใจสงบเย็น

เป็นสุข ชนิดที่ไม่เคยมีที่บ้าน

พุทธทาสภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Select your language