Dhamma together:ฝึกจิตเสียใหม่ให้จิตอยู่ในสภาพตื่นรู้อยู่เสมอ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

การฝึกจิตเสียใหม่ให้จิตอยู่ในสภาพตื่นรู้อยู่เสมอไม่หลงยินดี

ยินร้ายต่อทุกสิ่งที่มากระทบ เรียกว่า "จิตตภาวนา" คือ

การทำจิตให้เจริญ ทำให้กิเลสเกิดไม่ได้ ต่อไป จิตก็เป็น

ประภัสสร อยู่ตลอดกาล...

จิตประภัสสรตามธรรมชาติ เป็นเพียงชั่วคราว จิตยังไม่ได้รับ

การอบรมถึงที่สุด เมื่อมีอารมณ์ของกิเลสมาปรุงแต่งก็

เศร้าหมองได้...เมื่อทำได้ถึงที่สุดเด็ดขาดไม่เกิดกิเลสอีกต่อไป

ในจิตชนิดนี้ ก็ดับทุกสิ่งคือเป็นพระอรหันต์ 

และเมื่อไม่มีกิเลสแล้ว กรรมก็ไม่มี

กรรมต้องทำด้วยกิเลสอย่างใดอย่างหนึ่ง ด้วยความคิดที่ไม่รู้อะไรตามเป็นจริง หลงรักอยู่ในสิ่งใด

สิ่งหนึ่งก็เกิดกิเลสให้เหตุให้ทำกรรม เมื่อจิตอยู่สูงเหนือความยินดียินร้าย ก็ไม่มีทางที่จะทำกรรม

กรรมใหม่ก็ไม่ทำอีกต่อไป กรรมเก่าก็เพิกถอนไปเพราะว่าไม่สามารถทำจิตให้เกิดกิเลสหรือเป็น

ทุกข์ได้ ผลกรรมถ้าจะมีมาก็มาทำให้เป็นทุกข์ มาปรุงแต่งในจิตอย่างผิดวิธี หรือมาทำลาย

ความเป็นประภัสสรของจิตทำให้เกิดทุกข์ แต่เมื่อมีความรู้พอ เมื่อมีอะไรเข้ามา ก็ไม่สามารถปรุง

กิเลสให้เกิดทุกข์ได้ กรรมทั้งหลายทั้งกรรมเก่าและกรรมใหม่ก็เป็นอันเลิกไป จิตตภาวนามีผล

ย่างนี้

พุทธทาสภิกขุ 

จิตตภาวนาในพระพุทธศาสนา

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา  
#ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ความสงบภายในที่ไม่อาศัยสิ่งแวดล้อมภายนอก นี่แหละคือที่พระ พุทธเจ้าทรงค้นพบ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

ควรละวางความยึดมั่นถือมั่น เมื่อเจออะไรมากระทบหรือ

ประสบกับสิ่งใดก็ตาม ก็ไม่ทุกข์ไปกับสิ่งนั้น เมื่อไม่ได้ยึดมั่น

ถือมั่นว่าจะต้องเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ความสงบก็เกิดขึ้นกับใจ

สงบเพราะปราศจากความทุกข์ สงบเพราะปราศจากความ

ผิดหวัง เป็นความสงบท่ามกลางความวุ่นวายของโลก

จะพลัดพรากสูญเสียอย่างไร หรือจะเดินเข้าสู่ความตาย

ก็ไม่ว้าวุ่นใจสงบได้ เป็นความสงบเพราะรู้ ไม่ใช่เพราะไม่รู้

อยากให้เราสงบเพราะรู้บ้าง รู้ด้วยสติ รู้ด้วยปัญญา สติทำให้ รู้อาการของใจ แต่ปัญญาทำให้เรารู้

สัจธรรมความจริงของชีวิต รวมทั้งของจิตของใจด้วย เมื่อรู้เช่นนี้เราก็จะเข้าถึงความสงบ

เป็น ความสงบภายในที่ไม่อาศัยสิ่งแวดล้อมภายนอก นี่แหละคือที่พระ พุทธเจ้าทรงค้นพบ

ที่ทำให้พระองค์เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี ไปจากทุกข์ ไปสู่อิสรภาพ ไปสู่ทางฝั่งโน้น ฝั่งนี้คือฝั่ง

แห่งทุกข์ ฝั่งโน้นคือฝั่ง แห่งความไม่มีทุกข์ พระพุทธเจ้าตรัสว่าไม่มีสุขใดเสมอเหมือนความ

สงบ นี่เป็นความสุขที่อยากให้เราได้รู้จักเลื่อมใสและน้อมไปใน ทางนี้บ้าง

พระไพศาล วิสาโล

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา  
#ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 





"ศีล" คือ ปรกติจิต ที่อยู่ปราศจากโทษ

เป็นจิต ที่มีเกราะบังป้องกันการกระทำชั่ว ทุกอย่าง

"สมาธิ" ผลสืบเนื่อง จากการรักษาศีล คือจิตที่มีความมั่นคง

มีความสงบ เป็นพลัง ที่จะส่ง ต่อไปอีก

"ปัญญา" ผู้รู้ คือ จิตที่ว่าง เบาสบาย

รู้แจ้งแทงตลอด ตามความเป็นจริงอย่างไร

"วิมุติ" คือ จิตที่เข้าถึงความว่าง จากความว่าง

คือละความสบาย เหลือแต่ ความไม่มี ไม่เป็น

ไม่มีความคิด เหลืออยู่เลย..

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล..

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:“ตัณหา” กับ “ฉันทะ”

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

“ตัณหา” กับ “ฉันทะ”

“ความอยาก ความปรารถนา มี 2 อย่าง(ม.อ. ๑/๔๕) คือ

๑. ตณฺหาปตฺถนา ความปรารถนาที่เป็น ตัณหา (อยากเอา,ต้องการเสพ)

๒. ฉนฺทปตฺถนา ความปรารถนาที่เป็น ฉันทะ (อยากดี,ต้องการทำดี,ทำให้ดี)

ความปรารถนา หรือ ความอยากแบบตัณหานั้น ท่านไม่หนุน แต่ปรารถนาหรืออยากแบบฉันทะ

พระพุทธเจ้าตรัสให้เราเอาจริงเอาจัง ให้อยากทำความดีงาม จนกระทั่งปรารถนานิพพาน

ดูพุทธพจน์สักแห่ง (ม.มู.๑๒/๓๙๑/๔๒๑)ที่ตรัสว่า...“ปามุชฺชพหุลา โหถ เขมํ ปตฺเถถ ภิกฺขโว”

ตัณหาเกิดที่ไหน ควรละเสียที่นั่น ส่วนฉันทะท่านก็ให้ละ

แต่ละด้วยการทำให้สำเร็จตามฉันทะนั้น

คือ ละด้วยการทำตามฉันทะนั้นจนสำเร็จผล ทำให้ฉันทะนั้นหมด

ไปเอง ไม่ต้องมีฉันทะนั้นอีกต่อไป พูดอีกอย่างหนึ่งว่า

ตัณหา เป็นความต้องการชนิดที่ว่า เมื่อมันเกิดขึ้นมา เราก็ละด้วย

การสลัดทิ้งไปเสียเลยของสังคม คนอื่นจะต้องมารับช่วงทํากัน

ต่อไป พูดอีกอย่างหนึ่งว่า ตัณหา เป็นความต้องการชนิดที่ว่า

เมื่อมันเกิดขึ้นมา เราก็ละด้วยการสลัดทิ้งไปเสียเลย ไม่ต้องเก็บ

เอาไว้ใช้อะไรต่อไป ส่วน ฉันทะ เป็นความต้องการชนิดที่ควร

ทำตาม จนสำเร็จหมดความต้องการนั้นไปเอง

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( ป. อ. ปยุตฺโต )

จากธรรมบรรยาย “ตามพระใหม่ ไปเรียนธรรม”

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ถ้าใครทำให้โกรธอย่าโกรธตอบ ถ้าท่านโกรธตอบท่านจะยิ่งโง่กว่าเขา จงเป็นคนฉลาดสงสารเห็นใจเขา

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

 

"ถ้าท่านมีโทสะในขณะภาวนา ให้แก้ด้วยเมตตาจิต

ถ้าใครทำให้โกรธอย่าโกรธตอบ

ถ้าท่านโกรธตอบท่านจะยิ่งโง่กว่าเขา

จงเป็นคนฉลาดสงสารเห็นใจเขา

เพราะว่าเขากำลังได้ทุกข์

เพ่งอารมณ์เมตตาเป็นอารมณ์ภาวนา

แผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลก

เมตตาเท่านั้นที่จะเอาชนะโทสะและความเกลียดได้"

หลวงปู่ชา สุภทฺโท

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:การรับใช้ผู้อื่นเป็นลักษณะของมหาบุรุษ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


การรับใช้ผู้อื่นเป็นลักษณะของมหาบุรุษ พูดอย่างนี้หลายคน

คงไม่เชื่อ นึกคัดค้านขัดแย้งอยู่ในใจว่า เป็นมหาบุรุษสูงสุด

จะมารับใช้ผู้อื่นทำไม แต่ขอยืนยันว่าการรับใช้ผู้อื่นนั่นแหละ

เป็นลักษณะของมหาบุรุษ เป็นหัวใจของความเป็นมหาบุรุษ

เดี๋ยวนี้มันไม่ค่อยมีใครสมัครที่จะรับใช้ผู้อื่น ส่วนมาก

มันต้องการให้ ผู้อื่นรับใช้ตนเอาอกเอาใจตน

ช่วยเหลือตนไปเสียท่าเดียว การคิดจะรับใช้ผู้อื่นนั้น

มันไม่ค่อยจะมี

เมื่อเราได้ศึกษา สังเกต ทบทวนมาโดยละเอียดถี่ถ้วนแล้ว จะพบความหมายแง่หนึ่งว่าพระพุทธเจ้าท่าน

เกิดมาโปรด โปรดโปรดผู้อื่น โปรดสัตว์โลก แต่ที่แท้ก็มารับใช้นั่นเอง ช่วยขนสัตว์ พาสัตว์ไป

ขนสัตว์ออกไปจากวัฏสงสาร มันมีลักษณะของการรับใช้ แม้ว่าจะเป็นการช่วย ช่วย ช่วย แต่การช่วยมัน

ก็คือการรับใช้ พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย โดยเฉพาะทางมติฝ่ายมหายานยิ่งเป็นผู้รับใช้ รับใช้สัตว์โลก

ทั้งหลายทั้งปวง จะช่วยขนออกไปเสียให้พ้นจากกองทุกข์ คนที่ยังมีตัวตนยกหูชูหางรับใช้ใครไม่ได้

คนที่หมดตัวตน หมดความยึดมั่นในตัวตนเท่านั้นที่จะรับใช้ผู้อื่นได้ ไอ้คนที่มีอหังการ

ยกหูชูหางมันรับใช้ใครไม่ได้ แล้วมันจะยกตนข่มท่าน ข่มขี่ผู้อื่นโน่น แล้วมันจะมารับใช้ใครได้อย่างไร

นั่นมันอันธพาลถึงขนาดนั้นน่ะ

เกิดมาเพื่อรับใช้ผู้อื่น นั่นแหละ เป็นการทำให้ก้าวหน้าไปในทางพระนิพพาน เพราะว่ารับใช้ผู้อื่นนี่

มันลดความยกหูชูหางของตัว ลดการถือตัว ถ้ามันถือตัวอยู่มันรับใช้ผู้อื่นไม่ได้...

การรับใช้ผู้อื่น เป็นลักษณะของมหาบุรุษ ไม่ใช่ว่าเป็นทาสเป็นขี้ข้า รับใช้เขาไม่ใช่ อันนั้นมันอีก

ความหมายหนึ่ง จึงจำเป็นต้องเป็นทาส เป็นขี้ข้ารับใช้เขานั้นเป็นอีกความหมายหนึ่ง

แต่เดี๋ยวนี้มันทำด้วยความสมัครใจในการที่จะรับใช้ผู้อื่น มันเป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด แต่ไม่มีใครมองเห็น

มันก็ไม่สมัครจะทำ แต่ว่าถ้าสมัครจะทำแล้วมันจะมีประโยชน์มากที่มันจะลดไอ้ตัวกู ของกู ลดอหังการ

มมังการและมานานุสัย ตามหลักธรรมมะอันสูงสุดว่าถ้าจะลดอหังการะ มนังการะ มานานุสัย

จะได้แล้วก็เป็นพระอรหันต์

ท่านพุทธทาส

ที่มา : บรรยายธรรม เรื่อง การรับใช้ผู้อื่นเป็นลักษณะของมนุษย์ ปี พ.ศ. 2530

#จดหมายเหตุพุทธทาส 2115301007120

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ธรรมะทุกอย่างรวมอยู่ที่จิตดวงเดียว

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

ในโลกจักรวาลนี้ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร ทุกสิ่งทั้งปวงเกิดดับ

ตามเหตุปัจจัย ไหลไปผ่านมาและผ่านไป ไม่มีอะไรเหลืออยู่

จงตั้งจิตอุทิศชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนี้ ถวายเป็นพุทธบูชา

น้อมจิตภาวนา ให้รู้แจ้งในรูปนามและสังขารอันไม่เที่ยงทุกข์

เป็นอนัตตาไม่ใช่ตัวตนเราเขาอะไร รู้แจ้งด้วยปัญญา

ตามความจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มีแต่ทุกข์เท่านั้น

ที่ดับไป นอกจากทุกข์แล้วไม่มีอะไร

พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า ทุกข์ควรกำหนดรู้ สมุทัยเหตุให้เกิดทุกข์ควรประหาร นิโรธ ควรทำให้แจ้ง

มรรคควรเจริญภาวนาให้เกิด ธรรมะทุกอย่างรวมอยู่ที่จิตดวงเดียว เมื่อจิตรู้ จิตตื่น จิตเบิกบานอย่างยิ่ง

แล้วย่อมพ้นจากทุกข์ การบำเพ็ญธรรมปฏิบัติธรรมนี้ไม่ได้หวังเพื่ออะไรเป็นอะไรสักอย่าง แต่เป็นไปเพื่อ

อยู่เย็นเป็นสุขในชีวิตประจำวัน เพื่อความหมดห่วงหมดอาลัยในโลกทั้งสาม เพื่อนิพพานเท่านั้น ขอให้

ทุกคนตั้งใจจริงทำจริงปฏิบัติจริงต่อธรรมะ อย่าท้อถอยเอาชีวิตเป็นเดิมพันถึงจะตายด้วยการปฏิบัติธรรม

ก็ยอม ให้มีกำลังใจเข้มแข็ง และทำจิตให้อ่อนโยนอ่อนน้อมถ่อมตน อย่าคิดว่าเราเป็นคนสำคัญให้ทำตน

แบบปกติธรรมดาๆ นี่แหละดีที่สุด เมื่อเราคิดว่าเราเป็นคนสำคัญแล้ว เมื่อผู้อื่นไม่ให้ราคาเรา ไม่นับถือ

ให้ความสำคัญเราแล้ว จิตใจเราจะเป็นทุกข์ร้อนรนสับสนวุ่นวายไปตามกระแสโลกธรรม ขอให้ตั้งใจ

ให้ดีมีสติทุกเมื่อ ทุกขณะจิต เพียงแต่รู้เฝ้า ดูเฝ้าเห็นกายกับใจเคลื่อนไหวไปตามเหตุปัจจัย

เป็นเพียงรูปธรรมนามธรรมเท่านั้น เป็นเพียงก้อนทุกข์ ก้อนธาตุ เท่านั้น ไม่ควรไปให้ราคาตัวเองและ

วัตถุธาตุ สิ่งใดไม่ควรมั่นหมายผูกพันกับสิ่งใดในโลก เราอยู่ในโลกอย่าหลงมายาของโลก

ไม่ติดไม่ข้องแวะเกี่ยวกับสิ่งในใจ มีแต่ใจรู้แจ้ง ปล่อยวางสู่ความว่างสภาพเดิมของธรรมชาติแท้..

ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร..

#ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป https://dhammatogether.blogspot.com/2018/05/dhamma-together_12.html #อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:"ขันติ ตัดรากแห่งมารได้"

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

 

" .. ผู้มีขันติ คือผู้ที่แม้มีความโลภ ความโกรธ ความหลง

อยู่ในใจมากมายเพียงใดก็ตาม เมื่อ "มีขันติ" ไม่แสดงความโลภ

ความโกรธ ความหลง ออกมาอย่างรุนแรง โดยไม่คำนึงถึง

ความถูกความผิด ความหนักความเบา "ขันติ" เป็นความมีใจ

อดทนอดกลั้นหรือจะกล่าวว่า ทนเก็บความรู้สึก ไม่ว่าโลภ ไม่ว่า

โกรธ ไม่ว่าหลง ที่เกิดขึ้นรุนแรงเพียงใดก็ตาม ให้อยู่แต่ภายใน

ใจตน ไม่ให้พ้นใจออกปรากฏ เป็นการติเตียนทะเลาะวิวาท

ฆ่าฟันกัน ถึงเป็นถึงตายอันเป็นบาปกรรมทั้งหลาย

เป็นไปตามพระศาสนสุภาษิตในพระพุทธศาสนาจริงที่ว่า

"ขันติตัดรากแห่งมารได้" .. "

สมเด็จพระญาณสังวร

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ปัญญารักษา...

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

 

"ใจเราเมื่อมีปัญญารักษา มีสติเป็นเครื่องปกครองอยู่โดย

สม่ำเสมอแล้ว ภัยที่จะเกิดให้เป็นความกระทบกระเทือน

ในระหว่างอารมณ์ที่มาสัมผัสกัน ก็น้อยลงตามส่วนของ

ปัญญาที่มีกำลังมากน้อย ถ้าปัญญามีความรอบตัวอย่าง

เต็มที่แล้ว แม้กิเลสจะละเอียดแสนละเอียดเพียงไรก็ตาม

ชื่อว่าเป็นสิ่งเสียดแทงจิตใจของเรา ย่อมถอดถอนกัน

ออกได้หมดไม่มีสิ่งใดเหลือ

สิ่งที่เหลือก็คือผู้รู้ว่าบริสุทธิ์ แล้วนี้เท่านั้น นี่ท่านเรียกว่าหมด สิ่งที่เกี่ยวข้องพัวพันกับ จิตใจ

ด้วยอำนาจของปัญญาเป็นผู้คลี่คลายหรือตัดให้ ขาดจากกัน ระหว่างจิตกับสมมุติทั้งหลายที่เคย

เกี่ยวข้อง กันมานานตั้งกัปตั้งกัลป์นับไม่ถ้วน ก็ได้ขาดกระเด็นออก จากกันเพราะอำนาจ

ของปัญญา..."

พระธรรมเทศนา เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๑๔

พระธรรมวิสุทธิมงคล(หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน)

วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) จ.อุดรธานี

(พ.ศ. ๒๔๕๖ - ๒๕๕๔)

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ละเมิดกติกา ละเมิดความเป็นธรรม ต้องหยุด

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

เมื่อใดความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ไปส่งผลกระทบเสียหายต่อ

ธรรมคือ ทำให้เสียหลักการแห่งความเป็นจริง ความถูกต้อง

ดีงาม ความสมตามเหตุผล ความชอบธรรม ความเป็นธรรม

เช่น ผิดกฎหมายหรือกติกาสังคม เราต้องหยุดช่วยเหลือ

เพื่อให้เขารับผิดชอบต่อธรรม นี่คืออุเบกขา เพราะฉะนั้น

อุเบกขาจึงเป็นตัวคุมหมด ทำให้สามข้อแรกมีขอบเขต

เมตตา กรุณา มุทิตา จะเลยขอบเขตไม่ได้ เมื่อช่วยกันไป

ถ้าจะละเมิดหลักการ ละเมิดกติกา ละเมิดความเป็นธรรมต้องหยุด เราเลยแปล "อุเบกขา" ว่า เฉย

หมายความว่าเฉย ต่อคนนั้น ไม่ช่วย (ในทางที่ผิด) ในภาษาบาลีท่านอธิบายว่า ไม่ขวนขวาย

(ที่จะช่วย) เหมือนกับบอกว่าฉันไม่เอากะคุณละนะ

เราช่วยเหลือกันตลอดเวลา โดยมีเมตตา กรุณา มุทิตา

แต่ถ้าจะทำให้เสียหลักการ เสียความเป็นธรรมฉันต้องหยุด ฉันไม่เอากับคุณแล้วนะ กฎต้องเป็นกฎ

ตรงนี้เรียกว่าอุเบกขา

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( ป. อ. ปยุตฺโต )


#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ศรัทธาที่มาจากปัญญา

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


พวกเราพุทธบริษัทก็จะเดินไปตามทางของปัญญา ถ้ามีศรัทธา

ก็เป็นบริวารของปัญญา ไม่ใช่ศรัทธางมงายอย่างพวกอื่น คำว่า

ศรัทธาของพุทธบริษัทนั้นคือปัญญา ไม่ใช่ศรัทธาหลับหู

หลับตางมงาย เดี๋ยวไปแยกเอาศรัทธางมงายมาเป็นศรัทธา

มันไม่ถูก ศรัทธาต้องมาภายหลังปัญญา ปัญญาเห็นแล้วจึงเชื่อ

ศรัทธาจะต้องเป็นไปตามอำนาจของปัญญา พุทธศาสนาจึงมี

หลักว่ารอดตัวด้วยปัญญา ไม่ได้รอดตัวด้วยศรัทธา

ถ้าจะให้รอดตัวด้วยศรัทธา ขอให้เป็นศรัทธาที่มาจากปัญญา

ที่คลอดมาจากปัญญา

นี่จึงต้องเรียกว่าต้องขัดต้องถูต้องชำระชะล้างต้องให้ปัญญามันปราศจากเครื่องห่อหุ้มคือไสยศาสตร์

ถ้ามีไสยศาสตร์ มันก็ยากที่จะมีปัญญา ถ้ามีปัญญามันก็ไม่มีไสยศาสตร์ได้ช่วยกันจัดเรื่องนี้ให้ดี

ซึ่งอาตมาขอยืนยันอีกทีหนึ่งว่า ไสยศาสตร์ยังจำเป็นสำหรับผู้มีปัญญาอ่อน เลิกไม่ได้ ถ้าจะช่วย

ปรับปรุงมันดีขึ้นๆ จนหมดความเป็นไสยศาสตร์คือมันลืมตาขึ้นมา ก็กลายเป็นพุทธศาสตร์

ไสยศาสตร์เป็นศาสนาที่ยังจำเป็นสำหรับคนมีปัญญาอ่อน ถ้าท่านยังอยากจะเป็นปัญญาอ่อนก็

เราก็ไม่มีอะไรจะพูดกันแล้ว ถ้าท่านสมัครจะเป็นผู้มีปัญญาอ่อนอาตมาก็ไม่มีอะไรจะพูด แต่นี้ก็ยังสงวนไว้

เพื่อคนมีปัญญาอ่อนจะได้มีโอกาสแก้ตัว ปรับปรุงขึ้นมาให้พ้นจากความเป็นปัญญาอ่อน

จะได้ไหลไปตามกระแสของพระนิพพาน

พุทธทาสภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:อยู่เหนือการปรุงแต่งของสิ่งใดๆ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


ชีวิตมันก็มีเรื่องให้เลือกอย่างมากมาย แล้วเราก็ไม่ได้เลือก

เพราะเราไม่รู้จักเลือก...เพราะเราไม่รู้ว่าเราเกิดมาทำไม

(หาก)เราได้รับคำสั่งสอนมาว่าเกิดมาเพื่อได้รับสิ่งที่ดีที่สุด

ที่มนุษย์ควรจะได้รับก็คงจะง่าย

โลกมันมีหลายโลกอย่างนี้ และเราเปลี่ยนได้

ถ้ามีความรู้เราเปลี่ยนได้เอง ถ้าไม่มีความรู้มันก็เปลี่ยน

ตามธรรมชาติ แต่เปลี่ยนตามธรรมชาตินี้ไม่ได้ไปกี่มากน้อย

ดูตามธรรมดาสามัญมนุษย์เปลี่ยนได้ไม่กี่มากน้อย มันก็ติด

ลุ่มหลงอยู่ในกามารมณ์จนตายบ้าง

บางรายติดลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติจนตายบ้าง บางรายก็หลงในเกียรติยศชื่อเสียงจนตายบ้าง

ไม่มีจิตใจที่โผล่พ้นจากสิ่งเหล่านี้เลย จึงขอให้ทุกคนทราบไว้ว่า

ธรรมชาติมีให้เลือกมากมายครบถ้วนอย่างนี้ เราจะเอาอย่างไร เท่าไร เพียงไร ก็คิดดูกันเอาเอง

ถ้าคิดว่าเกิดมาชาติหนึ่งต้องได้ชั้นดีที่สุดชั้นเลิศที่สุดละก็ ขอให้เพ่งเล็งอยู่ชั้นโลกุตร

ที่มีจิตใจอยู่เหนือการปรุงแต่งของสิ่งใดๆ อะไรๆจะเข้ามาทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ

จะน่ารักหรือน่าเกลียดก็ตามไม่ทำให้เกิดการวิปริตทางจิตใจ มีจิตใจที่คงที่ ไม่ยินดีไม่ยินร้าย

ถ้ามีการยินดียินร้ายมันก็จะเป็นดังที่ว่า จะมีความรักบ้าง ความโกรธบ้าง ความเกลียดบ้าง ความกลัวบ้าง

ความวิตกกังวลนอนไม่หลับบ้าง ความอาลัยอาวรณ์บ้าง ความอิจฉาริษยาหึงหวงกันไป

ไม่มีที่สิ้นสุดนั่นเพราะว่าจิตนั้นมันยังต่ำมากไม่มีธรรมะพอ

ท่านพุทธทาส

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:จิตก็เป็นจิต อารมณ์ก็เป็นอารมณ์

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

 

จิตไม่มีตัวจิตไม่มีตน จิตไม่มีรูป จิตเป็นผู้รับรู้อารมณ์เท่านั้น

ไม่ใช่อื่น ถ้าหากว่าเราสั่งสอนจิตอันนี้ให้มีความเห็นที่ถูกต้อง

ดีแล้ว จิตนี้ก็จะไม่มีปัญหา จิตก็จะสบาย

จิตก็เป็นจิต อารมณ์ก็เป็นอารมณ์ อารมณ์ไม่เป็นจิต จิตไม่เป็น

อารมณ์ เราพิจารณาจิตกับอารมณ์นี้ให้เห็นชัด จิตเป็นผู้รับรู้

อารมณ์ที่จรเข้ามา จิตกับอารมณ์สองอย่างนี้มากระทบกันเข้า

ก็เกิดความรู้สึกทางจิต ดีบ้าง ชั่วบ้าง ร้อนบ้าง เย็นบ้าง

สารพัดอย่าง ทีนี้เมื่อเราไม่มีปัญญาแก้ไข ปัญหาทั้งหลาย

เหล่านี้ก็ทำจิตของเราให้ยุ่ง

หลวงปู่ชา สุภัทโท 

“ธรรมปฏิสันถาร"

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา  
#ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

This mind doesn't have any self or substance. It doesn't have any form.

It just experiences mental activities, that's all! If we teach this mind to have

right view, this mind won't have any problems. It will be at ease.

The mind is mind. Mental objects are mental objects. Mental objects are not

the mind, the mind is not mental objects. In order to clearly understand our

minds and the mental objects in our minds, we say that the mind is that

which receives the mental objects which pop into it. When these two things,

mind and its object, come into contact with each other, they give rise to

feelings. Some are good, some bad, some cold, some hot, all kinds! Without

wisdom to deal with these feelings, however, the mind will be troubled. 

- Ajahn Chah - 

“A Gift of Dhamma"

‪#‎AjahnChah‬ ‪#‎teacher‬ ‪#‎teaching‬ ‪#‎Dhamma‬ ‪#‎theravada‬ ‪#‎Buddhism‬

‪#‎forest_tradition‬ ‪#‎forest_sangha‬ ‪#‎Buddhist‬ ‪#‎Monastery‬ ‪#‎Mind‬ ‪#‎Practice‬

‪#‎Noble‬ ‪#‎truth‬ ‪#‎wisdom‬ . IG: venerable_ajahn_chah

instagram.com/venerable_ajahn_chah

Dhamma together:ชุดของความคิดของเรา

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

พระพุทธองค์มิได้ตรัสว่า “ไม่มีตัวเธอ”

พระองค์ทรงตรัสว่า “เธอไม่ใช่ตัวตนของเธอ”

ธรรมชาติของเธอคือไม่มีตัวตน

เราเป็นทุกข์เพราะคิดว่าพระองค์ตรัสว่า ‘ไม่มีเรา’

จากความสุดขั้วด้านหนึ่ง เราตกไปอยู่ที่ขั้วอีกด้านหนึ่ง

แต่ทั้งสองขั้วนี้เป็นเพียงชุดความคิดของเรา

เราไม่เคยมีประสบการณ์ตรงอย่างแท้จริง

เรามีเพียงชุดความคิด

และเราเป็นทุกข์เพราะชุดของความคิด

พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์

หนังสือ your true home

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:การที่จะรักษาจิตให้บริสุทธิ์ได้นี้ก็ต้องอาศัยการตัด "สัญญา"

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

การที่จะรักษาจิตให้บริสุทธิ์ได้นี้ก็ต้องอาศัยการตัด "สัญญา"

ไม่ให้ติดค้างหรือเกาะเกี่ยวอยู่ในใจ เหมือนกับการรักษา

ผ้าขาวที่เราปูที่นอน คือ เราจะต้องคอยระวังดูขี้ผงที่มันปลิว

มาตกบนผ้า หรือตัวสัตว์ ตัวแมลงต่างๆ เช่น มด และเรือดไร

เป็นต้น ที่จะมาอาศัยอยู่บนผ้าผืนนั้น ถ้าพบเห็นขี้ผง

ก็ต้องยกผ้าขึ้นสลัดเลยหรือปัดฝุ่นละออง ให้มันออกไปจาก

ผ้าผืนนั้น ถ้าตรงไหนมีรอยเปื้อนก็รีบนำไปซักเสีย

อย่าปล่อยให้รอยเปื้อนมันติดอยู่นาน จะทำให้ติดผ้า

ซักออกยาก ถ้าเป็นสัตว์ก็เก็บทิ้งเสียเพราะมัน

อาจจะกัดให้เป็นผื่นคัน หรือทำให้นอนไม่หลับด้วย

เมื่อเราคอยรักษาความสะอาดอยู่เช่นนี้ ผ้าผืนนั้นก็ย่อมจะขาวบริสุทธิ์และใช้ปูนอนได้อย่างสบาย

ฝุ่นผงหรือตัวสัตว์แมลงเหล่านี้เปรียบด้วย "สัญญา" ซึ่งเป็นตัวนิวรณ์ต่างๆอันเป็นข้าศึกของใจ

การระวังรักษาจิตก็เช่นเดียวกัน ต้องคอยระวังอย่าให้สัญญาใดๆ เข้ามาแอบแฝงเกาะกินใจได้ ต้องปัดทิ้ง

ให้เกลี้ยง จิตใจก็จะเกิดความสงบ ปราศจากความฟุ้งซ่าน

"พระอาจารย์ลี ธัมมธโร"

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ของไม่ใช่ของเรา มันก็เป็นอย่างนี้

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

 

ให้พิจารณาดูสกลร่างกาย ตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาบนศีรษะ

ตั้งแต่ศีรษะลงไปหาปลายเท้า ดูซิว่ามันมีอะไรบ้าง ?

อะไรเป็นของสะอาดไหม ? เป็นของเป็นแก่นสารไหม ?

นับว่าแต่มันจะทรุดเรื่อยมาอย่างนี้ ฉะนั้นพระพุทธเจ้าท่านจึง

สอนให้เห็นสังขาร ว่า ของไม่ใช่ของเรา มันก็เป็นอย่างนี้

ของที่ไม่ใช่ของเรา มันก็เป็นอย่างนี้ จะให้มันเป็นอย่างไรล่ะ?

อันนี้มันถูกแล้ว..ถ้าโยมมีความทุกข์ โยมก็คิดผิดเท่านั้นแหละ

ไปเห็นสิ่งที่มันถูกอยู่โดยความเห็นผิด มันก็ขวางใจเท่านั้น..

หลวงปู่ชา สุภัทโท

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา  
#ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ความสงบไม่ใช่ว่าไปนั่งวิปัสสนาในวัดเท่านั้น

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ฝึกจิตด้วยสติสัมปชัญญะ ช่วยให้มีจิตใจที่มีความสุข

"ท่านทั้งหลายสนใจในการกินดีอยู่ดีและสนใจในความดี

ในจิตใจ สามารถที่จะดำรงชีวิตด้วยความสงบสุข

คืออยู่ดีกินดี ก็หมายความว่า ทำหน้าที่อาชีพอย่างสุจริต

และจิตใจมีความสุขนั้น ทำด้วยการฝึกจิตใจแต่ละบุคคล

ให้เห็นความดีด้วยสติสัมปชัญญะ ถือว่าเป็นขั้นที่จะไปสู่

ความสงบไม่ใช่ว่าไปนั่งวิปัสสนาในวัดเท่านั้น...

แต่การปฏิบัติทุกวัน ทุกเวลาที่ตื่น มีสติสัมปชัญญะ

ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทุกคนทำได้ถ้าตั้งใจ...

๑๐๘ มงคล พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

เพื่อความสุขและความสำเร็จ ของชีวิตแบบยั่งยืน

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ธรรมทาน..

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

ผู้ให้ธรรมทาน ได้ชื่อว่า ให้มนุษยสมบัติ สวรรค์สมบัติ

และนิพพานสมบัติ การให้ธรรมทาน ขอเพียงแต่ผู้ให้

มีศรัทธาทางธรรม ก็สามารถให้ธรรมเป็นทานได้

คนที่รู้ธรรมมากก็ให้ได้ คนที่รู้ธรรมน้อยก็ให้ได้

ไม่รู้เลยก็ให้ได้ เป็นพระหรือเป็นฆราวาสก็ให้ได้

การสร้างธรรมทานจึงทำได้ทุกคน ฉะนั้น

ผู้ที่ปราถนาอยากได้บุญสูงสุด ควรสร้างมหาบุญ

อันประเสริฐ ด้วยการสร้างหนังสือบทสวดมนต์

ที่มีคำสอนของพระพุทธเจ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

ส่วนผู้ที่รับธรรม เมื่อรับแล้วก็ต้องนำเอาไปปฏิบัติ ถ้าไม่ปฏิบัติก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด เปรียบเหมือนมีดิน

แล้วไม่ยอมปลูก มีอาหารแล้วไม่ยอมกิน มีไม้แล้วไม่ยอมปลูกบ้าน มีเงินแล้วไม่ยอมใช้

สิ่งเหล่านี้ถึงจะมีก็เหมือนไม่มี ผู้รับนำเอาธรรมนั้นไปใช้ เมื่อปฏิบัติตก็จะได้ประโยชน์

นับภพนับชาติไม่ได้ย่อมได้สมบัติในสุคติภพและถึงพระนิพพานสมบัติอันเป็นที่สุด

เพราะฉะนั้น ผู้ใดให้ธรรมเป็นทานก็เท่ากับเอา มนุษยสมบัติ สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ

ไปให้กันเลยทีเดียว มีแต่ความสุขความเจริญหาที่สุดมิได้

ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ธรรมที่บุคคลประพฤติอยู่เป็นนิจ ย่อมนำสุขมาให้..

เทศนาธรรมของ... สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ถ้าไม่มีหลักในการควบคุมความต้องการ ความต้องการนั้นก็จะไม่มีที่สิ้นสุด

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

อยากได้ใหม่ ก็ต้องการเรื่อยไป ไม่มีที่สิ้นสุด แต่การที่จะได้พบ

ได้เห็นสิ่งใหม่นี้ บางทีก็เกี่ยวกับเรื่องความต้องการ ซึ่งทำให้เรา

มีความอยากได้สิ่งต่างๆ เพิ่มเข้ามา การที่ต้องการสิ่งใหม่ๆ

เข้ามานี้ ถ้าไม่รู้จักใช้สติ ไม่รู้จักใช้ธรรมะเข้ามาควบคุม ก็จะ

กลายเป็นความต้องการที่ทางพระท่านเรียกว่า “ตัณหา”

ตัณหาเป็นความปรารถนา ซึ่งมีลักษณะอย่างหนึ่งคือ แสวงหา

ความยินดีพอใจในสิ่งใหม่ๆ เรื่อยไป พอได้พบสิ่งนี้แล้ว สิ่งนี้ก็

กลายเป็นสิ่งเก่า แล้วก็แสวงหาสิ่งใหม่ๆ อย่างอื่นต่อไปอีก ไม่รู้

จบสิ้น

ถ้าไม่มีหลักในการควบคุมความต้องการ ความต้องการนั้นก็จะไม่มีที่สิ้นสุด 

เข้าลักษณะที่ทางพระบอกไว้ว่า

 “นตฺถิ ตณฺหาสมา นที” 

แม่น้ำเสมอด้วยตัณหาไม่มี

หนังสือ : สุขสดใส ใหม่ทุกเวลา โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต)

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:ทั้งกรรมเก่าและกรรมใหม่ต่างก็มาบรรจบที่ปัจจุบันขณะเหมือนกัน

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

การที่เราจะใช้ชีวิตให้ดีที่สุดนั้น ควรเริ่มต้นที่นี่และเดี่ยวนี้

เพราะปัจจุบันขณะเป็นจุดสุดท้ายของกรรมเก่า และขณะเดียวกัน

ก็เป็นจุดเริ่มต้นของกรรมใหม่ ทั้งกรรมเก่าและกรรมใหม่ต่างก็มา

บรรจบที่ปัจจุบันขณะเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ถ้าทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

ด้วยกรรมที่เลือกสรร ทำทุกอย่างอย่างรอบคอบที่สุดแล้ว

ก็ไม่ต้องห่วงอดีต ไม่ต้องพะวงอนาคต ถ้าเราลงทุนในปัจจุบัน

ซึ่งเป็นเวลาอันประเสริฐให้ดี อนาคตย่อมดีเช่นกัน 

ว.วชิรเมธี

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:การให้ทานแต่ละครั้ง ไม่ใช่ว่าเพื่อช่วยทุกข์ผู้อื่นอย่างเดียว

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

 

"ผู้ให้ทานโดยมุ่งชำระกิเลสนั่นแหละถูก

ให้ทานโดยมุ่งผลตอบแทนเป็นลาภยศ สรรเสริญ ไม่ถูก

ขออย่าให้ลืมความสำคัญประการนี้

มีสติระลึกรู้ไว้ให้เสมอว่า การให้ทานแต่ละครั้ง

ไม่ใช่ว่าเพื่อช่วยทุกข์ผู้อื่นอย่างเดียว

แต่ต้องมุ่งเพื่อละกิเลสกองโลภะด้วย

สมเด็จพระญาณสังวร

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

หนังสือ วิธีสร้างบุญบารมี


#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Dhamma together:หันมาดูตัวเอง....ดึงจิตออกจากอารมณ์

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

หลาย ๆ คนที่แนะนำใครต่อใครได้ว่าสูญเสียควรทำ

อย่างไร แต่เวลาเรื่องเกิดขึ้นกับตัว สิ่งที่แนะนำไป

ไม่สามารถนำมาใช้กับตัวได้ เพราะจมอยู่ในความเศร้า

ความโศก จมในความโกรธ ความโมโห ก็เลยมอง

ไม่เห็นตัวเอง คนเรามักเพ่งออกนอก เวลาเรามอง

ออกไปข้างนอก เรามีความคิดดี ๆ ที่แนะนำใครได้

แต่เวลาที่ทุกข์ แต่เรากลับมองไม่เห็นตัวเอง เรียกว่า

ไม่รู้ตัว เพราะเป็นเรื่องที่ถูกกระทบโดยตรง อารมณ์

มันเกิดขึ้น เหตุผลก็ไม่ทำงาน ก็จมกับเรื่องของตน

นอกจากไม่เห็นตัวเองแล้ว ความคิด สติปัญญาก็หมดไปด้วย

การหันมาดูตัวเองบ่อย ๆ ทำให้เห็นตัวเองชัดขึ้น ถ้ามีสติ สติจะดึงจิตออกจากอารมณ์

หันมาเห็นตัวเองว่ากำลังเศร้าอยู่ คร่ำว่าครวญถึงสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เราสามารถเห็นได้ด้วยใจ

เมื่อเห็นความเศร้า ตัวเองก็จะไม่ใช่ผู้เศร้า

พระไพศาล วิสาโล

ฟังธรรม "เพ่งนอก ลืมใน"

https://soundcloud.com/visalo/lookinside

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

Select your language