พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
“...ธรรมะในพระพุทธศาสนานั้นบริบูรณ์ด้วยสัจธรรม ที่เป็นสาระและเป็นประโยชน์ในทุกระดับ ซึ่งบุคคล
สามารถจะศึกษาและปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ คือความเจริญผาสุกแก่ตนได้อย่างแท้จริง กล่าวคือ
ผู้ปฏิบัติธรรมย่อมจะมีชีวิตและกิจการงาน ที่ประกอบด้วยความสว่าง สะอาด และสงบ
ที่ว่าสว่างนั้นคือมีปัญญารู้เหตุรู้ผล รู้ผิดชอบชั่วดีโดยกระจ่างชัด
ที่ว่าสะอาดนั้นคือไม่มีความทุจริตทั้งกายวาจาใจมาเกลือกกลั้ว เพราะเห็นจริงชัดในกุศลและในอกุศล
ที่ว่าสงบนั้น คือเมื่อไม่ประพฤติทุจริตทุก ๆ ทางแล้วความเดือนร้อนจากบาปทุจริต ก็ไม่มาแผ้วพาล
คนที่ประพฤติตนปฏิบัติงานโดยตั้งอยู่ในธรรมอย่างเคร่งครัด จึงเป็นผู้มีปรกติสุขอยู่ร่มเย็น
ไม่ทำความเดือดร้อนให้แก่ตนเอง แก่ผู้อื่น และสังคมส่วนรวม
ท่านทั้งหลายผู้ตั้งใจอุทิศแรงกายแรงใจของตน เพื่อพระพุทธศาสนาและความผาสุขของประชาชน
จึงควรจะเพียรพยายามปฏิบัติส่งเสริมให้มหาชนได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมะอย่างถูกต้องทั่วถึง
ก็จะช่วยให้แต่ละบุคคลดำรงตนอยู่ได้อย่างมั่นคงและเป็นสุขในทุกสถานการณ์
และช่วยค้ำจุนส่วนรวมมิให้เสื่อมทรุดลงได้ดังที่ท่านมุ่งหวัง…”
พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการประชุมสมาคมพุทธศาสนา ทั่วราชอาณาจักร
ครั้งที่ ๔๐ เรื่อง “พระพุทธศาสนากับภาวะวิกฤตของสังคมไทย” ณ วัดพระยายัง กรุงเทพมหานคร
วันเสาร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๑
#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา
#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก
#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น