Dhamma together:เราต้องประพฤติให้ถูกต้องตามกฎของธรรมชาติซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริง

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ตามกฎของธรรมชาติ คำกล่าวที่น่าสนใจก็มีอยู่เช่นคำกล่าวที่ว่า "มันเหมือนกับเจ้าของยืม"

พระพุทธเจ้าก็ได้กล่าวอย่างนี้ว่า ไอ้ทุกสิ่งที่มันมาเป็นเรา เกี่ยวข้องกับเรา เราสมมุติ ว่า

เป็นเรา เป็นของเรา เราว่าเอาเองๆ ด้วยความโง่ของเรา ว่าสิ่งนี้ตัวเรา ว่าสิ่งนี้ของเรา นี่เราว่า

เอาเองด้วยความโง่ของเรา ที่แท้มันเป็นของธรรมชาติ ผู้ที่รู้จึงมองเห็น รู้สึกว่ามันเหมือนกับ

ของยืม ต้องคืนเจ้าของ ตามสมมุตินี้ของที่ยืมมามันต้องคืนเจ้าของในสภาวะที่ถูกต้อง

จะทำให้ผิดพลาดไปจากนั้นมันไม่ได้ อะไร ๆ ที่มันเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตก็ดี หรือตัวชีวิตเอง

ก็ดี มันล้วนแต่เป็นของยืม คือยืมมาจากธรรมชาติซึ่งมีกฎของธรรมชาติควบคุมอยู่


เราต้องประพฤติให้ถูกต้องตามกฎของธรรมชาติซึ่งเป็น

เจ้าของที่แท้จริง เจ้าของที่แท้จริงเขาสร้างไว้อย่างไร

เราต้องทำอย่างนั้น แล้วเราก็ไม่ทะเลาะกับเจ้าของคือ

กฎของธรรมชาติ มันก็ไม่มีเรื่อง เพราะไม่ทะเลาะกัน

ถ้าทะเลาะกันเราสู้ไม่ได้ เราเป็นฝ่ายแท้ทุกทีเราต้องเป็น

ทุกข์ทุกที นั้นเราต้องรู้จักธรรมชาติทำให้ถูกต้องตาม

กฎของธรรมชาติ ไม่ต้องใช้คำว่า ง้องอน อ้อนวอนอะไร

นักก็ได้ ไม่ต้องถึงอย่างนั้นก็ได้ ขอแต่ว่าให้มันถูกต้อง

ตรงตามกฎของธรรมชาติ


การพยายาม การที่พยายามให้ ถูกตรงตามกฎของธรรมชาตินั่นแหละมันเป็นการง้องอน

อ้อนวอน ขอร้อง ให้โปรดปรานอยู่ในตัวแล้ว นั้นเอาแต่เพียงว่าเรามีความรู้ดีที่สุด ทำให้

ดีที่สุดให้ถูกต้องตามกฎของธรรมชาติ แล้วธรรมชาติก็จะไม่ทำให้เราเจ็บปวด เป็นทุกข์อะไร

ชีวิตนี้มันมีอย่างนี้เอง มันมีชีวิต มีจิต มีความรู้สึก มีกายเป็นที่ตั้งแห่งความรู้สึก แล้วมันก็มี

เครื่องติดต่อเกี่ยวข้องกับภายนอกคือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อย่าเห็นอะไรให้มากไปกว่าว่า

มันเป็นเครื่องติดต่อกับสิ่งภายนอก เราจึงไม่หลงบูชาความเอร็ดอร่อยทางตา ทางหู ทางจมูก

ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ เพราะว่าธรรมชาติให้ยืมมาสำหรับเป็นเครื่องใช้ติดต่อกับสิ่ง

ภายนอก ให้มาร่วมมือกับสิ่งภายใน ช่วยกันให้ชีวิตตั้งอยู่ได้ก็พอแล้ว ถ้าเราทำเกินนั้น

เรียกได้ว่าเราเป็นคนโกหก หลอกลวง คดโกง ขบถต่อเจ้าของเดิม มันก็ต้องถูกลงโทษคือ

เป็นทุกข์

พุทธทาสภิกขุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language