Dhamma together:ความสุขชนิดหนึ่งที่ให้ความอิ่มความพอ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


พวกเราจึงถือว่าโชคดี ที่ได้มาเกิดในยุคที่มีพระพุทธศาสนา มีโอกาส

ที่จะตักตวงประโยชน์จากพระศาสนา คือการสิ้นสุดแห่งการเวียนว่าย

ตายเกิด ดังที่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายได้ตักตวง ไม่ต้อง

ไปเวียนว่ายตายเกิด ที่เหมือนกับการเดินทางในทะเลทราย ไม่มี

ความสุขเลย มีแต่ความร้อนแห้งผาก ความหิวกระหาย นานๆจะได้ไป

เจอเกาะกลางทะเลทราย ที่มีบ่อน้ำมีต้นไม้อยู่นิดหน่อย ให้ได้พักผ่อน

หย่อนใจ ไม่นานก็ต้องออกเดินทางต่อไปอีก เพราะใจไม่มีความสุข

อยู่ที่ไหนก็ไม่พอใจ ต้องหาอะไรมาเพิ่มอยู่เรื่อยๆ อยู่ที่นี่ก็อยากจะไป

ที่โน่น พอไปที่โน่นก็อยากจะกลับมาที่นี่ เพราะธรรมชาติของกิเลส

เป็นอย่างนี้


จะหลอกให้ไปหาสิ่งต่างๆอยู่เรื่อยๆ พอถึงเกาะนี้แล้วแทนที่จะพักไปนานๆ อยู่ได้เดี๋ยวเดียวก็เบื่อ ต้องหา

เกาะใหม่อีก ต้องไปลุยกลางทะเลทรายอีก จนกว่าจะไปถึงเกาะใหม่ แล้วก็ไปต่ออีก เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ

มาเกิดเป็นมนุษย์แล้วตายไป ก็ต้องไปเกิดเป็นอย่างอื่นอีก ต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าตราบใดยังไม่ได้

กำจัดต้นเหตุที่พาให้ไปเกิด คือความโลภ ความโกรธความหลง ที่หลอกให้ไปหาความสุขภายนอก

เพราะความหลงคือการไม่เห็นความสุขที่แท้จริง ที่มีอยู่ในใจ ที่เกิดจากความสงบระงับของความโกรธ

ความโลภความหลง มันยากตรงนี้ ความหลงไม่เห็นโทษของตัวมันเอง จึงไม่ทำลายตัวมันเอง จะหลง

มากขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยการไปหาความสุขจากภายนอก ที่ไม่ใช่เป็นความสุขที่แท้จริง เป็นความสุขที่มี

ความทุกข์เจือปนอยู่ด้วย เป็นความสุขที่ไม่ให้ความอิ่มความพอ ได้เท่าไหร่ก็ต้องหาใหม่อยู่เรื่อยๆ

มีความสุขชนิดหนึ่งที่ให้ความอิ่มความพอ ไม่มีความทุกข์เจือปน แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ต้องมี

พระพุทธเจ้ามาชี้บอก ว่าอยู่ในใจเรานี้เอง.

กำลังใจ๓๖ กัณฑ์ที่ ๓๗๓

๒๓ กันยายน ๒๕๕๐

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language