พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
ครั้งหนึ่งได้ยินท่านอาจารย์ (ท่านพ่อลี ธัมมธโร) ท่านพูดว่า ไปอินเดียแล้วก็ปรากฏว่า มีฝรั่งมา มีแขก คนหนึ่งนั่งเพ่งตปะนี่ เอาใบไม้มารวมๆ กองเข้าแล้ว ก็สามารถจะเพ่งให้ใบไม้นั่นลุกขึ้นมา ฝรั่งมาดูกัน เห็นท่านว่าอย่างนั้น นี่อำนาจของใจของเขา ก็มี ความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวเหมือนกัน แต่พระพุทธเจ้าของ เรานั้น ไม่ทรงสรรเสริญในสิ่งเหล่านั้น สรรเสริญใน "อาสวักขยญาณ" คือทำใจให้หมดไปจากกิเลสนี้ เป็นสิ่งที่ประเสริฐ... |
พระองค์ทรงยกย่องอันนี้ เพราะสิ่งเหล่านั้นเมื่อบุคคลกระทำได้แล้ว ไปเพลิดเพลินกับงานการ
กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือคลุกคลีกับหมู่คณะมากเข้า โดยไม่ได้บำเพ็ญแล้วฌานนั้นก็จะเสื่อมลง
พอเสื่อมลงก็เหมือนกันคนธรรมดาเรานี้เหมือนกันอย่างนั้น ส่วนพระพุทธเจ้าของเราหรืออริย
เจ้าผู้ที่สำเร็จ ทำอาสวะของตนให้สิ้นไปอย่างนั้น ไม่เป็นอย่างนั้น ทำไมจึงว่าไม่เป็นเช่นนั้น
ก็เพราะว่าใจของท่านมันมี "สติ" มึความสังวรในเรื่องสติ สังวรในอารมณ์ของใจอยู่ได้ตลอด
สิ่งใดที่เกิดขึ้น ความรู้สึกตัวนั้นมันก็มาทับ ของความที่เกิดขึ้นกับใจนั้น เมื่อมีความรู้สึกอย่าง
นั้นมีสติระลึกอยู่อย่างนั้นแล้ว อารมณ์ที่เกิดขึ้นก็ย่อมดับไป นี่เปรียบเทียบอย่างนั้น เพราะ
ฉะนั้น อย่างเรานี่เหมือนกัน เวลาภาวนานั้นก็ต้องอาศัยความสังเกตสังกาลำดับของใจลงไป
เมื่อใจนั้นตั้งมั่นแข็งแรงมีสมาธิดีแล้ว อย่างนั้นเป็นต้น ก็ควรจะต้องพินิจพิจารณา อันนี้เป็น
หลักสำคัญที่สุด
"พระอาจารย์เจี๊ยะ จุนฺโท" วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น