พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
“ยังมีคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า การสวดมนต์มีประโยชน์น้อยและเสียเวลา มากหรือฟังไม่รู้เรื่อง ความจริงแล้วการสวดมนต์มีประโยชน์อย่าง มากมาย เพราะการสวดมนต์เป็นการกล่าวถึงคุณงามความดีแห่ง พระรัตนตรัย ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีคุณวิเศษเช่นไร พระธรรม คำสอนของพระองค์มีคุณอย่างไร และพระสงฆ์อรหันต์อริยเจ้ามีคุณ เช่นไร การสวดมนต์ด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ แล้วใช้สติ พิจารณาจนเกิดปัญญาและความรู้ความเข้าใจธรรมที่แท้ ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์ นั่นคือ จะทำให้ท่านเป็นผลจนสำเร็จจนเป็นอรหันต์ |
ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ มีหลักฐานปรากฏในพระธรรมคำสอนที่กล่าวไว้ว่า
โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ๕ โอกาสด้วยกันคือ
๑. เมื่อฟังธรรมที่ถูกต้อง ซึ่งสอนเรื่องกรรม ศีล ภาวนา
๒. เมื่อแสดงธรรม คือ เมื่อเข้าใจถึงธรรมที่ถูกต้องแล้ว (รู้ได้เองว่าเป็นโสดาบัน) ก็พอใจจะสอนธรรม
ให้ผู้อื่นรู้ด้วย
๓. เมื่อสาธยายธรรม นั่นคือ การสวดมนต์อย่างมีสมาธิ
๔. เมื่อตรึกตรองธรรม หรือเพ่งธรรมอยู่ในขณะนั้น หมายความว่า รู้ถึงความหมายโดยรวมของธรรมนั้น
๕. เมื่อเจริญวิปัสสนาญาณ คือ พิจารณาทุกสิ่งด้วยธรรม โสดาบันขึ้นไปเท่านั้นจึงจะวิปัสสนาได้
การสวดมนต์ในตอนเช้าและตอนเย็นเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมา ตั้งแต่สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้า
ทรงประกาศพระพุทธศาสนา บรรดาพุทธบริษัททั้งหลายต่างพากันมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์
โดยแบ่งเวลาเป็น ๒ เวลา นั่นคือ ตอนเช้าเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม
การฟังธรรมเป็นการชำระล้างจิตใจที่เศร้าหมองให้หมดไป
การสวดมนต์นับเป็นการดีพร้อมซึ่งประกอบไปด้วยองค์สาม นั่นคือ
๑. กาย มีอาการสงบเรียบร้อยและสำรวม
๒. มีความเคารพนบนอบต่อคุณพระรัตนตรัย
๓. วาจา เป็นการกล่าวถ้อยคำสรรญเสริญถึงพระคุณอันประเสริฐของพระรัตนตรัย
พร้อมเป็นการขอขมาในความผิดพลาดหากมี และเป็นการกล่าวสักการะเทอดทูนที่สูงยิ่ง
ซึ่งเราเรียกว่าเป็นการสร้างกุศล อาตมาภาพขอรับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า
ถ้าหากบุคคลใดได้สวดมนต์เช้าแลเย็นไม่ขาดแล้ว บุคคลนั้นย่อมเข้าสู่แดนพระอรหันต์”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น