Dhamma together:ทำไมจึงต้องเจริญพระกรรมฐาน

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


คนถึงแม้ว่าจะทำบุญหนัก แต่ว่าเวลาจะตาย บังเอิญจิตไปนึกถึงอกุศลเข้าอย่างใดอย่างหนึ่ง อกุศลก็จะ

พาลงไปอบายภูมิก่อน ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นจะต้องเจริญสมาธิ คำว่าสมาธินี่แปลว่าการตั้งใจ อย่างที่

ท่านทั้งหลายทำบุญกันนี่ก็จะบอกว่า อุ้ย...หลวงพ่อมาทีไร ฉันก็ถวายสังฆทานทุกที การถวายสังฆทาน

แต่ละครั้งมีสิทธิ์ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นที่ ๕ เรียกว่า นิมมานรดี หรือถ้าจะไม่ไปก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ดี 

บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท เราอาจจะเผลอได้ ตามบาลีว่า “เอกะ จะรัง จิตตัง” จิตดวงเดียวเที่ยวไป 

จิตน่ะมันรับอารมณ์เดียว เวลาที่เรารัก คนที่เรารัก สัตว์ที่เรารัก เขาจะทำเลวขนาดไหนก็ตาม เราก็ยังรัก 

ถึงเวลาโกรธขึ้นมา ทำดีขนาดไหน มันก็เกลียดใช่ไหม ไม่นึกถึงความดีของเขา ก็รวมความว่าจิตมันรับ

อารมณ์เฉพาะ ฉะนั้น ถ้าหากว่าถ้าจิตออกจากร่าง ถ้าบังเอิญไปพบอกุศลเข้าก็ไปอบายภูมิได้






พระพุทธเจ้าจึงสอนให้ฝึกจิตให้มีอารมณ์ทรงตัว อันดับแรก 

ก็กำหนดรู้จับลมหายใจเข้าออก หายใจเข้านึกว่าพุท หายใจ

ออกนึกว่าโธ แต่ว่าคำภาวนานี่ไม่จำกัดนะ จะนึกพุทโธก็ได้ 

นะมะ พะธะ ก็ได้ หรืออะไรก็ได้ นึกถึงพระพุทธเจ้าแล้วก็

ภาวนาเป็นเครื่องโยงใจให้จิตมีงาน จิตมีงานในด้านบุญละ

บาป ขณะใดที่จิตรู้ลมหายใจเข้าออก จิตไม่คิดถึงเรื่องอื่น 

เวลานั้นจิตเป็นสมาธิ จิตว่างจากกิเลส ขณะใดจิตรู้คำ

ภาวนาอยู่ อารมณ์อื่นไม่เข้ามาแทรก เวลานั้นจิตว่างจาก

กิเลส มีความดี

ฉะนั้นขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย ให้ถือว่าการเจริญสมาธิมีความจำเป็น ตามที่พระพุทธเจ้า

ตรัสว่า จงอย่านึกถึงความชั่วที่ผ่านมาแล้ว อะไรก็ตามที่มันเป็นบาปอย่านึกถึงมัน คิดอย่างเดียวด้าน

ของความดี 

ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language