Dhamma together:เคล็ดที่เราควรจะรู้ไว้ในใจของเรา แล้วก็จะได้ไปแก้ปัญหาชีวิตของเราได้

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


เด็กเกิดใหม่ๆ นี่คงจะไม่มีความยึดถืออะไร ให้สังเกตดูเด็กตัวน้อยๆ เราจะเห็นว่าเขาไม่ได้

ยึดถืออะไร ยังไม่มีความยึดมั่นในจิตใจ ยังไม่มีความรู้สึกอะไรมากนัก มีความต้องการก็น้อย

คือ ต้องการนม พอดื่มนมเสร็จแล้วก็หลับไปเท่านั้นเอง หลับแล้วก็ตื่นขึ้น ถ้าไม่หิวก็นอนเฉยๆ

ใครจะเข้ามาทำอะไรไม่มีอะไร นั่นคือสภาพเด็กอ่อน เราหัดทำตนเป็นเด็กอ่อนทางจิตใจเสีย

บ้างก็จะสบาย เด็กได้เปรียบผู้ใหญ่เพราะเด็กไม่มีความยึดมั่นในเรื่องอะไรต่างๆ เด็กยังไม่

ฉลาดในการที่จะยึด แต่ว่าเรานี่ฉลาดในการที่จะยึด แต่เป็นความฉลาดที่ไม่ได้เรื่อง

เพราะฉลาดในการที่จะยึดจะแบก เอามาไว้เป็นของตัวโดยไม่รู้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้เราหนักใจ

ทำให้เราเกิดความทุกข์ทางใจ เราไม่เข้าใจเราก็เข้าไปยึดสิ่งนั้นไว้ สำคัญว่าสิ่งนั้นเป็นของเรา

ตลอดเวลา ไม่รู้จักปล่อยไม่รู้จักวางในสิ่งเหล่านั้น เราก็แบกหนักอยู่เรื่อยไป



เหมือนกับคำที่พระท่านว่า

“ภาราหะเว ปัญจักขันธา - ขันธ์ห้า เป็นภาระอันหนักเน้อ”

หมายความว่า หนักเพราะเข้าไปแบก ถ้าเราไม่ไปแบก

มันก็ไม่หนักอะไร มันเป็นเรื่องธรรมชาติของมันอย่างนั้น

มันเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป ตามวิถีทางของธรรมชาติ ถ้าเรา

ไม่เข้าไปยึด มันก็เป็นของมันอย่างนั้น เราไม่ต้องเป็นทุกข์

กับสิ่งเหล่านั้น แต่เมื่อใดเราไปยึดถือว่าสิ่งนี้ที่เป็น

“ของฉัน”ขึ้นมา เราก็เป็นทุกข์เพราะความยึดถือนั้นด้วย

ตัวอุปาทาน ตัวศัพท์ธรรมะเรียก“อุปาทาน” แปลเป็น

ภาษาไทยว่า ยึดมันถือมั่น

หรือท่านใช้ศีพท์อีกคำหนึ่งว่า“อภินิเวส” เช่นในพระพุทธภาษิตที่ว่า

“สัพเพ ธัมมา นาลัง อะภินิเวสายะ” “อะภินิเวสายะ” ก็หมายถึงว่าการยึดมั่นถือมั่นเหมือนกัน

เหมือนกับตัวอุปาทานนั่นแหละ แต่ว่าใช้ศัพท์อีกศัพท์หนึ่งว่า อะภินิเวสายะ แปลว่า เข้าไป

ยึดมั่นถือมั่น ว่าเป็นตัวฉัน เป็นของฉัน เมื่อเราเข้าไปยึดสิ่งใดว่าเป็นตัวเราเป็นของเรา เป็น

ตัวฉันเป็นของฉัน จิตก็เป็นทุกข์ทันที เป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้น อันนี้เป็นเคล็ดที่เราควรจะรู้ไว้

ในใจของเรา แล้วก็จะได้ไปแก้ปัญหาชีวิตของเราได้ เวลาใดที่เราเป็นทุกข์ เราก็ต้อง

พิจารณาว่าที่ได้เกิดความทุกข์นี่เพราะอะไร เพราะเราไปยึดถือว่าเป็นของเรานั่นเองเป็น

ของฉัน ทรัพย์ของฉัน สามีของฉัน ภรรยาของฉัน บ้านของ ฉันรถของฉัน รวมไปถึงประเทศ

ของฉัน มันก็ยิ่งไปกันใหญ่ ถ้าใครไปยึดถืออย่างนั้นความทุกข์มันก็เพิ่มขึ้น

ปัญญานันทภิกขุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language