พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
ธรรมะสี่ความหมายขอให้ช่วยจดจำไว้เถอะ อาตมาขอยืนยันว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ที่สุดที่จะช่วย ให้เข้าใจเรื่องทุกเรื่องในสากลจักรวาล โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเรื่องที่จะดับทุกข์ได้ ในเราอัตภาพนี้ อัตภาพ หนึ่งๆ นี้ มันก็มีตัวธรรมชาติ ดิน น้ำ ลม ไฟ แล้วแต่จะ เรียกประกอบกันอยู่ เป็นผม ขน เล็บ ฟัน หนังเป็นเนื้อ เป็นเลือดเป็นกระดูกเป็นอะไรต่างๆ ทุกส่วนของ ร่างกายนี้คือ ตัวธรรมชาติ หรือตัวธาตุที่ประกอบกัน เป็นอวัยวะ เป็นไปตามธรรมชาติ |
ทีนี้ในสิ่งเหล่านี้ทุก ส่วนของร่างกายนี้ มีกฎของธรรมชาติบังคับอยู่ ซึ่งมันต้องเป็นไปตามกฎ
ดังนั้นมันจึงเจริญได้ เปลี่ยนแปลงได้ไปตามกฎ เลือด เนื้อ เอ็น กระดูกอะไรก็ตามมันก็เปลี่ยน
ไปตามกฎ เพราะมันมีกฎ ทุกส่วนของร่างกาย เป็นกลุ่มแห่งเซลล์ หรือเป็นเซลล์แต่ละเซลล์
หรือกระทั่งเป็นปรมาณูหนึ่งๆ มันมีกฎควบคุมมันต้องเป็นไปตามกฎ ดังนั้นมันจึงมี
การเคลื่อนไหวไปตามกฎ มันก็มีหน้าที่เพราะมันมีกฎบังคับให้เป็นไปตามกฎนี้ มันก็มีหน้าที่
มันก็ชวนกันทำหน้าที่ ทุกส่วนทำหน้าที่ เลือดเนื้อกระดูกอะไรนั้น ที่เห็นได้ชัด ทำหน้าที่ของ
มันเองเช่น หัวใจสูบฉีดโลหิต ปอดสูบฉีดอากาศนี้ มันก็ทำของมันเอง ที่มนุษย์จะต้องช่วยทำ
จะต้องกินอาหาร จะต้องถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ ต้องอาบน้ำทำทุกอย่างเป็นหน้าที่ที่มนุษย์
จะต้องช่วยทำ ประกอบกับหน้าที่ที่ธรรมชาติมันทำของมันเอง จึงรอดอยู่ได้ มีการทำหน้าที่ที่
ถูกต้องแล้วมันก็มีผลคือ เป็นความสบาย หรือเป็นความทุกข์แล้วแต่ว่าทำหน้าที่ผิดหรือทำ
หน้าที่ถูก ถ้าทำหน้าที่ถูกต้องโดยประการทั้งปวงนี้ ชีวิตนี้มันก็มีแต่ความผาสุก สะดวกสบาย
แต่นี้มันยังมีความผิดพลาดเหลืออยู่ด้วย ความโง่ มันจึงมีปัญหาเกิดขึ้นเป็นความไม่สบายเป็น
ความทุกข์ แม้แต่ในคนๆ เดียวมันก็มีกฎเกณฑ์ของธรรมชาติครบทั้งสี่ความหมาย มีตัว
ธรรมชาติ มีกฎของธรรมชาติ มีหน้าที่ตามกฎของธรรมชาติ มีผลอันเกิดจากหน้าที่นั้นๆ ก็มาดู
เอาเองสิว่า จำเป็นหรือไม่จำเป็นว่าที่จะต้องรู้ธรรมะ จะต้องมีธรรมะ จะต้องปฏิบัติธรรมะ
จำเป็นหรือไม่จำเป็นแล้วมันจะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ละ เพราะว่าชีวิตร่างกายสภาพนี้มัน
ก็คือ ตัวธรรมะในความหมายที่หนึ่งคือ ตัวธรรมชาติ ด้วยประการทั้งปวง ถ้าใครพูดว่า ธรรมะ
กับชีวิตมันอยู่คนละทิศทาง ธรรมะอยู่ที่วัด ชีวิตอยู่ที่บ้าน มันก็โง่เต็มทีแหละ มันไม่รู้อะไรเอา
ซะเลยว่า ธรรมะมันก็คือ ตัวชีวิตนั่นเองคือ เป็นตัวธรรมชาติ แล้วก็มีกฎของธรรมชาติ มีหน้าที่
ตามกฎ มีผลตามหน้าที่ มันสัมพันธ์กันอยู่อย่างยิ่งอย่างนี้ อย่างสนิทจนแยกกันไม่ได้อย่างนี้
มันก็ต้องรู้ แล้วก็ต้องปฏิบัติให้ถูกต้อง
พุทธทาสภิกขุ
ธรรมะกับการดำรงชีวิต บรรยายแก่คณะนักศึกษา ม.สงขลานครินทร์ ปี ๒๕๓๔
อ่านแล้ว #แบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา
#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #=ชีวิตจักสนุก
สุข สงบ เย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น