พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
วันนี้คุณเดินมาไกลเกินกว่า จะย้อนกลับไปแก้ไขความผิดพลาดของเมื่อวาน
แต่ยังไม่สาย ที่จะปรับแก้แนวโน้มความผิดพลาดของวันพรุ่ง
ถ้าเมื่อใด ‘มีสติ’ เห็นได้ว่าอดีตที่ขมขื่น คือสิ่งที่ล่วงลับไปแล้ว
ไม่ต้องดึงมันกลับมาเสพอีกแล้วก็ได้ ในวันนี้ เราจึงมีสิทธิ์เสพรสของสติได้ กล้ำกลืน
ความเจ็บปวดคุณจะเก็บกด มีสติเห็นความเจ็บปวดคุณจะโล่ง เหมือนค่อยๆยกภูเขาออก
จากอก ถ้าใจเจ็บ ไปสั่งให้มันไม่เจ็บไม่ได้หรอกครับ แต่เรารู้ได้ว่ามันมีเจ็บมากบ้าง น้อยบ้าง
ไม่สม่ำเสมอ นั่นคือที่สุดที่เราจะรู้ เห็นความทรงจำที่เลวร้ายเหมือนหนาม เห็นจิตของเรา
เหมือนเนื้อ แล้วยอมรับตามจริง เดี๋ยวมันทิ่มแรง เดี๋ยวมันบาดเบา บังคับไม่ได้ แค่เห็นบ่อย
พอ ก็จะเป็นอิสระจากความทรงจำที่เลวร้ายได้แล้ว ตามดูจนรู้จริงว่า ‘จิตไม่ใช่สิ่งที่บังคับได้’
แล้วคุณจะสบายใจไปทุกเรื่อง
คาถาเสกใจให้ดีขึ้นมีอยู่บทหนึ่ง คือ "อย่าให้แย่ไปกว่านี้"
ผู้ท่องคาถาอยู่ย่อมฉุกใจ ไถ่ถามตัวเองว่า ที่กำลังเป็นอยู่ มันแย่กว่าที่ควรจะเป็นหรือเปล่า? ชีวิตจะแย่จริงๆ ก็เมื่อคุณยอมให้จิตถูกเหตุการณ์ร้ายๆ ปรุงแต่งจนถึงวันตาย ชีวิตคุณเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่าความเป็นคุณมีอยู่แค่ไหน? .. ไม่ใช่ความสำเร็จหรือล้มเหลวของเมื่อวาน ไม่ใช่ความสุขหรือความทุกข์ในอดีต ไม่ใช่ข้อพิสูจน์ว่าเคยมีคนรักเลิศเลอหรือร้ายกาจ แต่เป็นความสามารถที่จะทำอะไรสักอย่าง ให้สำเร็จตามความตั้งใจดีๆในวันนี้ ต่างหาก
|
การเปลี่ยนความผิดพลาดให้เป็นความถูกต้อง หรือกลับร้ายให้กลายเป็นดี
พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส คืออาวุธชิ้นเดียวที่มนุษย์ จะชนะกรรมเก่าเน่าๆของตัวเองได้ !
ร้อยเรียงจากหลากบทความของคุณดังตฤณ
#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตจักสนุก สุข สงบ เย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น