พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
"ตราบใดยังหลงเพลินกับความสุขทางโลก ยังห่างไกลต่อมรรคผลนิพพาน"
จะมาหัดทำสมาธิก็ต้องเสียสละกามคุณอารมณ์ กามคุณอารมณ์ก็คือรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะคือ
สัมผัสทางกาย สิ่งนี้มายั่วให้ใจหลงไป สิ่งที่เรียกว่ากามมีสองอย่าง อันนึงเรียก”วัตถุกาม”ก็คือ
รูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะทั้งหลาย อันหนึ่งคือ”กิเลสกาม” กิเลสกามก็คือตัวราคะในใจเราเติบโต
ขึ้นมาได้ด้วยกามวิตกด้วยการตรึกถึงกาม มีกามวิตกเพราะว่ามีอนุสัยของราคะส่งทอดกันขึ้นมา
งั้นถ้าจะทำสมาธิได้ก็ต้องสละความสนุกสนานเพลิดเพลินในรูปในเสียงในกลิ่นในรสในสัมผัส
ต้องเสียสละทั้งสิ้นเลย อย่างหลงโลกอยู่ทั้งวันทั้งวันนะนึกจะหวังว่านั่งสมาธิจะสงบ ไม่สงบหรอก
มันหลงโลกแล้ว งั้นอยากได้คุณงามความดีต้องเสียสละ อย่างทำทานก็ต้องเสียสละ รักษาศีลก็
ต้องเสียสละความเคยชินที่ไม่ดี ควรเสียสละแต่เสียสละยาก ทำสมาธิอยากให้จิตใจสงบตั้งมั่นอยู่
กับเนื้อกับตัวมีความสุขมีความสงบอยู่ภายในก็ต้องกล้าสละความสุขความเพลิดเพลินในรูปในเสียง
ในกลิ่นในรสในสัมผัสให้ได้ สละไม่ได้ใจไม่มีสมาธิจริงหรอก อย่างวันๆคิดจะดูหนังฟังเพลง
คิดจะเล่นอินเตอร์เนตอะไรงี้นะ คือตราบใดที่ยังหลงเพลินในรูปในเสียงในกลิ่นในรสในสัมผัสอยู่
อย่าหวังเลยมรรคผลนิพพาน ไกลเกิน แค่สมาธิยังไม่มีเลย
งั้นต้องตั้งใจเด็ดเดี่ยวนะถ้าจะสู้ หลวงพ่อตอนเป็นฆราวาสนะแทบจะไม่ดูหนังเลยเพลงเนี่ยไม่ฟัง
นอนนะมีที่นอนที่นอนก็ซื้อมาตอนแต่งงานนะก็หนาๆนะ เรามีไม้กระดานอยู่แผ่นนึงไม้บานประตูวาง
ไว้ข้างบนอีกทีนึงนะแล้วปูผ้าทับไว้ไม่มีใครรู้หรอก เราก็ยังนอนบนไม้กระดาน พยายามฝึกตัวเอง
ไม่ให้เพลิดเพลินในการกินการนอนนะ นอนไม้กระดานนะนอนพลิกไปพลิกมาก็โป๊กๆเลยนะ สมัย
ก่อนไม่มีเนื้อเยอะอย่างนี้หรอกมีกระดูกเยอะ พลิกไปพลิกมากระดูกก็โขกไม้ก็ต้องอดทนเอานะ
อยากได้ของดี
ตราบใดที่ยังเพลิดเพลินในรูปในเสียงในกลิ่นในรสในสัมผัส สมาธิเกิดยากเพราะมันเป็นศตรูของสมาธิ สิ่งที่เป็นศัตรูของ สมาธิจริงๆก็คือกิเลสชื่อว่า”นิวรณ์” นิวรณ์อันแรกเลย”กามฉันทะนิวรณ์”ความยินดีพอใจในรูปใน เสียงในกลิ่นในรสในสัมผัส นิวรณ์ตัวที่สองชื่อ”พยาบาท”ความไม่พอใจในรูปในเสียงใน กลิ่นในรสในสัมผัสและใจไม่เป็นกลางกับรูปเสียงกลิ่นรส สัมผัส สมาธิไม่มีหรอกมันมีนิวรณ์ “อุทธัจจ”ใจฟุ้งซ่าน ฟุ้งซ่านไปไหนฟุ้งซ่านไปในรูปในเสียงใน กลิ่นในรสในสัมผัสเติมไปอีกอันฟุ้งซ่านไปในโลกของความ คิดใจฟุ้งซ่านส่วนใหญ่ก็ฟุ้งไปในกามคุณอารมณ์นั่นเอง งั้นต้องเสียสละถ้าอยากได้ของดีก็อย่าติดในกาม ค่อยๆลดค่อยๆละไป หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น