Dhamma together:หยุดเพ่งโทษคนอื่น...หันกลับมาดูใจตัวเอง...จะดีกว่า

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...









ปรกตินั้น เมื่อโกรธก็มักจะไป "เพ่งโทษคนอื่น"

ว่าเป็นเหตุให้ความโกรธเกิดขึ้น

คือมักจะไปคิดว่าผู้อื่นนั้นพูดเช่นนั้น

ทำเช่นนั้นที่กระทบกระเทือนถึงผู้โกรธ

"การเพ่งโทษผู้อื่น" เช่นนี้

ไม่ใช่การทำให้จิตใจตัวเองสบาย ตรงกันข้าม 

กลับเป็นการเพิ่มความไม่สบายให้ยิ่งขึ้น 

ยิ่งเพ่งเห็นโทษคนอื่นมากขึ้นเพียงใด

ใจตัวเองก็ยิ่งจะไม่สบายยิ่งขึ้นเท่านั้น

แต่ถ้า "หยุดเพ่งโทษผู้อื่นเสีย" เขาจะพูดจะทำอะไรก็ตาม ที่เป็นการกระทบกระเทือนถึง

ตนเองจริงหรือไม่ก็ตาม อย่าไปเพ่งดู ให้ย้อนเขามาเพ่งดูใจตนเอง ว่ากำลังมีสุขทุกข์

อย่างไร มีอารมณ์อย่างไรใจจะสบายขึ้นได้ด้วยการเพ่งนั้น กล่าวสั้น ๆ

 

"การเพ่งโทษผู้อื่น" ทำให้ตัวเองไม่เป็นสุข 

แต่ 

"การเพ่งดูใจตนเอง" ทำให้เป็นสุขได้

 

แม้กำลังโกรธมาก หากเพ่งดูใจตัวเองให้เห็นว่ากำลังโกรธมาก ความโกรธก็จะลดลง 

หากเพ่งดูใจตัวเองให้เห็นว่ากำลังโกรธน้อย ความโกรธก็จะหมดไป..

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language