Dhamma together:มองพระธรรมของพระพุทธเจ้า มองเข้ามาสู่ตัวสู่จิตสู่ใจของเรา

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


เครื่องขยายเสียงมันจะมีเสียงมันก็ต้องมีไฟ การที่จะไป

ต่อไฟได้ก็ต้องมีปลั๊กเสียบอีก นี่มันหลายขั้นตอนมาก

ถ้าเปรียบเทียบถึงเครื่องขยายเสียงนะ มันก็เหมือนคนเรา

เนี่ยแหละ ถ้าไม่มีกัลยาณมิตร คือไม่มีเพื่อนดี ๆ นะ ไม่มี

บัณฑิตคอยสั่งคอยสอนคอยอบรมคอยบอก ชี้ทางนั้นถูก

ทางนี้ผิด ก็ไปยากไปลำบากอยู่เหมือนกัน กลับไปได้

คนพาล พาลชน ชี้ทางที่ผิด สอนทางผิด ก็เดินผิดทาง

ก็เลยกลายเป็นโมฆะเลยชาตินี้ เดินผิดทาง อย่างมงคล

๓๘ ประการ ขึ้นต้นก็ อเสวนา จ พาลานัง ปณฺฑิตานญฺจ

เสวนา อย่าคบคนพาลนะ ถ้าคบก็ควรคบบัณฑิต


เพราะว่าบัณฑิตพาแต่ประโยชน์อย่างเดียว ถ้าคนพาลพาแต่บาปกรรม มีแต่ทุกข์โทษ

ให้ทุกข์ให้ยากให้ลำบาก กับคนพาลนี่ พาลหลายอย่างนะ คำว่าพาลนี่นะ จิตใจเราก็เป็นพาล

นะ ถ้าเรายังไม่ได้ปรับปรุงให้มันดี ยังไม่ได้ทำให้จิตใจของเรานี่เป็นบัณฑิตเป็นปราชญ์ชน

คือคิดเรียนรู้อะไรมันดี อะไรมันไม่ดี อะไรมันเป็นบุญ อะไรมันไม่เป็นบุญ อะไรมันเป็นของที่

เรียกว่าฉลาด อะไรเป็นของที่เรียกว่าไม่ฉลาด นี่ใจเราของเราก็เหมือนกัน เรามัวแต่มอง

คนพาล คือมองคนอื่นที่เขาทำไม่ดี ทำชั่ว แต่เราไม่เคยมองพาลจิตมันมี พาลชนก็อย่างหนึ่ง

คือชนชาติชนชั้นหรือคนนั้นเป็นคนพาล แต่ไม่เคยมองจิตนั้นจิตนู้น จิตเรานี้เป็นพาลหรือเป็น

บัณฑิต นี่เรียกว่ามองพระธรรมของพระพุทธเจ้า แต่ไม่ได้มองออกไปข้างนอกนะ มองเข้ามาสู่

ตัวสู่จิตสู่ใจของเรา ดูที่ใจของเรามันเป็นพาลมั้ย มันพาลมั้ยน่ะพิจารณาดูที่ใจของเรา

หลวงพ่อครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language