Dhamma together: พุทธธรรมจะนำสุขต้องยอมให้ธรรมะเผด็จการ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...



พุทธธรรมจะนำสุขมาให้ ก็เฉพาะต่อเมื่อเรามี

พุทธธรรม...จะเพียงแต่รู้พุทธธรรมเฉยๆก็ยังไม่พอ

ต้องมีด้วย จะมีได้อย่างไรก็ต้องด้วยการปฏิบัติ รู้แล้ว

ปฏิบัติ ทีนี้ข้อสำคัญมันอยู่ที่ว่า การที่จะมีพุทธธรรม หรือ

ปฏิบัติพุทธธรรมได้นั้น เราจะต้องยอมให้พระธรรมเป็นผู้

เผด็จการ บางคนชักสงสัย เพราะว่าคนโดยมากเกลียด

คำว่า เผด็จการ เข้ากระดูกดำ แต่อาตมามาบอกว่าเรา

ต้องยอมให้พระธรรมเผด็จการ เราจึงจะมีธรรมะ นี่แหละ

ขอให้ฟังกันโดยดีๆ ว่าจะต้องยอมให้พระธรรมเผด็จการ

อย่างไร 

เหมือนอย่างว่า เราเจ็บไข้ เราไปหาหมอ เราต้องยอมหมอทุกๆอย่าง แล้วแต่หมอเค้าจะ

ทำอย่างไร เนี่ยหมอเค้าจะทำทุกอย่างตามที่เค้าต้องการจะทำ เราจะไปโต้แย้งไม่ได้

เรียกว่ายอมหมอทุกอย่าง หมอก็จะทำตามที่ควรจะทำ แล้วเราก็จะหายจากโรค

พระธรรมนี่ก็เหมือนกันเป็นสิ่งสูงสุด ถ้าเราจะให้ธรรม พระธรรมช่วย เราต้องยอมให้พระธรรม

เป็นผู้เผด็จการ... เผด็จการเป็นเพียงเครื่องมือ เราจะต้องใช้ให้ถูก และใช้เป็นเผด็จการ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสิ่งที่เรียกว่ากิเลสนั่น กิเลสของทุกคนนั่นแหละ ถ้าจะจัดการกับกิเลส

แล้ว ต้องจัดการกับมันอย่างเผด็จการ อย่าไปไว้หน้ามันเลย อย่าไปทำประชาธิปไตยกับกิเลส

เลย ต้องจัดการกับกิเลสทั้งหลายอย่างเผด็จการ หรือในบัดนี้ก็จะต้องพูดว่า ขึ้นชื่อว่าความชั่ว

ทุกอย่างทุกชนิดนั่น เราต้องจัดการกับมันอย่างเผด็จการ อย่าไปไว้หน้า อย่าไปผ่อนผัน

อย่าไปรอมชอม อะไรทำนองนั้นกันกับกิเลส จงใช้วิธีเผด็จการโดยส่วนเดียวต่อสิ่งที่เรียกว่า

กิเลส แล้วก็จะเหลือประโยชน์ตามที่ควรจะได้รับ ธรรมะมีลักษณะเป็นสิ่งสูงสุด เป็นกฎ

ของธรรมชาติ ที่จำเป็นจะต้องรู้จัก และจำเป็นที่จะต้องใช้อยู่ทั่วๆไปนั้นก็คือ กฎของธรรมชาติ

ที่เรียกกันว่า อิทัปปัจจยตา ที่ว่าเมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ก็มี เมื่อสิ่งนี้เกิด สิ่งนี้ก็เกิด เมื่อสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้

ก็ดับ นั่นน่ะคือกฎอันเฉียบขาด กฎนี้เป็นผู้เผด็จการร้อยเปอร์เซนต์อยู่ในตัว ไม่มีใคร

เปลี่ยนแปลงได้ กฎนี้พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพ คือท่านตรัสรู้ อิทัปปัจจยตา ที่เรียกกันว่า

ปฏิจจสมุปบาท และท่านก็เคารพทันที เคารพในฐานะเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์

เคารพ... กฎอิทัปปัจจยตา ฝ่ายให้เกิด ก็จะทำให้เกิดทุกสิ่ง กฎอิทัปปัจจยตา ฝ่ายให้ดับ

ก็ให้ดับทุกสิ่ง ไม่มีใครขอร้อง อุทรณ์ อ้อนวอน ต่อรองอะไรได้ สิ่งสูงสุดอย่างนี้มีอยู่ แม้แต่

พระพุทธเจ้าท่านก็เคารพ แล้วท่านก็ปฏิบัติตามสิ่งนี้โดยไม่มีข้อแม้ เรียกว่ายอมให้เผด็จการ

แล้วท่านก็นำสิ่งนี้มาสอนแก่พวกเรา ท่านปฏิบัติต่อสิ่งนี้ ในลักษณะที่ยอมให้สิ่งนี้เผด็จการ

คือยอมให้ธรรมะเผด็จการ ปฏิบัติธรรมะด้วยการมอบชีวิตจิตใจ ทุกอย่างทุกประการ ปฏิบัติ

ธรรมะให้สำเร็จประโยชน์ จนเป็นที่พึ่งได้ อาตมาจึงขอร้อง ให้ท่านทั้งหลายกำหนดจดจำไว้

เป็นอย่างดี ว่าการที่พุทธธรรมจะนำสุขมาให้นั้น เราต้องมีพุทธธรรม และการที่เราจะมีพุทธ

ธรรมได้นั้น เราต้องยอมให้พุทธธรรมเผด็จการ ถ้าไม่ยอมให้เผด็จการ จะเกิดทะเลาะกัน

ระหว่างเรากับพุทธรรม แล้วเราสู้ไม่ได้ เราก้พ่ายแพ้ เราก็วินาศเอง

พุทธทาสภิกขุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language