Dhamma together:ให้รู้จักสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตอยู่ตลอดเวลา

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

เราควรจะได้มีการรู้เท่ารู้ทันต่อสิ่งนั้นตามสภาพที่เป็นจริง

เพราะฉะนั้นจึงต้องมาทำการศึกษาในเรื่องนั้นๆ เพื่อจะได้

ต้อนรับสิ่งเหล่านั้นให้ถูกต้องตามเรื่องที่มันควรจะเป็น

การต้อนรับสิ่งเหล่านี้มันให้ถูกต้องนั้น

คือเราจะต้องรับมันด้วยปัญญา ไม่ใช่รับด้วยความเขลา

ถ้าเราไปรับเอาอะไรด้วยความเขลา ก็เหมือนกับว่าเรากิน

ผลไม้ทั้งเปลือก กินทุเรียนทั้งเปลือกนี้ไม่ได้เรื่องแน่

เพราะว่าหนามทุเรียนจะทำปากเราให้เลือดไหลไปตามๆ

กัน กินมังคุดทั้งเปลือกก็ไม่ได้ เมื่อสมัยเด็กๆ เคยกิน

มะม่วงสดๆ แล้วก็ไม่ต้องใช้มีด เลยก็เป็นแผลที่ริมฝีปาก

เพราะว่ายางมันเผาไหม้ นั่นคือการกินทั้งเปลือกมันได้

ทุกข์อย่างนั้น

 

ในอารมณ์ทั้งหลายที่มันมากระทบเราก็เหมือนกันเราต้องปอกสิ่งเหล่านั้นออกไป ไม่งุบไว้

ทั้งเปลือก แต่เราควรจะปอกมันด้วยปัญญา ให้รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น อะไรตั้งอยู่ อะไรเปลี่ยนแปลงไป

ต้องรู้สภาพความจริงของเรื่องให้ถูกต้อง แล้วเราก็ไม่ต้องนั่งเป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้นๆ ก็สิ่งต่างๆ

ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรานั้น มันก็ปนกันไปตลอดเวลา คนเคยเป็นใหญ่อาจจะกลายเป็นผู้น้อยไป

เมื่อใดก็ได้ มั่งมีอาจจะกลายเป็นคนจนไปเมื่อใดก็ได้เคยมีพวกพ้องบริวาร อาจจะกลายเป็นคน

หมดพวกหมดบริวารไปก็ได้ อันนี้มันเป็นเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นได้เพราะความประมาทความเผลอเรอ

ในการดำรงชีวิตในทางธรรมะท่านจึงสอนให้เราไม่ประมาท ให้รู้จักสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตอยู่

ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งร้ายเกิดขึ้น เพื่อให้สิ่งที่ดีคงอยู่อย่างนั้นตลอดไป เรื่องอย่างนี้มัน

เป็นเรื่องที่ทำได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องเหลือวิสัย ถ้าเป็นเรื่องเหลือวิสัยพระผู้มีพระภาคเจ้าคงจะไม่สอนไว้

ให้เราทั้งหลายปฏิบัติ

ปัญญานันทภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language