พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
การยึดมั่นถือมั่นในเรื่องตัวเรื่องตน ที่เราเรียกในภาษา ธรรมะว่า “อัตตวาทุปาทาน” คือ การยึดมั่นถือ มั่นใน ตัวฉัน ในของของฉัน ถ้ายังมีความยึดมั่นอยู่ตราบใด ความทุกข์ก็ยังมีอยู่ ความร้อนก็ยังมีอยู่ อะไรๆ ที่มันเกิด ขึ้นตามธรรมชาติ มันก็มีอยู่กับผู้นั้น แต่ว่าถ้าถอนความยึด มั่นถือมั่นได้เมื่อใด สิ่งเหล่านั้นมันก็ไม่มี มันมีของมันอยู่ ตามธรรมชาติไม่ใช่ว่าไม่มี แต่ว่าจิตไม่ได้เป็นทุกข์เพราะ เรื่องนั้น เช่น ว่าความร้อนทางกายก็มีอยู่ เจ็บปวดมันก็มี อยู่ แต่ว่าจิตไม่ปวดในเรื่องนั้น ไม่ได้เจ็บไปกับเรื่องนั้น ดูอาการมันเฉยๆ ไม่มีปฏิกิริยาเกิดขึ้นในใจ |
อันนี้เป็นเรื่องของจิตใจล้วนๆ... แต่ว่าจิตของพระอริยเจ้านั้น ท่านไม่มีเหมือนเรา จิตท่านแตก
ต่างจากเรา เพราะท่านปฏิเสธหมดแล้ว ไม่มีอะไรเป็นของท่าน อะไรๆ มันเกิดขึ้นท่านก็เฉยๆ
คล้ายๆกับเรื่องอย่างนี้ เหมือนกับว่ามีอะไรของใครเขาหาย เราไม่ได้เป็นทุกข์กับเขา เช่นว่า
คนหนึ่งเขามีของหายไป เรารู้เราก็เฉยๆ ที่เฉยๆ ก็เพราะว่าของนั้นมันมิใช่ของเรา บ้านคนอื่น
ถูกไฟไหม้อยู่ห่างไกลจากบ้านเรา เราก็ไม่ได้เป็นทุกข์ ไม่ได้เดือดร้อนใจ ที่ไม่ได้เป็นทุกข์ก็
เพราะว่า เราไม่ได้นึกว่าเป็นบ้านของเราอยู่นั่นเอง แต่ถ้าว่าบ้านของเราถูกไฟไหม้ เราก็ร้อน
อกร้อนใจมีความทุกข์ความเดือดร้อน ความทุกข์ความเดือดร้อนตัวนี้เกิดขึ้น เพราะจิตเข้าไป
ยึดถือว่าเป็นบ้านของฉัน เงินทองของฉัน อะไรๆ ของฉัน พอเอาคำว่า “ของฉัน” เข้าไปใส่ไว้
ไม่ว่าในเรื่องอะไร ความทุกข์มันก็เกิดขึ้นทันที เพราะเรื่องเข้าไปยึดถือในสิ่งนั้น อันนี้แหละ
เป็นเรื่องที่มีอยู่ในจิตใจของมนุษย์ทุกคนที่เราพอมองเห็นได้ คือมองเห็นได้ว่า ถ้าเมื่อใดใจ
เราปล่อยวางเสียได้ เราก็สบายใจ แต่เมื่อใดเรา เข้าไปยึดถือมันไว้ เราก็มีความทุกข์มีความ
เดือดร้อนใจ
ปัญญานันทภิกขุ
#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น