พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
มีนิทานเรื่องหนึ่งให้ข้อคิดแง่นี้ไว้ดีมาก เป็นเรื่องของหญิงชราที่ทุกวันจะหามหม้อดินเผาสอง
ใบออกไปตักน้ำ ใบหนึ่งก็เป็นหม้อที่สมบูรณ์ อีกใบหนึ่งเป็นหม้อที่มีรอยร้าว เมื่อตักน้ำแล้วก็
จะแบกหมอสองใบนั้นกลับไปที่บ้าน ซึ่งเป็นระยะไกลพอสมควร แต่พอถึงบ้าน หม้อที่ร้าวก็จะ
เหลือแค่ครึ่งหนึ่ง เนื่องจากน้ำรั่วไหลตลอดทาง แต่ว่าหญิงชราก็ยังคงทำแบบนี้ทุกวี่ทุกวัน
เป็นเวลานานนับปี วันหนึ่งหม้อใบร้าวก็พูดกับหญิงชราว่า รู้สึกว่าแย่มากที่ปล่อยให้น้ำรั่วไหล
กว่าจะถึงบ้านย้ายก็มีน้ำเหลือครึ่งเดียว ไม่เหมือนหม้ออีกใบที่ทำงานได้เต็มที่เก็บน้ำไว้ได้เต็ม
ทุกวัน หม้อใบร้าวนั้นตัดพ้อหญิงชราว่าเอาฉันมาทำงานนี้ทำไม หญิงชราก็บอกว่า เจ้าไม่
สังเกตหรือว่า ตลอดเส้นทางจากลำห้วยจนถึงบ้าน ด้านที่ฉันแบกเจ้าอยู่นั้น มีดอกไม้สวยงาม
ขึ้นมาเป็นแนวเลย ขณะที่ด้านที่ฉันแบกหม้อที่สมบูรณ์นั้นไม่มีดอกไม้ขึ้นเลย ที่เป็นเช่นนี้ก็
เพราะฉันเอาพันธุ์ไม้มาหว่านตรงด้านที่ฉันแบกหามเจ้าเอาเอาไว้ ทุกวันที่ฉันห้ามเจ้า เจ้าก็
ช่วยรดน้ำให้ดอกไม้เหล่านั้นจนชูช่อสวยงาม ดอกไม้ที่เจ้าช่วยรดน้ำ เราก็เก็บมาถวายพระ
และประดับบ้านเราจนสวยงาม เจ้าไม่สังเกตหรือ เมื่อได้ยินเช่นนั้น หม้อใบร้าวก็เกิดความภาค
ภูมิใจขึ้นมา เพราะได้รู้ว่าตนเองได้ทำสิ่งที่มีคุณค่า หญิงชราเป็นคนฉลาดฉลาด สามารถเอา
หม้อที่ร้าวมาใช้ประโยชน์ได้
เรื่องนี้ชี้ว่า แม้สิ่งที่มีตำหนิ บกพร่อง ไม่สมบูรณ์ ก็มีประโยชน์ถ้ารู้จักใช้
ธรรมชาติหรือโลกนี้อยู่ได้เพราะสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ทั้งนั้น แมลงหรือสัตว์เล็ก ๆ มีคุณค่า
มีความสำคัญต่อชีวิตและโลกนี้ อาจจะมากกว่าสัตว์ที่ผู้คนกำลังเป็นห่วง เช่น ปลาวาฬ
ช้าง เสือหรือหมีแพนด้า พวกนี้อยู่ชั้นยอดของปิรามิด ถึงแม้จะมีความสำคัญแต่ถ้าหายไปก็
ไม่ส่งผลกระเทือนต่อระบบนิเวศมาก แต่ถ้าพวกแมลง สัตว์เล็กๆ เช่น ผึ้ง แมงมุม มด หรือ
แม้แต่แบคทีเรีย สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ จะเกิดความวุ่นวายกันทั้งโลกเลย ตอนนี้หลาย
ประเทศกำลังเดือดร้อน เพราะผึ้งไม่รู้หายไปไหน ตายไปเยอะมาก ชาวสวนชาวไร่เลยพากัน
เดือดร้อน เพราะต้องอาศัยผึ้งในการผสมเกสร หลายแห่งต้องผสมเกสรเองเพราะผึ้งหายไป
ธรรมชาติที่อยู่กันได้อย่างราบรื่นกลมกลืนก็เพราะสิ่งเล็กๆ น้อยๆ
หลายคนไม่ทราบว่าออกซิเจนที่เลี้ยงสิ่งมีชีวิตทั้งโลกและมนุษย์เจ็ดพันล้านคนนั้น
ส่วนใหญ่มาจากแพลงตอน ซึ่งเป็นจุลชีพในมหาสมุทรทั่วโลก แพลงตอนมี ๒ ประเภท คือ
ที่เป็นสัตว์และพืช ถ้าเป็นพืช เรียกว่าไฟโตแพลงตอน อยู่ตามมหาสมุทร นอกจากเป็นอาหาร
ของปลาวาฬแล้ว ยังเป็นตัวการผลิตออกซิเจนเป็นอันดับต้นๆของโลก แม้ว่ามันจะตัวเล็กมาก
แต่ว่ามีความสำคัญต่อชีวิตของสัตว์และคนทั้งโลก หากแพลงตอนสูญพันธุ์ไป
ก็เดือดร้อนทั้งโลก
สิ่งเล็กๆ ไม่ใช่ว่าไร้ค่า และสิ่งที่ดูเหมือนไร้ค่า ที่จริงแล้วมีความสำคัญมาก ขอให้เราคำนึงถึง ความข้อนี้ อย่าดูถูกสิ่งเล็กน้อย และอย่าดูถูก ตัวเองว่าไม่มีคุณค่า ไร้ความสำคัญ เราแต่ละคนมี ความสำคัญและความสามารถทั้งนั้น อยู่ที่ว่าสำคัญ เรื่องไหน สามารถเรื่องอะไร |
ในทำนองเดียวกันคนอื่นก็สำคัญเช่นกัน อย่าดูถูกว่าเขาต่ำต้อยไร้ค่า หากคิดเช่นนั้นเราอาจ
เสียใจในภายหลังก็ได้
พระไพศาล วิสาโล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น