พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
ความโลภกับความรวย ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน เราอาจจะคิดว่าไม่โลภก็ไม่รวย ไม่โลภก็ไม่เจริญก้าวหน้า ต้องโลภจึงรวย ต้องโลภจึงพัฒนาชีวิตได้ เราอาจคิดว่า ที่เราเห็นใครเขาร่ำรวยก็เพราะเขามีความโลภ เพราะโลภกับลาภเป็นคำเดียวกัน การได้ลาภเป็นสิ่งปรารถนาของมนุษย์ คนส่วนใหญ่คิดว่าการได้คือจุดสูงสุดของชีวิต แต่ความจริง การให้ต่างหากที่สูงส่งกว่า รวยโดยไม่ต้องโลภก็ได้ ความโลภไม่เคยทำให้ใครรวย |
พระท่านสอนว่า ความยินดีในทรัพย์สินของตนเป็นสุดยอดของความรวย
ความโลภคือการยินดีในทรัพย์สินของคนอื่น พยายามนำมาเป็นของตนเอง พูดอย่างนี้อาจจะขัดแย้งกับ
การทำธุรกิจ เพราะธุรกิจต้องแย่งส่วนแบ่งการตลาดมาให้ได้ ใครแย่งได้มาก
คนนั้นก็จะครอบครองไว้มาก กลายเป็นเจ้าของผลประโยชน์
ในความเป็นจริง การครอบครองยังมิใช่เป้าหมายของการเป็นมนุษย์
การแบ่งปันต่างหากคือสันติสุข
เราจะโลภได้มามากเพียงใดก็ตาม หากเรายังไม่เคยแบ่งปันให้ใคร คิดหรือว่าจะหาความสุขได้
ต่อให้เรามีทรัพย์สินล้นแผ่นดิน คิดหรือว่าจะมีโอกาสใช้สอย
มีคฤหาสน์สวยงามทุกมุมโลก คิดหรือว่าจะมีเวลาไปนอนเอนกาย
มนุษย์ทุกชีวิตมีความโลภเป็นพื้นฐาน มีความอยากเป็นตัวขับเคลื่อน
ยิ่งถ้าไม่ได้ฝึกหัดขัดเกลาตั้งแต่เล็กในการเป็นผู้ให้ เป็นการช่วยเหลือเกื้อกุลคนอื่น
ยิ่งจะทำให้หมกมุ่นอยู่กับเรื่องกำไรขาดทุนเพียงอย่างเดียว
เพียงลมหายใจยังรวยริน เพราะไม่มีเวลาให้ แล้วจะโลภครอบครองให้มากไปทำไม
บางทีเรานึกไปว่า ใจที่เป็นสุขทุกวันนี้ ก็เพราะมีอารมณ์ดีๆให้ระลึก
อารมณ์ที่ว่านี้มักไม่เกี่ยวข้องกับกำไร ส่วนมากจะค่อนไปทางขาดทุน แต่เป็นบุญของชีวิต
พระราชญาณกวี
(ท่านปิยโสภณ)
#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา
#ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น