Dhamma together:วิชาทางโลก ไม่สำคัญเท่ากับการปฏิบัติธรรมและการเจริญสติ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ซึ่งเคยถูกพิพากษาประหารชีวิต เพราะโดนข้อหาฆ่าภรรยา หมอวิสุทธิ์เป็น

ศาสตราจารย์ ทางการแพทย์ที่จุฬาฯ เก่งมากในเรื่องของการทำเด็กหลอดแก้ว เป็นอันดับต้นๆ

ของเอเชีย มีฐานะดี แต่ชีวิตที่รุ่งโรจน์ ต้องพลิกผันตกต่ำ กลายเป็นนักโทษประหาร เพราะการตัดสินใจ

ที่ผิดพลาด มีปัญหาความรัก และแก้ปัญหาง่ายๆ ด้วยการฆ่าภรรยา ภายหลังได้รับการลดหย่อน

ผ่อนโทษ ตอนนี้จึงออกมาจากคุกได้ เพราะโทษเบาบาง เมื่อไม่นานมานี้ท่านได้ให้สัมภาษณ์สื่อไว้

อย่างน่าสนใจมาก โดยเผยชีวิตเบื้องหลังกำแพงเรือนจำ กับชีวิตใหม่หลังก้าวผ่านคำว่านักโทษประหาร

สู่การเรียนรู้ชีวิต จากโรงเรียนแห่งใหม่ ที่ถูกเรียกว่า"เรือนจำ "



" เมื่อได้ลองทบทวนตัวเองอย่างจริงจัง ก็ทำให้เขาได้รู้ว่า

ชีวิตก่อนหน้านี้ ตัวของเขาเป็นคนที่ประมาท ปล่อยให้ความโลภ

และความโกรธเข้าครอบงำจนไร้อิสระ ปล่อยให้อิทธิพลของ

ลาภยศ คำสรรเสริญ เข้ามามีอำนาจเหนือตนเอง แต่ในตอนนี้

หลังจากที่ได้ทบทวนตัวเอง แม้ว่าจะต้องเสียสิ่งต่าง ๆ ไป

มากมาย แต่เขากลับรู้สึกว่าตอนนี้เขา ได้เรียนรู้ตัวเองมากขึ้น

ได้มองโลกในอีกมุมมองหนึ่ง มีการเจริญเติบโตของจิตวิญญาณ

และมีความสุขจากการให้ เข้าใจคำว่าจิตอาสามากขึ้น

จากรูปภาพที่เขาได้วาดในเรือนจำว่า ตัวของเขานั้นก็เปรียบ

เหมือนธุลีเล็ก ๆ ในโลกใบใหญ่ 

ไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือสลักสำคัญอะไร หากเราหาความสุขได้ จากการที่ตัวเองเป็นเพียงฝุ่นผง

ความสุขนั้นก็จะอยู่กับเราอย่างยั่งยืน เมื่อก่อนเป็นคนมีอัตตา คิดว่าควบคุมทุกอย่างได้ ทำให้โกรธง่าย

แต่ตอนนี้ตัวเองเป็นเพียงฝุ่นเล็ก ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องโกรธใครแล้ว เมื่อมองย้อนกลับไป เขาไม่ได้ตำหนิ

ตัวเอง และกลับรู้สึกว่า เข้าใจความคิดอ่าน ของภรรยามากขึ้น ตัวเองไม่ติดใจอะไรแล้ว ไม่โกรธแค้น

ขุ่นเคือง รู้สึกให้อภัยภรรยา ให้อภัยแก่ตัวเอง และก็อยากให้ภรรยาอภัยให้เช่นกัน อุทาหรณ์ที่

หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ได้เรียนรู้จากโรงเรียนชีวิตแห่งนี้ก็คือ มนุษย์เราควรจะต้องระมัดระวังในการใช้

ชีวิต ไม่ประมาท ต้องรู้สึกฝึกจิตตั้งแต่อายุน้อย ไม่จำเป็นต้องรอให้อายุมากแล้วจึงเข้าวัด ควรฝึกจิต

อย่าประมาทให้กิเลส ความโลภ โกรธ หลง ครอบงำจิตใจ เพราะเมื่อไหร่ที่เราถูกครอบงำเราก็ทำผิด

พลาดได้ หากมองย้อนชีวิตที่ผ่านมาแล้ว เสียดายที่ทุ่มเทกับงานการ จนละเลยเรื่องการปฏิบัติธรรม

แต่ก่อนในหัวมีแต่งาน ตำรา งานวิชาการ จึงไม่สนใจเรื่องของการฝึกจิตใจ ไม่ใส่ใจเรื่องการครองสติ

แต่ตอนนี้พบว่าการเจริญสติ การฝึกจิตใจ สำคัญกว่าวิชาความรู้เสียอีก

"พระถิระปุญโญ"

หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ


ถ้าท่านรู้ความจริงข้อนี้ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม ก็คงจะรีบปฏิบัติธรรมเสีย

ตั้งแต่ตอนนั้น ไม่รอให้แก่ก่อน นี่เป็นข้อคิดที่น่าสนใจ ว่าสุดท้าย

คนที่ประสบความสำเร็จวิชาทางโลกแล้ว กลับพบว่าวิชาทางโลก

ไม่สำคัญเท่ากับการปฏิบัติธรรมและการเจริญสติ นี่เป็น

โศกนาฏกรรม ที่เกิดขึ้นกับคนจำนวนมาก ที่มารู้ว่าวิชาชีวิตหรือ

การปฏิบัติธรรม เป็นเรื่องสำคัญก็ต่อเมื่อพลั้งเผลอพลั้งพลาด

ไปแล้ว หมอวิสุทธิ์ยังโชคดีที่มีโอกาสแก้ตัว รอดชีวิตกลับมา

ปฏิบัติธรรม บางคนอาจจะไม่มีโอกาสแก้ตัว เพราะถูกประหารชีวิต

หรือบางคนอาจจะทำบาปกรรมยิ่งกว่านั้น ส่วนเราโชคดี ที่มีโอกาส

ให้เวลาใส่ใจกับเรื่องนี้ 


พวกเราส่วนใหญ่ยังไม่แก่ ยังหนุ่มยังสาว มีกำลังวังชาที่จะทำ ที่จะศึกษาเรื่องนี้ ก็ขอให้ทุ่มเทกับวิชา

ชีวิต แต่ก็อย่าไปละเลยวิชาทางโลก เพราะยังมีประโยชน์ในการช่วยเสริมงานของเรา หรือการปฏิบัติ

ธรรมของเราได้ด้วย

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล

http://hilight.kapook.com/view/87626

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language