Dhamma together:เราทำอย่างไรจะรู้จักว่าสมควรแก่ความปรารถนาของเราแล้ว ทำให้อยู่ได้เป็นสุข

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...



การที่จะมีความสุขแท้จริงนั้น มิใช่อยู่ที่การปรารถนาแล้ว

ได้สมปรารถนาทุกอย่าง หาเป็นเช่นนั้นไม่ แต่อยู่ที่ว่า เราทำอย่างไร

จะรู้จักว่าสมควรแก่ความปรารถนาของเราแล้ว ทำให้อยู่ได้เป็นสุข

ทำจิตใจของเราให้เป็นสุขได้ อันนั้นก็จะทำให้ได้ความสุขที่แท้จริง

ความสุขแท้มิใช่อยู่ที่การสนองความปรารถนาเรื่อยไปที่ไม่จบสิ้น

อีกประการหนึ่งที่ง่ายๆก็คือ ให้มีความปรารถนาที่ชอบธรรม

เอาธรรมะมาเป็นเครื่องจำกัดความปรารถนา คือ มนุษย์ปรารถนา

สิ่งใหม่เข้ามาอยู่เรื่อยๆ ก็จะต้องรู้จักปฏิบัติให้ถูกต้องต่อเรื่อง

ความใหม่และความเก่า ความใหม่บางทีเราก็ไม่อาจจะได้เรื่อยไป

 

ยกตัวอย่างง่ายๆ ร่างกายของเรา เราไม่สามารถจะให้เป็นร่างกายที่ใหม่ได้ตลอดกาล เมื่อวันเวลา

ล่วงผ่าน มันก็เป็นไปตามธรรมชาติ ตอนแรกก็ต้องมีการเจริญเติบโตขึ้นไป เมื่อเติบโตขึ้นสู่วัยหนุ่มสาว

แล้ว ต่อจากนั้นก็ต้องมีความชราเข้ามาเบียดเบียนครอบงำ ร่างกายของเราก็เสื่อมโทรมลงไป ทีนี้ถ้าเรา

ปรับใจไม่ได้ เราต้องการแต่ความใหม่เรื่อยไป ก็เกิดอาการขัดแย้งกับความปรารถนา เพราะคนเราไม่อาจ

จะได้ใหม่เรื่อยไป แต่จะต้องเจอกับเก่าด้วย เพราะมีสิ่งที่จำเป็นจะต้องเก่า และสิ่งใหม่ที่มีก็ต้องกลายเป็น

เก่า นอกจากนั้นก็มีสิ่งเก่าที่เราจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะเราอยู่ในโลก โลกนี้เป็นเรื่องของสังขาร

สังขารนั้นมีหลักธรรมดาว่า ย่อมเป็นไปตามกฎของพระไตรลักษณ์ คือ มีความไม่เที่ยง เป็นทุกข์

เป็นอนัตตา ต้องเปลี่ยนแปลง มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ใหม่แล้วก็กลายเป็นเก่า เมื่อเราจำเป็นต้อง

ประสบพบกับสิ่งที่เก่า เราจะทำอย่างไร ความเก่า-ใหม่ที่แท้จริง อยู่ที่ไหน ความเก่าที่เป็นสภาวะตาม

ธรรมชาติของสังขารนี้ก็อย่างหนึ่ง แต่ความเก่าความใหม่ที่มีผลต่อจิตใจของเรานี้ อยู่ที่จิตใจของเรานี่เอง

แท้ๆ

พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต) (เรียบเรียงจากส่วนหนึ่งของหนังสือเรื่องกาลเวลา)

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language