Dhamma together:ปัญญาทางธรรม

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

" .. ปัญญา ก็มีหลัก คือ ความรู้ความเข้าใจในการเห็น

สิ่งทั้งปวงหมดเป็นธรรม รู้ผิดรู้ถูก รู้ดีรู้ชั่ว รู้สิ่งที่ควรหรือ

ไม่ควร แม้แต่ผู้จะทำทาน รักษาศีล ทำสมาธิ ก็ต้องมี

ปัญญาเสียก่อนจึงทำได้ ปัญญาทางธรรมมี ๒ อย่าง ..

อย่างแรกเป็น "ปัญญาสามัญในทางธรรม" เห็นโลกเป็น

ธรรม อย่างที่อธิบายมาแล้วว่า ความโลภ ความโกรธ

ความหลง เป็นของที่ให้โทษให้ทุกข์แก่จิตใจ ก็เป็น

ของดีเหมือนกัน ถ้าไม่มีโลภ โกรธ หลง ก็ไม่ได้ละโลภ

โกรธ หลง


ปัญญาอีกอย่างหนึ่ง เป็นปัญญาที่สูงดีเด่นขึ้นไปกว่านั้นอีก เรียกว่า "ปัญญาวิปัสสนา" คือ

เห็นสิ่งทั้งปวงหมดเป็น "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" สิ่งเหล่านั้นเป็นของไร้สาระ เป็นทุกข์โทษภัย

อันตรายแก่จิตใจ จึงปล่อยวางทอดธุระในสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น อันนี้เป็นปัญญาอันวิเศษสูงสุด

เพราะคนจะพ้นโลกได้เพราะเห็นที่สุดของโลก คือ ได้แก่เห็น "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" นั่นเอง

ไม่ใช่เห็นโดยคาดคะเนเอานะ ต้องเห็นแจ้งชัดด้วยใจของตนเอง สัมผัสด้วยใจของตนเองจริง ๆ

ถ้าคิดนึกเอา มันไม่ใช่วิปัสสนา "มันเป็นวิปัสสนึก" หมดความคิดนึกอันนั้นแล้วมันก็วกกลับคืนมา

เล่นงานเราอีก ถ้าเห็นแจ้งชัดด้วยใจของตนเองจริง ๆ ลงได้ถึง "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" แล้วละ

ได้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง พระพุทธศาสนารวมยอดเข้ามาแค่นี้แหละ .. "

"พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี" วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language