Dhamma together:"ชีวิตที่สงบเย็นและเป็นประโยชน์"

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

ถ้าเรามองว่าชีวิตคือผ้าขาว เราก็คงจะผิดหวังกับชีวิต

เพราะชีวิตมันไม่ใช่ผ้าขาว แต่หากมองว่าชีวิตคือสีดำ

มันก็จะทำให้เราหดหู่ เพราะในความเป็นจริงแล้ว

ชีวิตก็ไม่ใช่สีดำ ความหมายของชีวิตนั้นมันมีทั้งสีขาวและ

สีดำ ชีวิตมันมีทั้งบวกและลบ...ชีวิตมันมีทั้งสองด้าน

ไม่ว่าขาวหรือดำ เราก็ต้องยอมรับ นั่นล่ะคือความหมาย

ของความจริงที่มีทั้งสองด้าน

ถ้าเราเข้าใจตรงนี้ เราก็จะเข้าใจจุดมุ่งหมายของชีวิตว่าตัวเราจะต้องทำลายส่วนที่มืดดำให้มัน

ค่อยๆ หายไป หรือทำให้มันเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิตของเราให้น้อยลง เราต้องพยายามที่จะรู้ว่า

ความมืดดำในใจเรามีอิทธิพลมากแค่ไหน เราก็พยายามไม่ให้มันมีอิทธิพลไปในทางลบ

หรือเปลี่ยนให้เป็นไปในทางบวก หรือเปลี่ยนความมืดให้กลายมาเป็นความสว่างให้ได้

พุทธศาสนาบอกว่า ต้องอาศัยเมตตา ปัญญา และกรุณา เป็นพลังขับเคลื่อน 

ท่านพุทธทาสเรียกว่า

 

"สงบเย็นและเป็นประโยชน์"

 

สงบเย็นนั้นต้องอาศัยปัญญา เพราะถ้ามีปัญญาแล้ว เราจะทุกข์น้อยลง เมื่อเราพบกับความ

พลัดพรากสูญเสีย เราจะสงบได้ เพราะเรารู้ว่ามันเป็นธรรมดาของชีวิต เมื่อมีใครมานินทาเรา ด่าว่า

เรา เราก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีใครที่ไม่ถูกนินทา เราก็วางได้ ที่เราทุกข์นั้นเพราะเรามีอัตตา

ไปหลงยึดในอัตตา ทั้งๆ ที่อัตตาไม่มีจริง เมื่อเราเห็นว่าอัตตาไม่มีจริง มองตนจนไม่เห็นตน มันก็

เรียกว่าสงบเย็นอย่างแท้จริง เมื่อเป็นเช่นนั้น จิตใจจะเกิดกรุณาอย่างกว้างขวาง และจะเกิดความ

รักอย่างท่วมท้น จนสามารถที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นได้

พระไพศาล วิสาโล

#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 
 #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language