พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
ไม่ว่าประสบการณ์ในรูปใดๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรานั้น ถ้าเราเอามาคิด มันจะเป็นเครื่องเตือนจิตสะกิดใจ เป็นครูเป็นผู้สอนเราทีเดียวในภาษาพระท่านใช้คำว่า โยนิโสมนสิการ โยนิโสมนสิการนี้เป็นคำบาลีอยู่หน่อย จำยาก แต่ให้เจ้าใจว่า การคิดโดยแยบคาย หมายความว่า คิดโดยแยบคาย การคิดโดยแยบคายนั้นคือการคิดหาเหตุหาผล ของเรื่องนั้น หาคุณหาโทษของเรี่องนั้น หาประโยชน์และไม่มี ประโยชน์จากเรื่องนั้น ไม่ว่าเรื่องอะไรเมื่อมันเกิดขึ้นในใจของ เราแล้วเราอย่าปล่อยให้มันดับไปเฉยๆ แต่ให้เอาเรื่องนั้นมาร เป็นเครื่องเตือนจิตใจเป็นผู้ชี้ทางชีวิตของเราต่อไป |
การที่จะเอามาเป็นเครื่องเตือนใจ นั้นก็คือการคิดโดยแยบคาย เมื่อมันดับไปแล้วก็เอามาคิดใหม่
การคิดใหม่นั้นไม่ใช่คิดเพื่อให้เป็นทุกข์ แต่คิดเพื่อให้เกิดปัญญา การคิดอะไรเพื่อให้เกิดปัญญานั้น
แม้สิ่งนั้นจะเป็นอดีตล่วงไปแล้วก็ไม่เสียหายไม่เป็นโทษ แต่ว่าเรื่องใดที่มันล่วงไปแล้วเราเอามา
คิดด้วยอารมณ์ทุกข์นั้นไม่ได้ พระท่านไม่ให้คิดในรูปอย่างนั้น ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า
อตีตํ นานฺวาคเมยฺย อย่าคิดถึงสิ่งที่ล่วงมา หมายความว่า อย่าคิดถึงสิ่งที่ล่วงมาให้เป็นทุกข์
ถ้าคิดให้เป็นทุกข์แล้วมันเป็นบาปทางจิตใจเป็นเรื่องที่ไม่สมควร แต่เราเอาเรื่องที่ล่วงมาแล้วนั้น
มาคิด เพื่อให้เกิดปัญญา ให้เกิดความรู้แจ้งเห็นจริงในเรื่องนั้น เพื่อจะได้เป็นครูสอนใจต่อไป
การคิดในเรื่องเช่นนั้นไม่เสียหาย เป็นเรื่องที่ควรจะได้กระทำ เพราะการคิดในเรื่องอย่างนั้นเขา
เรียกว่า คิดด้วยปัญญา
ปัญญานนัทภิกขุ
#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา
#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก
#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น