พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
คนเรามักจะเห็นคุณค่าของสิ่งใด ส่วนใหญ่ก็ใน ๒ สถานการณ์คือ หนึ่ง ตอนที่ยังไม่ได้มา หรือ สอง ตอนที่เสียไปแล้ว อันนี้มันเป็นโศกนาฏกรรม ที่เกิดขึ้นกับผู้คนจำนวนมาก การที่คนเรามีสิ่งดีๆ แต่ว่าเราไม่เห็นคุณค่า เพราะว่าเรามองออกไปนอกตัว ไปเห็นแต่สิ่งที่ตัวเองไม่มี อยากจะได้มา |
คล้ายๆ กับเรื่องหมาคาบเนื้อในนิทานอีสป ตอนเด็กๆ เราคงจำได้
มีหมาตัวหนึ่งคาบเนื้อมา เนื้อชิ้นใหญ่เลย มันดีใจมากแล้วมันก็วิ่งไปยังที่ที่
มันจะได้กินเนื้ออย่างมีความสุข มีช่วงหนึ่งก็ต้องเดินข้ามสะพาน
มันก็ชะโงกหน้าไปมองที่ลำธารหรือลำคลอง
ก็เห็นเงาตัวเอง เงานั่นมันก็ใหญ่ แล้วมันก็พบว่าในเงานั้น
เนื้อในเงามันใหญ่กว่าเนื้อที่ตัวเองคาบ
มันอยากได้เนื้อก้อนนั้นมากเลย เพราะว่ามันเป็นก้อนที่ใหญ่กว่า
มันก็เลยอ้าปาก เพื่อที่จะไปงับเนื้อในเงานั้น
พอมันอ้าปาก ก็ปรากฏว่าเนื้อในปาก
ก็หลุดตกลงแม่น้ำ แล้วเนื้อในเงานั้นก็หายไป
เป็นอันว่าหมดเลย อดทั้ง 2 อย่าง
ฉะนั้น คนเราถ้าหากเรา กลับมาเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามีอยู่ เราจะมีความสุขได้ง่าย อาจจะไม่ใช่สิ่งของ อาจจะไม่ใช่ผู้คน แต่อาจจะเป็นสุขภาพของเรา อาจจะได้แก่ ลมหายใจของเรา ที่ยังหายใจได้ปกติ รวมถึงการที่ เรายังเดินเหินไปไหนมาไหนได้ การที่เรายังมองเห็น การที่เรายังได้ยิน |
หลายคนมีสิ่งนี้อยู่ในตัว แต่กลับไม่เห็นค่า และไม่รู้สึกว่าตัวเองโชคดี กลับไปมองว่า
ฉันยังไม่มีโน่นยังไม่มีนี่ ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีเงิน รู้สึกว่าทุกข์ระทมเหลือเกิน
ทำไมฉันจึงลำบากแบบนี้ ทั้งที่ตัวเองก็มีสิ่งดีๆ ในตัว สุขภาพ
ความปกติสุข อิสรภาพที่เดินไปไหนมาไหนได้ แต่กลับไม่เห็นค่า
เพราะว่ามัวแต่ไปสนใจสิ่งที่ตัวเองยังไม่มี ซึ่งเป็นอนาคต
ถ้าเราหันกลับมาเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามีอยู่
แล้วก็ไม่ไปพะวงหรือให้ความสนใจกับสิ่งที่ยังไม่มี
เราจะมีความสุขได้ง่าย อันนี้คือ ความหมายหนึ่งของการทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
…
การทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
#inndhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม
#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา
#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก
#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น