พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
จิตตภาวนา แปลว่า การทำจิตให้เจริญ ในขั้นแรกก็ทำอย่างที่เรียกว่า "สมถะ" แล้วต่อมาก็ทำ อย่างที่เรียกว่า "วิปัสสนา" ที่ทำอย่างสมถะนั้น ทำอย่างไร ? ก็คือทำให้มันแหละคมและมีกำลัง ระบบสมถะนั้นคือการทำจิตให้แหลมให้คมและมีกำลัง ครั้นแล้วก็ทำขั้นถัดไปคือ วิปัสสนา ก็ใช้จิตที่แหลมคมและมีกำลัง นั่นแหละ ทำลายความโง่ ความยึดมั่น ถือมั่น ว่าตัวว่าตน ทำจิตให้มีสมรรถภาพที่สุด |
แล้วใช้จิตชนิดนั้นทำลายความโง่ที่ ยึดถือว่าตัวว่าตน. ก็เลยแบ่งได้เป็นสองอย่างไม่เหมือนกัน
อันหนึ่งทำให้มีกำลัง หรือให้มี ความสว่างไสว นี่มันแล้วแต่จะพูดไปในแง่ไหน ถ้าทำให้มีกำลัง
มีความแหลม คม มันตัดความโง่ ถ้าทำจิตให้มันสว่างเหมือนกับรวมแสงของแก้วรวมแสง มันก็
เผาอวิชชา เผาความโง่ แม้ที่สุดแต่จะเปรียบเทียบ เหมือนกับว่าสมถะนี้เหมือนเป็นการเช็ดแว่นตา
ที่ฝ้ามัว ทำให้แว่นตามันใสกระจ่าง ครั้นเสร็จแล้วมันก็ดูด้วย แว่นตาที่ใสกระจ่างนั้น มันก็เห็นอะไร
ได้ตามต้องการ. ท่านจะเห็นได้เองว่ามันเนื่องกัน อันแรกทำจิตให้เตรียมพร้อมที่จะใช้งาน
อันที่สองก็ใช้จิตที่พร้อมแล้วนั้นทำงาน มีเท่านี้ มันมีเท่านี้
สมถะมีการเพ่งลงไปที่อารมณ์สำหรับรวมกำลังจิต วิปัสสนามีการเพ่งลงไปที่ความจริงของสิ่งที่ยึดถือ นี่มันต่างกันมาก ในขั้นสมถะหรือที่เรียกว่า สมถะนั้น จิตเพ่งลงไปที่สิ่งที่เป็นอารมณ์สำหรับรวมกำลังจิต ให้เป็นอันเดียว อารมณ์เดียว สิ่งเดียว ยอดเดียว พอถึงวิปัสสนามันเพ่งไปที่สัจจะหรือความจริงของสิ่งนั้น ๆ ที่ไปหลงยึดถือว่าตัวตน มันเพ่งคนละที่ อาการก็คนละอย่าง แม้จะเรียกว่าเพ่ง เพ่ง เหมือนกันนี้แต่มันเพ่งคนละที่, เพ่งกันคนละวิธี. เรื่องสมถะ เพ่งสมถะแล้วมันก็ได้ สมาธิ คือจิตที่รวมกำลังวิปัสสนา เพ่งแล้วมันก็ได้ความรู้ หรือได้ความจริง ได้ปัญญาที่รู้ความจริง พุทธทาสภิกขุ |
#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา
#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก
#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น