พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
'สัมปัตตวิรัติ' คือเรางดเว้นด้วยตนเอง ถ้าเรารู้ว่า ปาณา อทินนา กาเม มุสา สุรา ตลอดไปถึง อุโบสถศีล เมื่อเรารู้แล้ว เราก็ละเอง ไม่ต้องไป'สมาทานวิรัติ'กับใคร อันนี้เป็นศีลประการที่สอง ประการที่สามเป็น 'สมุจเฉทวิรัติ' เป็นศีลของพระอริยเจ้า สมุจเฉท ตัดขาดเลย เป็นผู้มีสติคุ้มครองอยู่เสมอ ดูแลอยู่ด้วยตนเองตลอดกาลตลอดเวลา ศีลมีทางที่จะเกิดขึ้นได้อย่างนี้ คือ สัมปัตตวิรัติ สมาทานวิรัติ สมุจเฉทวิรัติ |
ทั้ง ๓ ประการนี้ เป็นพื้นฐานของพระนิพพานทั้งนั้น
'สมาทานวิรัติ' ก็คือว่าตามพระไป
'สัมปัตตวิรัติ' คืองดเว้นด้วยตนเอง ไม่ต้องสมาทานกับใคร คือเรารู้แล้วว่าสัตว์นี่ไม่ควรฆ่า เราก็ไม่
ยอมฆ่ามัน ไม่เบียดเบียนมัน ไม่ต้องไปถามใครล่ะ รู้แล้วไม่ต้องทำ
'สมุจเฉทวิรัติ' ขึ้นชื่อว่าบาปแล้ว ฉันเลิกเลย เลิกตลอดชีวิตไปเลย ขึ้นชื่อว่ามันเป็นบาปเป็นกรรม
ทางกาย ทางวาจา ทางใจแล้ว ฉันเลิกแต่วันนี้เรียบร้อย นี่เรียกว่า สมุจเฉทวิรัติ ตัดขาดไปเลย ทีนี้
'สมาทานวิรัติ' ก็เป็นพื้นฐานของพระนิพพานได้
'สัมปัตตวิรัติ' ก็เป็นพื้นฐานของพระนิพพานได้
'สมุจเฉทวิรัติ' ก็เป็นพื้นฐานของพระนิพพานได้
พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
จากหนังสืออุปลมณี น.๔๔๔-๔๔๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น