พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
หลวงพ่อชาท่านเคยบอกว่า คนเราอยากจะได้แต่บวกกับคูณ เรื่องลบเรื่องหารไม่เอา ถ้าเป็นอย่างนี้ ท่านบอกว่าไม่มีทาง จบคณิตศาสตร์ มองชีวิตเป็นคณิตศาสตร์ก็มีบวก มีคูณ มีลบ มีหาร มันจึงจะครบวิชาของมัน เมื่อเรามองเรื่องในแง่บวก ก็เป็นทางหนึ่ง เป็นการมองในแง่ดี แต่บางอย่างถ้าเรามองใน แง่ไม่ดี ก็จะเป็นประโยชน์เหมือนกัน เช่นให้รู้จักมองสิ่งที่เรา หลงใหล สิ่งที่เราชอบมากๆ ในทางลบบ้าง ยิ่งถ้าหลงใหล มากๆ ก็ไม่ใช่แค่ลบ แต่ให้หารไปบ้าง ถ้ามันลงตัวที่ศูนย์ก็ยิ่งดี อะไรศูนย์ได้ก็เป็นศูนย์ไป | ชยสาโรภิกขุ |
คราวนี้ลองกลับมาดูพุทธศาสนา ในมุมมองของวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ง่ายๆกัน
อย่าไปซีเรียสนะครับ อยากย้ำว่า วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อย่างง่ายๆ ไม่ต้องใช้แคลคูลัส
exponential-logarithm หรือสถิติแต่ประการใด
สัมมาอาชีวะ + สัมมากัมมันตะ + สัมมาวาจา + สัมมาวายามะ + สัมมาสติ + สัมมาสมาธิ +
สัมมาสังกัปปะ + สัมมาทิฏฐิ = นิโรธ/นิพพาน
หากจะย่อสูตรลงอีกจะได้
ศีล + สมาธิ + ปัญญา = นิโรธ/นิพพาน
หากจะย่อสูตรลงอีกจะได้
ความไม่ยึดมั่นไม่ถือมั่น = นิโรธ/นิพพาน
ในทางตรงกันข้าม ลองมาดูสูตรอย่างง่ายๆกันดูครับ
โลภะ + โทสะ + โมหะ = ความทุกข์กายทุกข์ใจ
มาลองย่อสูตรดูนะครับ จะพบว่า
ความยึดมั่นถือมั่น = ความทุกข์กายทุกข์ใจ
เอาล่ะครับ ใครมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง แล้วผมจะเข้ามาเพิ่มเติมบางมุมที่ขาดหายไปและความ
ไม่สมบูรณ์ของสูตรทางคณิตศาสตร์กันนะครับ
http://larndham.org/index.php?/topic/31334-พุทธศาสนาในมุมมองวิทยาศาสตร์/
#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา#ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น