พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
มรรคมีองค์ ๘ นั้นมี "สัมมาทิฐิ" เป็นองค์ต้น หรือเป็นองค์นำ นำหน้า สัมมาทิฐิแก่กล้าหรือสูงขึ้นไปเท่าไร อริยมรรคทั้ง ๘ มีองค์ ๘ นั้นก็แก่กล้าสูงยิ่งขึ้นไปเท่านั้น ถ้าสัมมาทิฐินั้นเป็นไปสูงสุด ถึงกับมองเห็นตามที่เป็นจริงว่า โลกนี้ว่างเปล่าจากตัวตน และจากของตน จิตก็ไม่ยึดมั่นสิ่งใดๆ ในโลก ก็มีแต่จะน้อมไปสู่นิพพานเหนือโลก หรือสิ้นสุดแห่งโลก |
สัมมาทิฐินั้นเป็นปัญญา
เมื่ออบรมให้มากเข้าแล้วก็เห็นสิ่งทั้งหลายทั้งปวงตามที่เป็นจริงจนถึงที่สุดแล้วก็มองดูโลก
โลกนี้คือทุกโลก จะเป็นโลกกามาวจร หรือโลกรูปาวจร หรือโลกอรูปาวจร ก็เรียกว่าโลก
ในทุกๆ โลกนั้นไม่มีอะไรที่มีความหมายแห่งตัวตนหรือของๆตน
พูดตามธรรมดาสามัญก็ว่าไม่มีอะไรที่เป็นตัวตน เป็นของตน คือ เห็นโลกว่างเปล่าจากตัวตน
ว่างเปล่าจากของตน นี้เรียกว่าเห็นความว่างถึงที่สุด เมื่อจิตเห็นความว่างถึงที่สุดอย่างนี้แล้ว
จิตนั้นก็ไม่จับฉวยอะไร #จิตที่ไม่จับฉวยอะไรนั้นก็คือจิตว่าง
เมื่อไม่จับฉวยอะไรถึงที่สุดแล้ว มันก็มีความว่าง มันจึงมีการน้อมไปสู่พระนิพพาน
อันเป็นความว่างถึงที่สุด ดังที่มีคำกล่าวว่า “นิพพานัง ปรมัง สุญญัง”
นิพพานเป็นความว่างถึงที่สุดอย่างนี้ ขอให้เข้าใจใจความสำคัญที่ว่า
เมื่อมันไม่เห็นว่ามีอะไรที่เป็นตัวเป็นตนที่จะยึดถือเอาได้ แล้วมันจะไปทางไหน
มันก็น้อมไปเพื่อความว่างถึงที่สุดคือ พระนิพพาน...
เราต้องใช้โวหารธรรมดามาพูดกัน จึงฟังดูคล้ายๆ กับว่านิพพานเป็นถิ่น หรือเป็นแดน
หรือเป็นบ้าน หรือเป็นเมืองอะไรอันหนึ่ง ซึ่งจะต้องเดินไปให้ถึง
ดังที่ท่านได้กล่าวเป็นโลกียโวหารว่า อมตมหานคร นิพพานนั้นเป็นมหานครแห่งความไม่ตาย
เป็นนครสูงสุดซึ่งมีความไม่ตาย นี่พูดเป็นโลกียโวหารโดยภาษาคน
ให้มันเป็นบ้านเป็นเมือง ชวนให้สนใจ ชวนให้อยากได้ ชวนให้ปรารถนา
แต่ทว่าโดยที่แท้แล้ว มันกลายเป็นความว่างถึงที่สุดที่จิตไม่ได้จับฉวยในสิ่งใด
แล้วก็ลุถึงความว่างชนิดนั้นได้
พุทธทาสภิกขุ ที่มา ธรรมเทศนา อาสาฬหบูชา ปี พ.ศ. ๒๕๒๒
#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน
#อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
#จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก
#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น