Dhamma together:อิฎฐารมณ์ อนิฎฐารมณ์

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...




"จะพอใจติดอยู่ในโลกธรรมเท่านี้หรือ"

ยศถาบรรดาศักดิ์ ความสรรเสริญเยินยอ ความนินทา

ภายนอกหมู่นั้นน่ะมันเป็นเพียงแต่ธรรมประจำโลก ท่านจึง

เรียกว่าโลกธรรม ธรรมอันนี้มันหากมีมาแต่ดึกดำบรรพ์

พระพุทธเจ้าแสดงไว้ เป็นธรรมของเก่า

บุคคลเกิดมาในโลกนี้จะมาหวั่นไหวอยู่ด้วยความมีลาภมียศ

สรรเสริญ ความสุขกายสบายใจ ถ้าได้ประสบอย่างนี้เรียกว่า

ได้ประสบอิฎฐารมณ์ อารมณ์ที่น่าชอบใจ ดีอกดีใจว่าตนนั้น

ได้ในสิ่งที่ต้องการปรารถนา ได้ลาภได้ยศได้คำสรรเสริญ

เยินยอจากผู้อื่นมากมาย

แล้วก็โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่ค่อยเบียดเบียนร่างกาย มีความสุขใจอยู่ ติดอยู่ในความสุขอันนี้

ท่านก็เรียกว่าติดอยู่ในโลกธรรม ติดอยู่ในธรรมประจำโลก จิตใจก็หนีจากโลกนี้ไปไม่ได้

ก็ต้องวนเวียนเกิดแก่เจ็บตายอยู่ในโลกอันนี้

ถ้าไปยึดถือเอาความเสื่อมลาภเสื่อมยศ ถูกนินทาว่าร้าย ถูกความทุกข์ครอบงำกายใจก็ไป

เสียอกเสียใจระทมทุกข์ทางจิตใจ เช่นนี้ก็เรียกว่า ยึดเอาอนิฎฐารมณ์ อารมณ์อันเป็นที่ไม่น่า

พอใจต่างๆในโลกนี้ มันก็เป็นเครื่องผูกมัดจิตใจให้ติดอยู่ในโลกนี้เช่นเดียวกัน ให้พึงพากัน

ศึกษาให้เข้าใจ เราจะพอใจติดอยู่แต่ในโลกธรรมเท่านี้เหรอ หรือว่าเห็นโทษของโลกธรรม

เหล่านี้ มันก็เป็นหน้าที่ของเราแต่ละคนจะต้องพิจารณาให้เห็นด้วยตนเอง ถ้าไม่เห็นด้วย

ตนเองแล้วก็มันก็ละมันไม่ได้

"หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ"

วัดอรัญญบรรพต

อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ "โลกธรรมแปด ปี ๒๕๓๕"

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่านนะจ๊ะ #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language