พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
เราไม่อาจควบคุมหรือบงการให้มีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้น กับเรา แม้ระมัดระวังหรือทำดีที่สุดแล้ว ก็ยังมีเหตุร้าย หรือสิ่งไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับเราอยู่นั่นเอง แต่มี สิ่งหนึ่งที่เราทำได้ก็คือ ดูแลรักษาใจให้เข้มแข็งมั่นคง รวมทั้งขยายใจของเราให้ใหญ่ขึ้น ประหนึ่งแม่น้ำที่ สามารถละลายน้ำพริกหรือพิษทั้งหลายให้เจือจางลง ใจของเรานั้นสามารถขยายใหญ่ขึ้นได้หากไม่ถูกรัดรึง ด้วยความเห็นแก่ตัวหรือความยึดติดในตัวตน คนที่ คิดถึงแต่ตนเอง จิตใจจะคับแคบ และมีความสุขได้ยาก |
เมื่อนึกถึงผู้อื่นอยู่เสมอ จิตใจจึงจะขยายใหญ่ และมีความสุขได้ง่ายขึ้น เพราะเห็นความทุกข์
ของตนเองเป็นเรื่องเล็กลง ยิ่งให้ก็ยิ่งมีความสุข ทำให้เห็นชัดว่า ความสุขมิได้เกิดจากการมี
การเสพเท่านั้น ที่ประเสริฐและยั่งยืนกว่านั้นคือความสุขที่เกิดจากการให้และการเกื้อกูลผู้อื่น
นอกจากการขยายใจให้ใหญ่ขึ้นด้วยเมตตากรุณาแล้ว ความสุขอันประเสริฐยังเกิดได้จากการ
ฝึกจิตให้รู้จักนิ่งและปล่อยวาง ไม่วิ่งพล่านหาความทุกข์มาใส่ตัว และไม่เก็บอารมณ์อกุศลมา
ทำร้ายจิตใจ จะทำเช่นนั้นได้ต้องอาศัยสติคือความระลึกรู้ เพื่อปลดปล่อยใจจากความคิดและ
อารมณ์อกุศลทั้งหลาย สติยังช่วยให้เห็นความจริงของกายและใจ อันเป็นขั้นตอนสำคัญสู่
การเกิดปัญญา จนเห็นว่าแท้จริงแล้วตัวกูของกูนั้นเป็นมายาภาพที่จิตปรุงแต่งขึ้นเอง ผลที่
ตามมาคือการคลายความยึดมั่นในตัวกูของกู จนหมดสิ้นซึ่งความเห็นแก่ตัว ถึงตอนนั้นจิตก็จะ
แผ่กว้างอย่างไร้ขอบเขตราวท้องฟ้า เพราะไม่มีสิ่งรัดรึงอีกต่อไป เป็นภาวะที่สุขและสงบเย็น
อย่างแท้จริง หนังสือเล่มเล็กนี้ประกอบด้วยคำบรรยายสองบทหลังทำวัตรเย็นที่วัดป่าสุคะโต
คุณหมออัจฉรา กลิ่นสุวรรณ์แห่งชมรมกัลยาณธรรมเห็นว่ามีประโยชน์ จึงขอนำไปพิมพ์เผย
แพร่เป็นธรรมทาน ข้าพเจ้ายินดีอนุญาต และขออนุโมทนาในกุศลจริยาของชมรมกัลยาณ
ธรรม ซึ่งทำงานเผยแผ่ธรรมอย่างจริงจังตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะมี
ส่วนช่วยผู้อ่านในการเสริมสร้างคุณภาพจิตเพื่อการเข้าถึงความจริงและความสุขที่ประเสริฐยิ่ง
น้ำพริกไม่ว่าเผ็ดร้อนเพียงใด หากเทลงแม่น้ำก็จะจืดจางลงอย่างรวดเร็วฉันใด
ความทุกข์ไม่ว่ารุนแรงแค่ไหน หากสัมผัสกับใจที่กว้างใหญ่ ก็ย่อมเบาบางลงฉันนั้น
พระไพศาล วิสาโล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น