พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
วิปัสสนากรรมฐานคืออะไร บอกเขาง่ายๆนะ คือการที่เราคอยตามเห็นกายเห็นใจตามความ เป็นจริง นี่แหละ คือวิปัสสนากรรมฐาน ตามรู้ตามเห็นมันไปเรื่อย รู้กายตามความเป็นจริง รู้ใจตามความเป็นจริง รู้อย่างนี้แหละเรียกว่าเรา เจริญวิปัสสนาอยู่ ถ้าไปรู้อย่างอื่นไม่เรียกว่าวิปัสสนา เช่น รู้ความนิ่ง ความว่างความสว่าง ดวงกสิณต่างๆ ดวงแก้ว ดวงเทียน ไฟ พระพุทธรูป หรือนิมิต หมายใดๆทั้งสิ้น อันนั้นไม่ใช่วิปัสสนา |
วิปัสสนาต้องรู้กายรู้ใจ เพื่ออะไร เพื่อวันหนึ่งจะได้เห็นความจริงของกายของใจ ว่ากายนี้ใจนี้
ไม่เที่ยงเป็นทุกเป็นอนัตตาไม่มีตัวเราในกายในใจนี้ กายก็ไม่ใช่เรา ใจก็ไม่ใช่เรา ดูเท่านี้ยังไม่พอ
ดูไปอีก ดูกายดูใจตามความเป็นจริงเรื่อยไป จนวันหนึ่งแจ้งนะ กายนี้ใจนี้เป็นทุกข์ล้วนๆ พอเห็นว่า
กายนี้ใจนี้เป็นทุกข์ล้วนๆ จิตมันจะสลัดคืนกายคืนใจให้โลก ไม่ยึดถือ เห็นตามความเป็นจริง
จึงเบื่อหน่ายคลายกำหนัดแล้วหลุดผล คำว่าหลุดพ้นๆ เราได้ยินบ่อยๆ อะไรมันหลุดจากอะไร
จิตมันหลุดจากความยึดถือในขันธ์ ขันธ์คือกายกับใจเรานี่เอง พูดง่ายๆ ถ้ามันไม่ยึดกายยึดใจ
มันก็ไม่ทุกข์อีกแล้ว ทุกวันนี้มีความทุกข์เพราะมีกายมีใจ ทุกข์มันอยู่ที่กายทุกข์ยู่ที่ใจ รู้สึกไหม
ทุกข์ไม่ได้อยู่ที่โต๊ะ ที่เก้าอี้ ที่ภูเขา ที่ต้นไม้ ทุกข์มันอยู่ที่กายอยู่ที่ใจ ถ้าจิตมันพ้นจากกายจาก
ใจแล้ว จิตก็พ้นจากทุกข์ ตัวนี้เรียกว่าความหลุดพ้น ไม่ใช่พ้นจากอย่างอื่นนะ พ้นจากขันธ์5
พ้นจากกายจากใจ เห็นไหมง่าย
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช
#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา #ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น