พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
"การให้ธรรมทาน แม้ จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญ น้อยกว่า การให้ " อภัยทาน " แม้จะให้แต่เพียง ครั้งเดียว ก็ตาม การให้อภัยทานก็คือ"การไม่ผูกโกรธ ไม่อาฆาตจองเวร ไม่พยาบาทคิดร้าย ผู้อื่นแม้แต่ศัตรู " ซึ่งได้บุญกุศลแรง และสูงมากในฝ่ายทาน เพราะเป็นการ บำเพ็ญเพียรเพื่อ " ละโทสะกิเลส " และเป็นการเจริญ "เมตตาพรหมวิหารธรรม" อันเป็นพรหมวิหาร ข้อหนึ่งในพรหม วิหาร ๔ ให้เกิดขึ้น อันพรหมวิหาร ๔ นั้น เป็นคุณธรรมที่เป็น องค์ธรรมของ โยคีบุคคลที่บำเพ็ญ ฌานและวิปัสสนา |
" การให้ธรรมทาน แม้ จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การให้ " อภัยทาน " แม้จะให้แต่เพียง
ครั้งเดียวก็ตาม การให้อภัยทานก็คือ
"การไม่ผูกโกรธ ไม่อาฆาตจองเวร ไม่พยาบาทคิดร้าย ผู้อื่นแม้แต่ศัตรู "
ซึ่งได้บุญกุศลแรง และสูงมากในฝ่ายทาน เพราะเป็นการ บำเพ็ญเพียรเพื่อ " ละโทสะกิเลส "
และเป็นการเจริญ "เมตตาพรหมวิหารธรรม" อันเป็นพรหมวิหาร ข้อหนึ่งในพรหม วิหาร ๔ ให้เกิดขึ้น
อันพรหมวิหาร ๔ นั้น เป็นคุณธรรมที่เป็น องค์ธรรมของ โยคีบุคคลที่บำเพ็ญ ฌานและวิปัสสนา
ผู้ที่ทรงพรหมวิหาร ๔ ได้ย่อมเป็นผู้ทรงฌาน ซึ่งเมื่อเมตตา พรหมวิหารธรรม ได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อใด
ก็ย่อมละเสียได้ซึ่ง " พยาบาท " ผู้นั้นจึงจะสามารถ ให้อภัยทานได้
การให้อภัยทานจึงเป็น เรื่องที่ละเอียดอ่อนและยากเย็น จึงจัดเป็นทานที่สูง กว่าการให้ทานทั้งปวง "
พระโอวาทธรรม สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา
#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี
#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น