Dhamma together:เวลาที่เราไม่มีอะไรเป็นของเราเลย นั่นแหละเป็นเวลาที่เรามีความสุขที่สุด

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

 เวลาที่เราไม่มีอะไรเป็นของเราเลย

นั่นแหละเป็นเวลาที่เรามีความสุขที่สุด

ขอให้ท่านทั้งหลายจดจำคำนี้ไปคิดไปนึก อาตมาท้าทาย

คำพูดประโยคนี้ ว่าเป็นคำพูดที่ขอยืนยันอย่างยิ่ง และ

เป็นใจความของธรรมะทั้งหมด สรุปอยู่ในคำคำนี้ คือ

ในขณะที่ไม่มีอะไรเป็นตัวเราหรือเป็นของเรา ขณะนั้นจะ

ว่างจากความทุกข์โดยประการทั้งปวง ยิ่งไม่มีอะไรเป็นของ

เราเลยก็ไม่มีความทุกข์เลย แต่พอกลับไปถึงที่ที่ทำให้รู้สึก

ว่ามีอะไรเป็นของเรา มันก็กลับเป็นความทุกข์ใหม่

มันแตกต่างกับจิตของพระอรหันต์เพียงเท่านี้. เพราะว่าจิตของพระอรหันต์นั้น ไม่มีอะไรเป็นของ

เราเด็ดขาดลงไป ส่วนจิตของท่านทั้งหลาย ไม่มีอะไรเป็นของเราเพียงชั่วครู่ชั่วยาม แต่ถึงอย่างนั้น

ก็เป็นเวลาที่มีความสุขที่สุด มีความสุขเช่นเดียวกับที่พระอรหันต์ท่านได้รับ ในขณะที่ไม่มีอะไรเป็น

ของเรา  ฉะนั้น จงศึกษาสิ่งนี้ จงทำความเข้าใจสิ่งนี้ ให้เข้าใจยิ่ง ๆ ขึ้นไป ก็จะก้าวหน้าไปในทาง

ธรรมะเอง โดยไม่ต้องศึกษาเล่าเรียนอย่างอื่นก็ยังได้. ขอให้ศึกษาจิตใจของตัวโดยเฉพาะ ไม่ต้อง

เรียนจากหนังสือก็ได้, ให้รู้ความที่มันมีความจริงอยู่อย่างหนึ่งว่า

เมื่อรู้สึกว่าเป็นตัวเราเป็นของเราขึ้นมาเมื่อไร ก็มีความหนักอกหนักใจเมื่อนั้น, ถ้าเป็นอย่างมากก็

เป็นความทุกข์; ถ้าไม่มีความคิดนึกยึดถือไปในทางเป็นตัวเราของเราเมื่อไร ก็ไม่มีความทุกข์เลย”

ธรรมะช่วยเราที่ตรงนี้เอง ช่วยให้เราสามารถเป็นอยู่ และประกอบการงานได้ โดยไม่ต้องมี

ความรู้สึกว่าเป็นตัวเราหรือของเรา คือไม่ต้องมีความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวเราหรือของเรา เราก็มี

ชีวิตอยู่ได้ ประกอบการงานต่าง ๆ ได้ ทำประโยชน์ผู้อื่นได้ คล้ายๆ กับว่า เกิดมานี้เพื่อมีความสงบ

สุขแต่อย่างเดียว ไม่มีความทุกข์เลย

พุทธทาสภิกขุ

#inndhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language