INDHAMMA:กฎแห่งกรรมคือกฎแห่งธรรมชาติ ย่อมทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

     

 "ทำดีทำไมไม่ได้ดี"

"กฎแห่งกรรม"นี้เป็นสิ่งที่ละเอียดมาก ก็เปรียบเสมือนหนึ่ง

ธรรมชาติของการเติบโตของผลไม้ตามฤดูกาล กรรมที่ท่าน

สร้างในอดีตภพ ย่อมนำมาสู่ท่านในปัจจุบันภพ ฉันใดก็ฉันนั้น

ทีนี้กรรมเหล่านั้น ที่ท่านทำไปแล้วแต่ท่านลืมไปเพราะอะไรเล่า

เพราะว่ามนุษย์ที่ยึดว่า ทำไมทำดีจึงไม่ได้ดี เพราะมนุษย์ผู้นั้น

ไม่โปร่งในขั้นสมุฏฐาน ของเหตุและปัจจัย ถ้าท่านหว่านพืชชนิด

ใดลงดิน พืชชนิดนั้น จะขึ้นตามเหล่ากอของพืชพันธุ์นั้น กรรมใด

ที่ท่านสร้างมาในภพ ที่ท่านลืมไปแล้ว แต่กรรมนั้นยังตามเสวย

ตามภพชาติต่างๆ อยู่

ยกตัวอย่าง ซึ่งเปรียบง่ายๆ

สมมติว่าเมื่อสองปีก่อนท่านได้ฆ่าคนตายในที่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แล้วท่านหนีไปอยู่ที่หนองคาย

(เปรียบเหมือนท่านฆ่าคนตายในภพก่อนแล้วมาเกิดใหม่ในภพนี้) เรียกว่าท่านเกิดภพนี้ทั้งที่เป็นคนเดิม

คือจิตวิญญาณเดิมจากภพก่อน แต่มาอยู่ภพนี้หรือเมืองนี้ ในขณะที่ท่านหนีจากกรุงเทพฯ (ภพก่อน)

ไปอยู่หนองคาย (ภพนี้) เกิดสำนึกผิดขึ้นมา จึงถือศีลทำบุญให้ทาน เป็นมิตรกับชาวบ้านที่หนองคาย

ชาวบ้านที่หนองคายก็ยกย่องสรรเสริญว่าท่านเป็นคนดีมีศีลธรรมน่าเคารพนับถือ 

แต่กรรมที่ท่านสร้างไว้คือฆ่าคนตายที่กรุงเทพฯ เมื่อสองปีก่อนนั้น 

ชาวบ้านที่หนองคายไม่รู้กับท่านด้วย และตำรวจ (กรรม) นั้นก็กำลังตามหาท่านอยู่ 

เปรียบเสมือนการตามของภพของกรรมไปถึงที่นั่น แม้ว่าท่านกำลังถือศีลถืออุโบสถอยู่ในโบสถ์ 

หรือแม้ว่าบางคนมาบวชเป็นพระเพื่อหนีคุกหนีตารางก็ตามที เมื่อตำรวจสืบพบเจอ

ตัวท่าน แม้จะอยู่ที่วัดถือศีลหรือบวชเป็นพระอยู่ ตำรวจก็จับท่านทันทีเพื่อไปลงโทษตามกฎหมาย

บ้านเมือง คนที่หนองคายแถวที่ท่านอยู่ย่อมไม่พอใจ หรือด่าทอตำรวจที่มาจับคนดีที่ถือศีลในอุโบสถอยู่

ก็เหมือนกรรมที่ไม่ดีที่ตามมาทันท่านตอนที่ท่านกำลังทำดี ทำให้ท่านคิดว่าทำไมทำดีแล้วจึงไม่ได้ดี

กลับพบเจอและได้รับแต่สิ่งที่ไม่ดี ท่านอาจลืมกรรมที่ท่านทำไว้ในภพชาติก่อนแล้ว เพราะมันผ่านมา

นานแล้ว ข้ามภพข้ามชาติมาจนจำไม่ได้ว่าทำกรรมไม่ดีอะไรไปบ้าง จึงทำให้คิดว่าภพนี้ชาตินี้ทำแต่

ความดี แล้วทำไมไม่ได้ดี คล้ายกันกับคนทำชั่วหรือทำไม่ดีในปัจจุบัน แต่กลับได้ดิบได้ดี 

เพราะภพชาติก่อนเขาเคยทำดีไว้ แล้วกรรมดีนี้ตามมาทันและส่งผลให้เขาได้ดิบได้ดี 

แม้ในขณะปัจจุบันเขากำลังทำกรรมไม่ดีอยู่ก็ตามที 

เพราะเป็นกรรมคนละส่วนกับกรรมเก่าที่เขาทำดีในภพชาติก่อน ส่วนกรรมใหม่

ที่เขาทำไม่ดีในขณะนี้ยังไม่ส่งผล ต้องรอให้ผลในกาลต่อไป เปรียบเหมือนเราเพิ่งปลูกข้าวดำนาเสร็จ

จะให้กล้าในนาออกดอกออกรวงข้าวในวันนี้หรือพรุ่งนี้เลยย่อมเป็นไม่ได้ 

จะต้องรอเดือนรอเวลาจนกว่าต้นกล้าจะครบกำหนดที่จะออกรวงให้ผลิตผลเป็นเมล็ดข้าว 

จึงจะเก็บเกี่ยวได้ ฉันใดก็ฉันนั้น

กฎแห่งกรรมก็เช่นเดียวกันกับกฎธรรมชาติ เปรียบได้กับ การปลูกพืชปลูกต้นไม้ชนิดต่างกัน 

ย่อมต้องจะรอการออกดอกออกผลเป็นเวลาไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นไปตามพันธุกรรมของพืชชนิดนั้นๆ 

ที่จะใช้เวลาไม่เท่ากันนาน เป็นเดือนหรือนานเป็นปีจึงจะให้ผล เช่น ปลูกพริกย่อมให้ผลิตผลเร็วกว่า

ปลูกมะม่วง ปลูกข้าวย่อมให้ผลเร็วกว่าปลูกมะพร้าว เป็นต้น 

เช่นเดียวกันกับผลของกรรมแต่ละชนิด กรรมหนักกรรมเบา มีเจตนาหรือไม่เจตนา เป็นต้น 

จึงให้ผลกรรมหนักเบาต่างกันต่างเวลาตามเหตุปัจจัย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งละเอียด

กฎแห่งกรรมคือกฎแห่งธรรมชาติ ย่อมทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ท่านสร้างกรรมดีไว้ในปัจจุบันนี้

กรรมนั้นอาจจะให้ท่านเสวยผลในภพอีกภพหนึ่งก็ได้ เพราะว่ามันเป็นกงล้อแห่งกงกรรมกงเกวียนที่จะ

แยกแยะออกมา ชาติไหน ชาติอะไร ชาติโน้น ชาตินี้ เป็นสิ่งยาก เพราะว่ามนุษย์เราแต่ละคน

ที่เกิดมาในปัจจุบันชาตินี้ เกิดมาเป็นร้อยๆ พันๆ ภพชาติเป็นกงกรรมกงเวียนที่ทับถมทั้งดีและชั่ว 

โดยเจ้าตัวก็แยกแยะไม่ออก ยกตัวอย่างง่ายๆ เสมือนหนึ่งท่านคิดตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น 

พอตกเย็นท่านมานั่งทบทวน ท่านก็แยกแยะทบทวนไม่ค่อยออกว่าเวลาไหนท่านมีอกุศลอารมณ์ 

เวลาไหนมีโทสจริต เวลาไหนมีเมตตาจิต เพราะว่าการเคลื่อนไหวแห่งจิตวิญญาณนี้เร็วยิ่งกว่าอณู

ปรมาณูทั้งหลาย เร็วยิ่งกว่าปรอท

เพราะฉะนั้นจึงแยกได้ว่า ท่านสร้างกรรมใดไว้ ท่านย่อมจะต้องเสวยกรรมนั้นในภพชาติแน่นอน

คติธรรมคำสอน....ท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี )

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี

 #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language