INDHAMMA:เรื่องที่ไม่ควรลืม

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ความลืมตัวเป็นความขาดสติ

อันความลืมที่สำคัญมาก คือ ความลืมตัว

เพราะเมื่อลืมตัวไปเสียอย่างเดียวก็ชื่อว่า

ลืมข้ออื่นๆ ไปด้วยอีกมากมาย

และเพราะลืมตัว

จึงทำให้สำคัญตนผิดเป็นต้น ดังได้กล่าวมาแล้ว

ความลืมตัวเป็นความขาดสติ ที่จะระลึกได้ว่า

ตนเป็นอะไรอย่างไรตามที่เป็นอยู่

"๑๐๑ ญาณทรรศน์"

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร 

INDHAMMA: ดีท็อกซ์จิตใจเพื่อให้สารพิษหรือว่าสิ่งที่เป็นพิษในจิตใจ ออกไป

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

คนเดี๋ยวนี้มีความเครียดสะสม มีความผิดหวังสะสม มีความเศร้าสะสม ก็เพราะว่า การที่ไม่มีสติครองใจ 

ไม่มีความรู้สึกตัวมาครองใจ แต่เมื่อไรที่เราเริ่มมีความรู้สึกตัวขึ้นมาในแต่ละขณะๆ 

ทำอะไรด้วยความรู้เนื้อรู้ตัว ทำอะไรอย่างมีสติ มีใจใส่ลงไปในสิ่งนั้น 

มันก็เหมือนกับว่าค่อยๆไถ่ถอนความรู้สึกเครียด ความผิดหวัง ความโกรธ 

หรือความทุกข์เหล่านี้ไปทีละน้อยๆ นอกจากจะปิดกั้นไม่ให้เข้ามาสะสมมากขึ้นแล้ว 

ยังช่วยระบายถ่ายเทออกไปทีละน้อย ๆ คล้ายๆการดีท็อกซ์ 

เรานิยมดีท็อกซ์กันเพื่อเอาของเสียในร่างกายออกไป 

จากที่มันสะสมตามอวัยวะต่างๆ 

เรานิยมดีท็อกซ์เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพดี 

แต่เราลืมดีท็อกซ์จิตใจเพื่อให้สารพิษหรือว่าสิ่งที่เป็นพิษในจิตใจ

ออกไป แต่ถ้าเรามีสติมีความรู้สึกตัว มันจะค่อยๆช่วยไถ่ถอนสิ่งต่างๆ

เหล่านี้ออกไป มันทำให้จิตใจของเราผ่องใส

หรือว่าเป็นปกติสุขมากขึ้น มีพิษมีภัยน้อยลง 

นอกจากไม่สะสมมากขึ้นแล้ว มันยังช่วยไถ่ถอนถ่ายเทออกไป 

เพราะเราเห็น เห็นความคิดที่มันเข้ามาเล่นงานจิตใจ พอเห็นปุ๊บ ความคิดอารมณ์เหล่านั้นก็ชะงัก 

แล้วมันก็ละลายหายไป  ตอนหลังก็จะเห็นของเก่าที่สะสมที่เกิดจากการคิดเป็นนิสัย 

เกิดจากการยึดติดถือมั่นเป็นนิสัย พอเห็นบ่อยๆก็วางได้ง่าย วางได้เร็วไถ่ถอนออกไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ 

จนกระทั่งจิตใจผ่องใสเบิกบาน อันนี้เพราะเรามีความรู้สึกตัว มีสติเป็นเครื่องรักษาใจเอาไว้ 

ถ้าเราไม่ลืมกายไม่ลืมใจ ความทุกข์สะสมมันก็จะค่อยๆลดน้อยถอยลง และมันเป็นวิธีที่ช่วยรักษาตัวได้ดี

ไม่น้อยกว่าการที่เรารักษาสุขภาพ ด้วยการกินอาหาร ด้วยการออกกำลังกาย 

การรักษากายสำคัญแต่ก็อย่าลืมรักษาใจให้มีสติครองใจ มีความรู้สึกตัวในสิ่งที่ทำอยู่เสมอ - 

พระไพศาล วิสาโล

https://pagoda.or.th/aj-visalo/2021-06-30-08-09-51.html

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม



INDHAMMA:ปฏิรูปการศึกษาธรรมะ กันเสียที

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

การมาวัดนั้น ไม่ใช่เรื่องของคนแก่คนชรา 

แต่เป็นเรื่องของคนที่ต้องการความสงบทางใจ 

ต้องการ ความมั่นคงทางด้านจิตใจ ไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยไหน 

เราก็ต้องการสิ่งนี้ด้วยกันทั้งนั้น แต่ว่าการกระทำนั้น 

มักจะเป็นไปในรูปอย่างนั้น จึงใคร่ขอแนะนำว่า 

เรามาปฏิรูปกันเสียที แทนที่จะเป็นคนแก่เข้าวัดศึกษาธรรมะ 

เราควรที่จะเอาคนที่อยู่ ในวัยหนุ่ม วัยฉกรรจ์ วัยกลางคน 

เข้าวัดกันเสียมั่ง เพราะว่าคนที่อยู่ในวัยหนุ่มวัยฉกรรจ์นี่แหละ 

จะเป็นกำลังสำคัญ ของสังคมไทยในการต่อไป 

ถ้าจิตใจของเขาไม่มั่นคง ขาดกำลังเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง การปฏิบัติกิจในหน้าที่ จะเอาดีได้อย่างไร 

อันนี้ เป็นเรื่องคน มีความเกี่ยวข้องกับการงานต่างๆ มีความเกี่ยวข้องกับคนมากๆ 

ย่อมจะมองเห็นด้วยตัวเอง ว่าคนที่ปฏิบัติงานอยู่ ในหน้าที่ประจำนั้น ยังมีการขาดอะไรบางสิ่ง บางประการ 

ที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด จึงได้เกิดเป็นปัญหา มีความวุ่นวายด้วยอาการต่างๆ นั่นแหละคือการขาดธรรมะ 

ไม่ได้สนใจ ที่จะมารับฟัง สิ่งที่เป็นประโยชน์ เราจึงควรจะได้เปลี่ยนแปลง นำคนที่ควรนำเข้ามาวัด 

คล้ายๆ กับคนป่วย ที่เราควรนำมารักษา ถ้าคนไม่เจ็บไม่ป่วย ไม่ร้องรักษาก็ไม่เป็นไร เพราะว่าคนป่วยนั้น 

อาการมันหนัก เราก็ต้องให้หยูกให้ยารักษากันไปตามเรี่อง คนป่วยทางกาย ยังต้องรีบพาไปโรงพยาบาล 

อันนี้นับว่าเป็นความผิดพลาดในชีวิตประจำวัน จึงใคร่แนะนำว่า ถ้าเรามีคนอยู่ในปกครองของเรา เช่น 

ลูก หลาน ถ้าเห็นว่า มันมีอาการผิดปกติทางจิตใจ มีความคิดไม่ค่อยถูกทาง เราก็ควรแนะนำเขามาหา

พระสงฆ์องค์เจ้า เพื่อช่วยแนะนำแนวทางชีวิตแก่เขา ให้เขาได้รู้ว่า อะไรเป็นอะไร ถูกต้องตามเรื่องที่ควรจะรู้ 

ควรจะเข้าใจ นี้เป็นเรื่องที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกัน ในสังคมยุคปัจจุบัน ถ้าเราไม่ทำอย่างนั้น กว่าเด็กเหล่านั้น

จะเป็นคนแก่ ก็คงจะสร้างความรำคาญ ให้แก่เพื่อนมนุษย์มากมายก่ายกองทีเดียว แต่ถ้าเรารีบเอาไปรักษา 

ชี้แนะแนวทางให้เขาเข้าใจ เขาก็จะเปลี่ยนเข็มชีวิตได้ 

ปัญญานันทภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:ทำไมการให้ทานจึงนับว่าเป็นบุญ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

บุญเกิดด้วย ทาน๑ ศีล๑ และ ภาวนา๑ 

ทำไมการให้ทานจึงนับว่าเป็นบุญ 

ก็เพราะว่าการให้ทานมุ่งที่จะลดและขจัดความตระหนี่

พระพุทธองค์ให้ความสำคัญ

กับการจัดการกับความตระหนี่มาก 

ในโอกาสหนึ่งพระพุทธองค์ตรัส

จิตที่ยังมีความตระหนี่ครอบงำอยู่ไม่สามารถเข้าฌานได้


พระพุทธองค์ตรัสถึงความตระหนี่ ๕ อย่าง 

๑. ตระหนี่ในลาภ คือทรัพย์สมบัติเงินทอง คือความยึดมั่นถือมั่นว่านี่ของเรา อย่ามายุ่ง 

ผู้ที่ตระหนี่ในลาภมักจะมองคุณค่าของตัวเองประเมินได้ด้วยวัตถุหรือตัวเลขในบัญชีธนาคาร 

ตระหนี่อย่างนี้ใจคับแคบที่สุด 

๒. ตระหนี่ในวรรณะ ความตระหนี่นี้อาจเริ่มตั้งแต่ต้องการจะสวยคนเดียว จะหล่อคนเดียว 

จิตจะเครียดและวุ่นวายกับภาพลักษณ์ของตัวเอง แต่วรรณะไม่ได้จำกัดอยู่ที่ความสวยงามของร่างกาย

ผู้ตระหนี่ในวรรณะคือผู้ที่ตระหนี่ในการดูดีของตนเอง เช่นต้องการเป็นที่ชื่นชมคนเดียว เป็นที่ประทับใจ 

เป็นที่น่าทึ่ง น่าเคารพนับถือคนเดียว เมื่อรู้สึกว่าเราดูดีในสายตาของคนอื่นในนัยใดนัยหนึ่ง 

ความตระหนี่มักเกิดขึ้น หวงแหนเอาไว้ 

โดยถือว่าคุณค่าของเราประเมินได้ด้วยความรู้สึกของคนอื่นที่มีต่อเรา 

สองข้อต่อไปนี้เน้นที่พระสงฆ์ คือ ๓. ตระหนี่ในอาวาส คือกีดกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ใช่พรรคพวกหรือไม่ถูกจริต

เข้ามาอยู่อาศัย ข้อนี้จะเห็นชัดในพระสงฆ์ที่หวงแหนกุฏิหรือเสนาสนะ 

ในวัดป่าสายหลวงพ่อชาจึงมีข้อวัตรปฏิบัติว่าถ้าพระเดินทางไปไหนเป็นเวลานานก็ต้องสละกุฏิท่าน 

โดยถือว่าไม่ใช่กุฏิท่านแล้ว ท่านไม่มีสิทธิ์กลับมาอยู่กุฏิหลังนี้ต่อไป 

๔. ตระหนี่ในตระกูล ความตระหนี่นี้เกิดขึ้นเมื่อพระมีลูกศิษย์หรืออุปัฏฐากที่ศรัทธาเลื่อมใสและใจบุญ 

แล้วท่านพยายามกีดกันไม่ให้เกิดศรัทธาหรือพยายามไม่ให้ลูกศิษย์ของท่านไปทำบุญกับพระองค์อื่นหรือ

สำนักอื่น ข้อ ๓ และ ๔ ถึงเน้นที่สงฆ์ แต่ผู้ครองเรือนก็คงได้คติธรรมได้บ้างเหมือนกัน 

๕. ตระหนี่ในธรรม ข้อนี้เป็นได้กับทั้งพระและโยม คือผู้ที่ต้องการยกตนข่มท่านด้วยภูมิธรรม 

ถ้ามีเงื่อนไขหรือเหตุปัจจัยหรือเทคนิคอะไรต่างๆที่ทำให้เกิดผลในการปฏิบัติของตน 

ก็เก็บไว้ไม่ให้ใครทราบ เพราะไม่ต้องการให้ใครเก่งเท่าหรือเก่งกว่าตน 

ความตระหนี่ ๕ อย่างนี้แก้ยากเหมือนกัน 

แต่การปลูกฝังนิสัยในการให้ทาน ให้รู้จักปล่อยวางในขั้นหยาบ 

จะให้แนวทาง และเป็นพลังในการระงับความตระหนี่ที่ละเอียดขึ้นไป

ชยสาโรภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:กินอาหารอย่างรู้คุณค่าแลรู้คุณ...เป็นการปฏิบัติธรรม

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

 

การที่เรากินอาหารด้วยความรู้ค่า รู้คุณ

เป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง

ถ้าเราเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรากิน

เราก็จะรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณของชีวิต

และผู้คนที่ผลิตและนำอาหารมาให้เรา

สำนึกดังกล่าวจะกระตุ้นเตือนให้เรา

พยายามใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า

เพื่อตอบแทนบุญคุณของสรรพชีวิตที่ให้อาหารเรา 

สิ่งนี้เป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่งที่เราควรจะทำเป็นอาจิณ 

ก่อนที่จะกินอาหารพระบางวัดจะสวดสวดเป็นภาษาบาลี เรียกว่า สวดปฏิสังขาโย

จุดมุ่งหมายก็เพื่อเตือนสติให้เรากินอย่างรู้ค่า ให้รู้ว่าควรกินเพื่ออะไร 

คือ กินเพื่อให้ร่างกายอยู่ได้ไม่ใช่กินเพื่อความเอร็ดอร่อย เพื่อความเพลิดเพลิน สนุกสนาน เพื่อความโก้เก๋ 

แต่กินเพื่อบรรเทาความหิว และไม่ทำให้มีความทุกข์เพิ่มขึ้น

พระไพศาล วิสาโล

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:-:- ต้นหาย กำไรสูญ -:-

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ต้นหาย กำไรสูญ เปรียบเสมือนคนเราบางคนที่ตั้งอกตั้งใจ ทำการทำงาน จะประกอบการค้าขาย 

หรือทำกิจการงานอะไรก็ดี ตั้งแต่เยาว์วัยจนกระทั่งเป็นหนุ่มเป็นสาว และแก่เฒ่าแก่ชราในที่สุด 

และถึงพร้อมด้วยความร่ำรวยสมบูรณ์พูนสุข สร้างบ้านสร้างเรือน สร้างหลักฐานได้อย่างมั่นคง 

ตลอดจนสร้างเกียรติยศ สร้างชื่อเสียง จนได้ลาภได้ยศ ได้สรรเสริญ ประสบความสำเร็จในชีวิตทางโลก 

ทุกสิ่งทุกอย่าง

แต่คนบางคนที่กล่าวถึงเหล่านี้ เมื่อถึงกาลเวลาอันสมควร ซึ่งที่จริง

ก็เป็นการเพียงพอแล้วสำหรับทรัพย์สมบัติในทางโลก

ที่ได้สร้างสมมามากแล้ว ก็ควรจะหยุด เพื่อรีบสร้างสมสิ่งที่เป็น 

“อริยทรัพย์” ในบั้นปลายของชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้บ้าง

แต่เขาเหล่านั้นก็หาได้มีความหยุด ความยั้ง ความละ ความปล่อย 

ความวาง ในทรัพย์สมบัติที่หามาได้เหล่านั้นไม่มุ่งหน้าที่จะคิดอ่าน

ประกอบกิจการงาน ให้มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ 

โดยไม่คำนึงถึงว่า สักวันหนึ่ง ไม่ช้าก็เร็ว ความตายก็จะต้องมาถึง

เข้าอย่างแน่นอน ในที่สุดร่างกายของเขาก็ถึงซึ่งความแตกดับจริงๆ

และย่อยยับสูญหายไป ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนหามาได้ไว้ในโลกนี้ให้กับคนอื่นทั้งหมด 

ไม่สามารถที่จะนำเอาทรัพย์สมบัติเหล่านั้นติดตามตนไปได้แม้แต่นิดเดียว 

โดยที่ตนเองมิได้ประกอบคุณงามความดี ในทางสร้างสมในสิ่งที่เป็นอริยทรัพย์ให้มากเท่าที่ควรเลย 

ซึ่งตนเองก็มีโอกาสและโชคดีอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็มิได้กระทำลงไป 

จึงเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่สุดในชีวิตของเขา เปรียบเสมือน “ต้นหาย กำไรสูญ” 

“ต้น” ก็คือร่างกายและทรัพย์สมบัติที่หามาได้ทั้งหมด 

“กำไร” ก็คือบุญกุศลหรือสิ่งที่เป็นอริยทรัพย์ 

แทนที่จะได้ก็ไม่ได้ และถ้าใช้ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นไปในทางที่ไม่ดี ผิดศีลผิดธรรมอีกด้วยแล้ว 

หรือยึดในทรัพย์สมบัติที่หามาได้นั้นมากเกินไป ก็ยิ่งจะขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ 

ต้นก็หาย กำไรก็สูญ ชีวิตนี้ก็ขาดทุน 

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

(ภูริทตฺตธมฺโมวาท จากหนังสือภูริทตฺตมหาเถรานุสรณ์)

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:ผู้ที่ช่วยตนเองให้พ้นทุกข์ได้นั้น ย่อมสามารถช่วยผู้อื่นไปพร้อมกันด้วย

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


การพยายามช่วยเหลือตนเองให้พ้นทุกข์ 

ด้วยการปฏิบัติตามที่พระพุทธองค์ทรงสอน 

นับได้ว่าเป็นการกรุณาตนเอง และเป็นการกรุณาผู้อื่นอีกด้วย

พระพุทธองค์ทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลก 

จึงได้ทรงบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า 

ผู้มีกรุณาต่อตนเอง 

ต้องพากเพียรพยายามปฏิบัติตามที่ทรงสอนให้จริงจัง 

จึงจะประสบความสำเร็จ ช่วยตนเองให้พ้นทุกข์ได้

ผู้ที่ช่วยตนเองให้พ้นทุกข์ได้นั้น ย่อมสามารถช่วยผู้อื่นไปพร้อมกันด้วย 

ให้ผู้อื่นได้พลอยมีส่วนแห่งความร่มเย็นเป็นสุขด้วย 

เพราะผู้ไม่มีทุกข์เพียงไร คือ ผู้ไกลจากกิเลสเพียงนั้น ความโลภ ความโกรธ ความหลง ไกลจากใจเพียงนั้น

อันผู้มีความโลภ ความโกรธ ความหลงบางเบา คือ ผู้ให้โทษผู้อื่นบางเบาด้วย

นั่นก็คือ ไม่มีความร้อนของกิเลสแผดเผาจิตใจตนเองให้ร้อน

ความร้อนนั้นเข้าใกล้ผู้ใด ย่อมทำให้ผู้นั้นร้อนแน่ ไม่ร้อนแต่เพียงตัวเองเท่านั้น

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร

https://www.openbase.in.th/node/3003

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:หลักที่ไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดโดยความเป็นตัวตนหรือของตน

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

" สิ่งที่ตรัสรู้นั้นเท่ากับใบไม้ทั้งป่าทั้งดง

แต่สิ่งที่นำมาสอนให้พวกเธอปฏิบัตินั้นกำมือเดียว ก็หมายถึง 

หลักที่ไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดโดยความเป็นตัวตน 

หรือของตน นั่นเอง....." 

พระพุทธภาษิตที่แสดงถึงหลักปฏิบัติเกี่ยวกับความว่างนั้น คือ

พระพุทธภาษิตที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา 

อาตมากำลังเอ่ยถึงคำว่า “หัวใจของพุทธศาสนา” 

ฉะนั้นขอให้สนใจสักหน่อย นั่นคือพระพุทธภาษิตที่ว่า 

สิ่งทั้งหลายทั้งปวงอันใครๆ ไม่ควรเข้าไปยึดมั่นถือมั่น ว่าเป็นตัวเรา หรือเป็นของเราของเรา”

ถ้าเป็นบาลีก็ว่า “สัพพเพ ธัมมา นาลํ อภินิเวสายะ” แปลว่า “ธรรมทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น” 

สั้นๆ เท่านี้ ตามตัวหนังสือมีเพียงเท่านี้ แต่ถ้าขยายความในภาษาไทยไปอีกหน่อยก็ว่า 

สิ่งทั้งหลายทั้งปวงอันใครๆ ไม่ควรเข้าไปยึดมั่นถือมั่นว่าตัวเรา หรือของเรา 

นี่ฟังดูให้ดีอาจจะเข้าใจได้ในตัวประโยคนั้นเองว่า อันใครๆ (คือไม่ยกเว้นใคร) ไม่ควรเข้าไปยึดมั่นถือมั่น 

คือทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นมาว่าเป็นตัวเรา หรือว่าเป็นของของเรา เป็นตัวเรา คือยึดมั่นว่า 

อัตตาเป็นความรู้สึกที่ว่า อหังการ เป็นของเรา ก็คือ เป็น อัตนียา แปลว่า เนื่องด้วยตัวเรา 

เป็นความรู้สึกที่เรียกว่า มมังการ เพราะฉะนั้น อย่าได้มีอหังการ หรือมมังการ ในสิ่งใดๆ หมด 

นับตั้งแต่ฝุ่นที่ไม่มีราคาอะไรเลยสักเม็ดหนึ่ง ขึ้นมาจนถึง วัตถุที่มีค่า เช่น เพชร นิล จินดา กระทั่ง กามารมณ์ 

กระทั่งสิ่งที่สูงไปกว่านั้น คือ ธรรมะ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ มรรค ผล นิพพาน อะไรก็ตาม 

ไม่ควรจะถูกยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวเรา หรือเป็นของเรา นี่คือหัวใจของพระพุทธศาสนา 

ถ้าได้ยินคำเช่นนี้ คือคำว่า ”สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ” นี้แล้ว ก็เป็นอันว่าได้ยินได้ฟังทั้งหมด 

ถ้าได้ปฏิบัติข้อนี้ ก็เป็นอันได้ปฏิบัติทั้งหมด ถ้าได้ผลมาจากข้อนี้ ก็คือได้ผลทั้งหมด 

เพราะฉะนั้น เราไม่ต้องกลัวว่า มันจะมากเกินไปจนเราเข้าใจไม่ได้ ที่ว่าถ้าได้ยินสิ่งนี้เป็นได้ยินทั้งหมดนั้น 

ก็เพราะว่าทุกเรื่องมันสรุปรวมอยู่ที่นี่ เพราะว่าเรื่องทั้งหมดที่พระพุทธเจ้าตรัสนั้น 

ไม่มีเรื่องอื่นนอกจากความทุกข์กับเรื่องความดับทุกข์ ทีนี้ความยึดมั่นถือมั่นนี้ เป็นตัวเหตุให้เกิดทุกข์ 

ในขณะที่ยึดมั่นถือมั่นอยู่นั่นแหละเป็นความทุกข์ แล้วในขณะที่ไม่ยึดมั่นถือมั่น 

คือว่างจากความยึดมั่นถือมั่นอยู่นั้น ในขณะนั้นไม่มีทุกข์ 

การปฏิบัติก็ปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดความยึดมั่นถือมั่นให้เด็ดขาดลงไป เป็นว่างตลอดกาล 

ไม่มีความยึดมั่นถือมั่นกลับมาอีกเท่านี้ก็พอแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้ว.... 

ท่านพุทธทาส

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:ก่อนที่เราจะทำอะไรให้สร้างสรรค์

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


การปล่อยวางความโกรธ ไม่ใช่จุดจบของเรื่อง 

เป็นขั้นตอน ในการจัดการกับเรื่อง

ก่อนที่เราจะทำอะไรให้สร้างสรรค์ 

ก่อนที่เราจะแก้ปัญหา  เราต้องวางจิตใจให้ปกติเสียก่อน 

ถ้าจิตใจยังโกรธยังหงุดหงิดรำคาญ 

จิตใจยังไม่อยู่ในภาวะที่เหมาะแก่การทำงาน 

ไม่ควรแก่งาน 

เราจึงต้องฉลาดในการทำจิตใจของเรา ให้ควรแก่งาน


ชยสาโรภิกขุ


#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:ภาษาเพลง...ภาษาธรรม...สื่อให้รับรู้ได้ว่าการดำรงอยู่ของคนที่เธอรัก...เป็นสิ่งล้ำค่า

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ... 

เข้ามาโอบกอดฉันให้มั่นใจ ไม่มีอะไรทำร้ายฉันอีกแล้ว

สายตาเธออ่อนโยนและแน่แน่ว ประสานมือกัน มีฉันและมีเธอ

 

 การดำรงอยู่ตรงนั้นในปัจจุบันที่แท้จริง เป็นขั้นตอนแรก

และการตระหนักถึงการดำรงอยู่ของผู้อื่น เป็นขั้นตอนที่สอง

เพราะเมื่อเธอดำรงอยู่ตรงนั้นอย่างสมบูรณ์

เธอจะรับรู้ได้ว่าการดำรงอยู่ของคนที่เธอรักเป็นสิ่งล้ำค่า

และเมื่อเธอโอบกอดคนรักของเธออย่างมีสติ

คนรักของเธอจะเบ่งบานเหมือนดอกไม้

การมีความรักเป็นสิ่งแรกของทั้งหมดที่จะรับรู้ถึงการดำรงอยู่นี้...

มนตราสองข้อนี้สามารถนำความสุขมาให้ในทันที

  แม้ว่ากายของคนที่เธอรักจะไม่ได้อยู่ที่นั่น

แต่เธอก็สามารถใช้โทรศัพท์และอีเมลเพื่อบอกเขาว่า

"ที่รัก ฉันรู้ว่าคุณอยู่ตรงนั้น

และนั่นทำให้ฉันมีความสุขมาก"

สิ่งนี้คือการปฏิบัติภาวนาอย่างแท้จริง การปฏิบัติภาวนาแบบพิเศษเช่นนี้ จะประกอบไปด้วย

ความรัก ความกรุณา ความเบิกบาน และความเป็นอิสระ ซึ่งเป็นองค์ประกอบ 4 ประการ

ของรักแท้ที่พระพุทธองค์ทรงอธิบายไว้...

ท่าน ติช นัท ฮันห์

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:วันใดที่เราเข้าใจจิตตัวเอง เราจะเข้าถึงธรรมะ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ธรรมมะคือเรื่องของตัวเราเอง"ธรรมะเป็นของใกล้ตัว ใกล้ตัวมากๆ 

ถึงขนาดว่า จริงๆ แล้ว ธรรมะคือเรื่องของตัวเราเอง

ธรรมะไม่ใช่อยู่ที่วัด ไม่ได้อยู่ที่พระ ไม่ได้อยู่กับหลวงพ่อ 

ไม่ได้อยู่กระทั่งกับพระพุทธเจ้า ธรรมะยู่ที่ใจของเรานี่เอง 

ธรรมะมีหลายแบบ ธรรมะที่เป็นกุศล ก็เกิดที่จิต

ธรรมะที่เป็นอกุศล ก็เกิดที่จิต โลกุตรธรรม หรือมรรคผล ก็เกิดที่จิต 

ฉะนั้น ธรรมมอยู่ที่ตัวเราเอง ไม่ต้องไปแสวงหาที่อื่นเลย 

ให้เรียนรู้อยู่ที่จิต ที่ใจตัวเอง วันใดที่เราเข้าใจจิตใจตนเอง 

เราจะเข้าถึงธรรมะ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

วัดสวนสันติธรรม 

แสดงธรรม ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:ฝึก...ปฏิบัติ...อบรมจิต...3...ฝึกแล้วนำความสุขมาให้

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

 "ความฝึกจิตที่ข่มยาก ไว มีปรกติตกไปตามความใคร่

เป็นการดีเพราะว่าจิตที่ฝึกแล้วนำความสุขมาให้”

ในพระพุทธภาษิตบทนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง

แสดงว่า จิตที่ฝึกแล้วนำความสุขมาให้

การฝึกจิตจึงเป็นการดี ปรกตินั้นจิตเป็นสิ่งที่ข่มยาก

แต่ก็ข่มได้ เบา ไว อ่อนไหว ไปตาม อารมณ์ต่างๆ

ง่าย แต่ด้วยการข่มการฝึก ก็สามารถทำให้หนักแน่น

มั่นคงสม่ำเสมอได้ และแม้มีปรกติตกไปตามใคร่

คือ ยินดีพอใจในสิ่งที่ น่าใคร่น่าปรารถนาพอใจ 

แต่ด้วยการข่มการฝึก ก็สามารถทำให้ละความยินดีพอใจนั้นได้ เมื่อจิตได้รับการข่ม การฝึกแล้ว

ให้ไม่อ่อนไหว เปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์ต่างๆ โดยง่าย และให้ละความยินดีพอใจในสิ่งที่ น่าใคร่

น่าปรารถนา พอใจได้ จิตก็จะเป็นจิตที่เป็นสุข และนี้แลที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า

จิตที่ฝึกแล้ว นำความสุขมาให้

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

 #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA: วางทุกอย่าง เสมือนว่ามันเสร็จแล้ว

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ตอนที่สวนโมกข์เริ่มมีการสร้างถาวรวัตถุ เช่น โรงมหรสพทางวิญญาณ หรืออาคารต่าง ๆ ก็ดี 

อาคารแต่ละแห่ง ใช้เวลานานหลายปี เพราะว่าอาศัยกำลังพระเณรช่วยกันสร้าง 

ไม่มีการจ้างบริษัทรับเหมาก่อสร้างมาทำ พระเณรก็ทำกันวันละนิด วันละหน่อย 

คราวหนึ่งท่านอาจารย์พุทธทาสสร้างอาคารชื่อว่า “ธรรมนาวา” เรียกสั้น ๆ ว่า “เรือ” 

เพราะมีรูปร่างคล้ายเรือ คราวหนึ่งมีลูกศิษย์มาเยี่ยมสวนโมกข์ เมื่อไปกราบท่านอาจารย์พุทธทาส 

ถามท่านว่าเรือสร้างถึงไหนแล้ว เสร็จหรือยัง อาจารย์พุทธทาสตอบว่าเสร็จแล้ว ชายคนนั้นก็แปลกใจ 

เพราะว่ามาสวนโมกข์เมื่อ ๒ เดือนก่อนก็เห็นว่ายังสร้างไปไม่ได้มากเท่าไร ทำไมเสร็จเร็วจัง 

จึงเดินไปดู ปรากฏว่าคืบหน้าไปได้ไม่มาก เขาจึงกลับมาหาท่านอาจารย์พุทธทาสและถามว่า 

เรือยังสร้างไปไม่ถึงไหนเลย ทำไมอาจารย์ถึงว่าเสร็จแล้ว 

ท่านอาจารย์พุทธทาสตอบว่า “เสร็จแล้ว เสร็จจริง ๆ วันนี้เสร็จ พรุ่งนี้ก็เสร็จ มะรืนนี้ก็เสร็จ เสร็จทุกวัน” 

ชายคนนั้นคงง เพราะตามความเข้าใจของเขา คำว่าเสร็จก็คือเรียบร้อยสมบูรณ์ 

แต่สำหรับท่านอาจารย์พุทธทาส 

เสร็จในความหมายของท่าน คือ วางลงจากใจแล้ว ไม่เอามาเป็นเครื่องกังวลใจ 

หมายความว่า เวลาจะทำอะไรก็ตาม ก็ทำเต็มที่ แต่พอเลิกงาน ก็วางมันลง อย่างนี้เรียกว่าเสร็จ 

คนเราเวลาทำอะไรสำเร็จเสร็จสิ้น จะรู้สึกว่ามันเบา ไม่มีความวิตกกังวลอีกต่อไป 

ท่านอาจารย์พุทธทาสก็มีความรู้สึกอย่างนั้นทุกครั้งที่เลิกงาน ได้แค่ไหนก็แค่นั้น 

พอเลิกงานก็วางงานลงจากใจ ไม่ใช่แค่วางค้อน วางเครื่องไม้เครื่องมือเท่านั้น ใจก็วางด้วย 

เสมือนว่ามันเสร็จแล้ว ถึงเวลาไปทำสมาธิ ภาวนา ทำวัตรสวดมนต์ หรือพักผ่อน 

ก็ไม่เอางานมาครุ่นคิดให้หนักอกหนักใจ แม้จะยังไม่เสร็จสมบรูณ์ 

เวลาเข้านอนก็นอนด้วยใจที่ปลอดโปร่ง เพราะว่าวางทุกอย่าง เสมือนว่ามันเสร็จแล้ว 

อันนี้คือความหมายหนึ่งของการทำงานด้วยใจที่ปล่อยวาง 

พวกเราหลายคนพอมาปฏิบัติธรรม ก็นึกในใจว่า เมื่อไรคอร์สจะจบสักที อาจจะคิดอย่างนี้ทุกวันเลย 

ลองเอาคำสอนหรือคำแนะนำของท่านอาจารย์พุทธทาสไปใช้ก็ได้ คือว่า คอร์สนี้เสร็จทุกวัน 

ไม่ต้องไปคิดว่าอีกกี่วันถึงจะได้กลับบ้าน 

การคิดแบบนั้นมีแต่จะทำให้ทุกข์ 

และไม่ได้ช่วยให้เวลาผ่านไปเร็วขึ้นกว่าเดิม 

มิใช่แต่การปฏิบัติธรรมเท่านั้น ทำงานอย่างอื่นก็เช่นกัน 

เวลาเราทำงานก็ให้ลองนึกว่า เสร็จทุกวัน 

เลิกงานแล้วก็กลับบ้านไปหาลูก พ่อแม่ หรือคนรัก 

ด้วยใจที่ปลอดโปร่งเสมือนกับว่างานเสร็จแล้ว 

แต่คนจำนวนมากทำอย่างนั้นไม่เป็น 

เวลากลับไปบ้านก็แบกเอางานไปด้วย ไม่ได้ถือแฟ้มแบกกลับไป 

แต่ว่าแบกที่ใจ เวลาอยู่กับลูก ก็นึกถึงงาน ใจไม่ได้อยู่กับลูกเต็มร้อย

เวลานึกถึงงานก็รู้สึกวิตกกังวล หงุดหงิด แสดงอารมณ์ออกทางสีหน้าให้ลูกเห็น 

ลูกก็จะรู้สึกเครียดเวลาอยู่กับเรา เพราะใจเรายังแบกงานไว้เต็มที่ ให้เรานึกว่ามันเสร็จแล้ว วางมันลงเสีย 

เราจะได้กลับบ้าน จะได้อยู่กับลูก กับคนรัก หรืออยู่กับตัวเองด้วยใจที่ปลอดโปร่ง 

และทำสิ่งที่ควรทำเมื่ออยู่บ้าน เช่น พักผ่อน สวดมนต์ นั่งสมาธิ หลายคนแบกงานกลับบ้าน 

เอาเข้าห้องนอน แม้กระทั่งจะนอนก็ยังไม่ยอมวาง เลยนอนไม่หลับ ตื่นขึ้นมาก็เลยไม่มีเรี่ยวแรงทำงาน 

ข้อธรรม คำสอน พระไพศาล วิสาโล 

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:ถ้ามีคนรอบข้างเป็นโรคซึมเศร้า เราควรจะทำอย่างไร?

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


คนที่เป็นโรคซึมเศร้า

มักจะเป็นผู้ที่ปล่อยให้มีความคิดที่ไม่ดีบางอย่างตกร่อง 

จิตจะวกวนในความคิดเก่าๆ 

โดยเฉพาะความคิดในทางที่ว่าเราไม่ดี 

เราทำอะไรไม่สำเร็จ เราแย่ เป็นต้น 

ฉะนั้นในเมื่อจิตตกร่องอย่างนี้ มักจะมีผลให้ไม่ออกกำลังกาย 

ไม่ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย 

แล้วจิตใจก็หมกมุ่นแต่เรื่องของตัวเอง

ฉะนั้นในเบื้องต้นก็เป็นเรื่องพื้นฐาน หรือว่าจะต้องพยายามชวนให้ออกกำลังกาย ออกจากห้อง 

ออกจากบ้าน เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม ถ้าอยู่ในกรุงในเมืองก็ออกไปต่างจังหวัดถ้าเป็นไปได้ 

อย่างน้อยให้มีการเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ในเบื้องต้นสิ่งที่จะได้ผลได้เร็วก็คือทาน 

การชวนให้ผู้ซึมเศร้าทำทาน โดยเฉพาะการให้ทานที่เห็นผลได้ทันที อย่างเช่นการเลี้ยงเด็กกำพร้า 

คือสิ่งที่เราทำไปแล้ว เราก็เห็น โอ้...ทำให้คนอื่นมีความสุขได้ ก็ทำให้มีความเชื่อมั่นว่า 

ตัวเองมีอะไรที่จะให้กับโลกได้เหมือนกัน

ส่วนการภาวนาไม่ใช่ว่านั่งสมาธิจะเป็นวิธีแก้ปัญหาทุกอย่าง 

การให้คนนั่งคนเดียว นั่งหลับตา อาจจะไม่ดีสำหรับคนซึมเศร้า ควรจะให้ออกในสังคม ในสังคมคนดี 

ในการทำงานจิตอาสาหรือทำอะไรเพื่อคนอื่นให้มาก แล้วก็เจอคนที่ร่าเริง คนที่มีความสุข 

อย่าไปคลุกคลีกับคนที่ซึมเศร้าด้วยกัน

สำหรับคนซึมเศร้า ถ้าจะให้เจริญสมาธิภาวนา ก็เน้นที่ เมตตาภาวนา 

แล้วถ้าทำเมตตาภาวนาในระหว่างการเดินจงกรมก็จะดี 

ก็ไม่อยากให้ผู้ซึมเศร้าอยู่คนเดียว นั่งสมาธิคนเดียวเท่าไหร่ แต่ถ้าออกในสถานที่อย่างนี้ 

เดินใต้ต้นไม้แผ่เมตตาเปลี่ยนให้จิตใจให้ดีขึ้น 

แต่การออกกำลังกายนี้จะแก้ได้เยอะเลยโดยยังไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องจิตใจเท่าไหร่ 

ก็อยากให้ออกกำลังกายให้มาก

ชยสาโรภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA: ปฏิบัติลงไปจริงๆ และมีเกิดผลผ่านใจเราไปจริงๆ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ความเข้าใจกับความเห็นแจ้งนั้นไม่เหมือนกัน...

ความรู้นี้ต่ำที่สุด, ความเข้าใจสูงขึ้นไป, ความเห็นแจ้งสูงขึ้น 

เมื่อเราศึกษาเล่าเรียน อ่าน เขียน ฟัง เราได้ความรู้ 

เรียกว่า knowledge มาจากการศึกษา 

ทีนี้เรามาใช้เหตุผลในการคำนึงคำนวน 

เราก็ได้รับความเข้าใจเป็น understanding 

ซึ่งมันไม่เพียงแต่ว่ารู้ๆ นี้

ต่อมาเราได้ทำสิ่งนั้นเข้าจริงๆ ได้ผ่านสิ่งนั้นเข้าไปจริง ๆ 

คือได้ผ่านสิ่งนั้นเข้าไปจริงๆ เรามี experience ในสิ่งนั้นจริง 

เกิดการเห็นแจ้งคือได้ชิมด้วยใจได้ผ่านไปด้วยใจ realization หรือ intuitive wisdom 

หรืออะไรที่สุดแท้แล้วแต่จะเรียก แต่ให้รู้ว่าความหมายมันต่างกันมาก

ความรู้ ความเข้าใจ, ความเห็นแจ้ง ทีนี้คำว่า ผลที่เราจะรู้จักมันดีมันต้องเป็นผลที่ได้ผ่านเรา 

คือ เราได้มีการปฏิบัติลงไปจริงๆ และมีเกิดผลผ่านใจเราไปจริงๆ 

ผลนั้นเป็นที่แจ่มแจ้ง เห็นแจ้งแก่ใจของเรา

พุทธทาสภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

 #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:เปลี่ยนปัญหา...ให้เป็น...ปัญญา...

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

การมองว่าปัญหา เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต ที่ไม่มีใครหนีพ้น

เช่นเดียวกับ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เรา

เผชิญกับปัญหาได้โดยไม่ทุกข์มากนัก แต่มีวิธีที่ดีกว่านั้นคือ

...การเปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญญา...

...เพราะนอกจากจะไม่ทุกข์หรือขาดทุนแล้ว...

...ยังได้ประโยชน์เป็นกำไร กลับคืนมาด้วย...

ปัญหาสามารถก่อให้เกิดปัญญาได้ หากรู้จักมองหรือใคร่ครวญกับมัน นักเรียนจะเฉลียวฉลาดได้

ก็เพราะหมั่นทำการบ้าน การบ้านนั้นคืออะไร หากไม่ใช่ปัญหาหรือโจทย์ ที่ต้องขบคิด

ถ้าครูไม่ขยันให้โจทย์หรือตั้งคำถามให้นักเรียนคิด นักเรียนก็ยากจะเกิดปัญญาได้  

เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา แทนที่จะคร่ำครวญหรือ ตีอกชกหัว ลองใคร่ครวญให้ดี จะพบว่า

ปัญหาเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเอง หมายถึง เปลี่ยนทัศนคติ พฤติกรรมหรือ

การใช้ชีวิตให้ถูกต้องเหมาะสมและชาญฉลาด ปัญหาจึงไม่ใช่เรื่องน่ากลัว

หากคือครูที่มาสอนให้เราฉลาดขึ้นนั่นเอง...

พระไพศาล วิสาโล

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:แค่เริ่มคิดถูก...(มันก็เป็นบุญ)

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...


 ภาวนา คือ สร้างความคิดของเราให้มันถูกต้อง

ไม่เบียดเบียนตน ไม่เบียดเบียนคนอื่น

ทำให้เกิดประโยชน์ในการกระทำที่ถูกต้อง

การพูดที่ถูกต้อง การคิดอะไรที่มันถูกต้อง

ความถูกต้องทั้งหมดนั่นแหละคือบุญแล้ว

นั้นเรียกว่า บุญ บุญที่เกิดจากการภาวนา...

ทานก็ดี ศีลก็ดี จะต้องภาวนา สารพัดทุกอย่าง

มนุษย์เราทั้งหลายหากินในโลกทุกวันนี้ ถ้าขาดการพิจารณาแล้วเป็นต้น ไม่ได้ เสียหาย 

จะซื้อจะขายจะแลกจะเปลี่ยน จะทำอะไรทุกประการก็ต้องภาวนา 

ก็ต้องพิจารณา เราได้มาเท่านี้ เราใช้ไปเท่านี้ เราทำอย่างนี้ 

ต่อไปเราทำอย่างนั้น เราจะมีโครงการเรียกว่าการภาวนาทั้งนั้น ถ้าใครภาวนาถูกก็สบาย 

ภาวนาถูกมันก็สงบมันก็สบายเรียกว่าการภาวนา ฉะนั้น การภาวนา ทุกคน ถึงแม้จะอยู่ในบ้าน 

หรืออยู่นอกวัด หรืออยู่ในวัด หรืออยู่ที่ไหนๆ ก็ตามเถอะ ถ้าเรามีความเห็นอันถูกต้อง 

มีความคิดอันถูกต้องในการพิจารณานะ มันก็เป็นการภาวนา

หลวงปู่ชา สุภัทโท

https://www.openbase.in.th/node/2929


#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

 #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:ภาษาเพลง...ภาษาธรรม...เพื่อความอดทน...ให้ทนได้ทุกที

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

"สีลสมาธิคุณานํ ขนฺติ ปธานการณํ สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา ขนฺตฺยาเยว วฑฺฒนฺติ เต"

พระพุทธศาสนสุภาษิต บทนี้แปลความว่า

"ขันติเป็นประธาน เป็นเหตุ แห่งคุณคือศีลและสมาธิ กุศลธรรมทั้งปวงย่อมเจริญ"

"เพราะขันติเท่านั้น"

 "ขันติ" ความอดทนความทนทาน อย่างสามัญ อย่างสามัญ

ที่มีความอดกลั้นเป็นลักษณะ เรียกว่า "อธิวาสนขันติ"

ขันติคือความอดกลั้น เช่น ทนตรากตรำต่อ หนาว ร้อน หิว

กระหาย เป็นต้น ทนลำบากต่อทุกขเวทนาในเวลาเจ็บไข้ได้

ป่วย ทนต่อความเจ็บใจ ต่อถ้อยคำ จาบจ้วงล่วงเกิน

เพราะสิ่งที่อดทนเหล่านี้มีเกิดขึ้นอยู่ที่กาย ใจ ปรากฎมีหนาว

ร้อน หิว กระหาย มีทุกขเวทนา มีความเจ็บใจ จึงอดกลั้นไว้

หนาว ร้อน หิว กระหาย 

ก็อดทนอดกลั้น ตามที่ควรอดทนอดกลั้น

เจ็บปวดก็อดทนอดกลั้นไม่ร้องทุรนทุราย เจ็บใจก็อดทนอดกลั้น กลั้นทนอด

ไม่แสดงอาการโกรธร้ายแรงทางกาย วาจา

อดกลั้นให้อยู่ในใจและพิจารณาระบายออก ทำให้ผ่อนคลาย ไม่ให้เครียด ให้สงบ ใจจึงแจ่มใส

แช่มชื่น กายก็สงบเป็นปกติ อาการดังนี้เรียกว่า "โสรัจจะ" ที่แปลว่าความเสงี่ยมคือสงบปกติ

   "ขันติที่สมบูรณ์จึงต้องมีโสรัจจะประกอบอยู่ด้วย" การหัดอดกลั้นและทำใจให้สงบ เป็นปกติใน

เวลาต้องอนิฏฐารมณ์ คือเรื่องที่ไม่ชอบ ย่อมยากในตอนแรก แต่เมื่อหัดปฏิบัติบ่อยเข้า

ก็จะง่ายขึ้น จนถึงทำจิตให้สงบเป็นปกติได้ มีอาการมั่นคง มีอารมณ์อะไรมากระทบกระทั่งก็

ไม่กระเทือน ขันติก็เลื่อนขึ้นเป็นมีความทนทานเป็นลักษณะ เรียกว่า "ตีติกขาขันติ"

ขันติคือ ความทนทาน ดังที่ตรัสไว้ในโอวาทปาฎิโมกข์ว่า

"ขนฺติ ปรมํ ตโป ตีติกฺขา" ขันติ คือความทนทานเป็นตบะอย่างยิ่ง

"ขันติเป็นอลังการวิเศษ"อำนวยผลแก่ผู้ที่มีอยู่ทุกคน เพราะผู้ที่มีจิตใจเข็มแข้งอดทนสงบอยู่

เป็นปกติ ทนทานได้ทุกสถานการณ์ ย่อมชื่อว่าได้ที่ตั้งรับอันมั่นคง เป็นผู้ชนะในขั้นที่ตั้งรับแล้ว

ทำให้สามารถปฎิบัติกิจหน้าที่ให้สำเร็จ .. "

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

 #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

เจ็บและช้ำมากี่ครั้ง พลาดและพลั้งมากี่หน

หากจะเป็นเธออีกซักคน มันก็คงไม่ต่างกันเท่าไร

หากเธอคิดทำอย่างนั้น หากเธอทิ้งกันก็คงตามใจ

เจ็บยังไงคงไม่ตาย เพราะฉันต้องอยู่อีกนาน

หากจะตายก็ตายไปแล้ว เจ็บอีกทีจะซักเท่าไร

ใจมันเจ็บมาแล้วกี่ครั้ง จะช้ำแค่ไหนไม่เห็นมันตายซักที

หนักกว่าเธอก็เจอมาแล้ว แต่ก็ทนมาได้ทุกที

ใจมันแกร่งและพร้อม จะรับคราวนี้ฉันคงไม่ตาย

หากเธอคิดทำอย่างนั้น หากเธอทิ้งกันก็คงตามใจ

เจ็บยังไงคงไม่ตาย เพราะฉันต้องอยู่อีกนาน

หากจะตายก็ตายไปแล้ว เจ็บอีกทีจะซักเท่าไร (เท่าไร)

ใจมันเจ็บมาแล้วกี่ครั้ง จะช้ำแค่ไหนไม่เห็นมันตายซักที

หนักกว่าเธอก็เจอมาแล้ว แต่ก็ทนมาได้ทุกที (ทุกที)

ใจมันแกร่งและพร้อม จะรับคราวนี้ฉันคงไม่ตาย

ใจมันแกร่งและพร้อม จะรับคราวนี้ฉันคงไม่ตาย

Select your language