พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
ถ้าหากว่าจิตใจของเราปรุงฟุ้งซ่าน ถึงจะไปอยู่ ณ สถานที่ใด นอนอยู่ในกองเงินกองทอง
ก็ร้องครวญครางอยู่ในกองเงินกองทองนั้นแหละ
ทำไมจึงพูดอย่างนั้น พวกเราได้ยินไหม พวกเศรษฐีรวยๆ บางทีฆ่าตัวตายก็มี
โดดตึกตายก็มี เพราะเหตุไร
ก็เพราะใจมันทุกข์ ใจมันทุกข์ เพราะใจมันคิด ปรุงฟุ้งอยู่ตลอดเวลา ใจไม่สงบ ถ้าจิตใจสงบแล้วอยู่ตามโคนต้นไม้ ไม่มีสมบัติอะไรก็มีความสุข อย่างพระพุทธเจ้าพระอรหันต์สาวกทั้งหลาย ที่ท่านไปบำเพ็ญอยู่ในป่าดงพงไพร มีแต่อัฐบริขาร ๘ เท่านั้นล่ะ นั่งอยู่ตามลำพัง แต่ทำจิตใจให้สงบ จิตใจให้นิ่ง ดูจิตใจของตนเอง |
อาหารก็ไม่จำเป็นอะไรมาก อย่างมื้อเช้าเรารับประทานอาหารเพียงจานเดียวก็อิ่มแล้ว
แต่ว่าความโลภมากมายมหาศาล หาเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ เพราะความโลภ
แต่ว่าอาหารในท้องของเราจริงๆก็ไม่มากเท่าไหร่ ทานอาหารหน่อยเดียวก็อิ่ม
พออิ่มแล้วก็ได้อีกหนึ่งวัน อย่างพระสงฆ์เผลอๆยังอดอาหารอีก ตั้งหลายวัน
ก็ยังอดได้อีก เพราะดูตัวเองการภาวนา อันนี้ก็คือให้รู้จักกาย ให้รู้จักใจ
สรุปแล้ว กาย กายคืออะไร คือร่างกายของเราที่มองเห็น คือกาย
แต่ใจคือตัวนามธรรม ตัวผู้รู้ ตัวนั้นใหญ่กว่า พระพุทธเจ้ายกโป้ง
ยกนิ้วให้เลยว่างั้นเถอะ ถึงว่า
มโน ปุพพังคมา ธัมมา มโน เสฏฐา มโนมยา
เรื่องทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นหัวหน้า สำเร็จแล้วด้วยใจ
แปลว่ายกให้ทั้งหมดเลย ในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
ท่านยกให้ทั้งหมดเลยยกให้ใจ ยกให้ตัวนามธรรม ตัวผู้รู้สึกนึกคิดตัวนั้นน่ะ
ให้พวกเราศึกษาทีนี่ จะทำยังไง ถึงจะจับตัวผู้รู้ คือใจตัวปรุงฟุ้งให้มันอยู่นิ่งให้ได้
ถ้ามันนิ่งให้ได้เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นล่ะ
นัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง
ความสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี
พอเราจับตัวนามธรรมตัวผู้รู้ให้อยู่หมัดแล้ว ให้อยู่นิ่งได้แล้ว
จะมีความสุขในการเป็นอยู่ทุกอิริยาบถของแต่ละท่านแต่ละคนนะ
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก จากพระธรรมเทศนา
“เมตตาธรรม นำโลกให้ร่มเย็นเป็นสุข” แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๒
#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา
#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี
#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น