Dhamma together:การให้ทานโดยไม่ ได้เตรียมการไว้ก่อน ใครมาก็ได้เราให้ได้

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

หลวงพ่อปานบอกว่า 

ถ้าจะให้ทานคนขอทาน อย่าให้เขาพูดมาก 

หมายความว่าพอมาถึง ไม่ต้องยกมือไหว้พูดขอ 

ถ้าเขาจะขอก็บอกไม่ต้อง ฉันให้แล้ว ฉันเต็มใจให้แล้ว คือว่าเราจะให้ใคร อย่าให้ใครพูดมาก 

อย่าให้เสียเวลา ให้เร็วๆที่สุด ตั้งใจเป็นการสงเคราะห์จริงๆ แล้วผลมันให้ชาตินี้ 

ฉันทดสอบมาแล้วเป็นความจริง ถ้าเกิดไปชาติหน้าจะได้ลาภสองแบบ 

หมายความบุญที่มีการ เตรียมการ จะร่ำรวยจาก การประกอบอาชีพ และที่ถือของไปตามทาง 

เจอะที่ไหนให้ที่นั่น โดยไม่ได้ตั้งใจไว้ก่อนจะได้ ลาภลอย คือ ถูกล็อตเตอรี่

การให้ทานโดยไม่ ได้เตรียมการไว้ก่อน

ใครมาก็ได้เราให้ได้ ถ้าทำอย่างนี้เสมอๆ

คนมาขอทาน เราไม่ยอมให้พูดขอ รีบควักเลย 

แล้วมันจะมีผลในชาตินี้ คือสิ่งที่เราขัดข้องคิดว่า

จะไม่ได้มันจะโผล่ เราก็ให้เท่าที่เราจะให้ได้ 

เขาไม่บังคับเรานี่ พอทำไปไม่กี่ปีก็เริ่มให้ผล 

ของที่จะได้มามันมีการคล่องตัวมากขึ้น

แต่เวลาให้ เราอย่าไปคิดถึงผลอันนี้นะ ต้องให้ด้วยการสงเคราะห์จริงๆ 

คือตัดไปเลย มันได้เท่าไหร่ก็ช่าง ถ้าไปคิดว่าเราต้องการให้เพื่อต้องการผลตอบแทน

ผลจะถูกตัด เพราะเป็นการให้ทานประกอบด้วยความโลภ 

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า 

"ตุลิตะ ตุลิตัง สีฆะ สีฆัง" 

ธรรมของเรามิใช่เป็นเครื่องเนิ่นช้า ต้องเร็วๆ ไวๆ

อย่างของสังฆทาน พอเราบอกพระไปว่าขอถวายเป็นสังฆทาน 

พระเขาจะจัดของนั้นเป็นสังฆทานโดยตรงจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ 

ถ้าเป็นอย่างอื่น คนรับก็ไปนรกซิ ผู้ให้ไปสวรรค์ 

#ที่มาจากหลวงพ่อตอบปัญหาธรรมเล่ม ๓ หน้า ๗๐ 

#พระราชพรหมยาน {หลวงพ่อฤาษีลิงดำ} วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี

#ทบทวนธรรม

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ ##คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก

#สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language