Dhamma together:บริโภคพอเพียง แต่ว่าทำงานเต็มที่...

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

“ความพอเพียง” ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า เมื่อหาได้พอเพียงกับการบริโภคแล้วก็หยุดแค่นั้น

เอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ “พอเพียง”หมายความว่ากินน้อยใช้น้อยแต่ยังขยันอยู่ และที่หามาได้เกินความต้องการ

ก็ไม่ใช่เพื่อการบริโภคส่วนตัว แต่เพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม เพื่อนำเอาส่วนเกินไปช่วยเหลือสังคม

เหมือนคนไทยสมัยก่อนมักจะบริโภคน้อย บ้านก็หลังเล็กๆ 

แต่ขยันทำงานเพื่อที่จะเอาเงินที่ได้มาไปช่วยเหลือสังคม เช่น ช่วยสร้างวัด ช่วยเหลือคนยากคนจน 

นี่คือความคิดเรื่อง เศรษฐีในสมัยพุทธกาล ซึ่งก็ได้รับการ

สืบทอดมาในสังคมพุทธมาเป็นลำดับ คือ “บริโภคพอเพียง แต่ว่าทำงานเต็มที่”

พอเพียงไม่ได้หมายความว่าทำแบบตำข้าวสารกรอกหม้อ ฉันกินข้าวเท่านี้ฉันก็ตำเท่านี้ มีบางคนวันหนึ่ง

ทำงาน ๘ ชั่วโมงได้ ๓๐ บาท ก็พอดีกับที่ต้องการ แต่วันดีคืนดีปรากฏว่าค่าแรงมันขึ้นจากได้วันละ 

๓๐ บาท ก็ได้มาเป็นวันละ ๔๕ บาท เขาก็เลยทำแค่ ๓ ใน ๔ ของวัน ก็คือ ๖ ชั่วโมง 

ก็เพราะว่าทำ ๖ ชั่วโมงก็ได้ ๓๐บาท เท่ากับที่ฉันต้องการ อย่างนี้ยังไม่เรียกว่าวิถีพอเพียง

 ความพอเพียงก็คือว่า คุณยังต้องทำเหมือนเดิม

ทำ ๑ วัน คุณได้มา ๔๕ บาท คุณใช้ ๓๐ ที่เหลือ

อีก ๑๕ บาท คุณไม่ได้เอามาใช้ในการบริโภคเพิ่ม

เติม แต่ว่าเอาไปใช้ทำประโยชน์ให้แก่สังคม เอาไป

ให้วัดให้วา ทำบุญทำกุศลหรือว่าช่วยเหลือคนที่

เดือนร้อน นี่คือ “วิถีชีวิตพอเพียง” 

“วิถีชีวิตพอเพียง” ในความหมายของหลักพุทธศาสนาคือ บริโภคน้อยแต่ทำมาก

มีเวลาอยู่กับครอบครัว มีเวลาช่วยเหลือสังคมด้วยและก็มีเวลาอยู่กับตัวเองในการปฏิบัติธรรม

พระไพศาล วิสาโล

#inndhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ทำความเข้าใจ #ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #ลงมือทำทันที 

 #อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก 

 #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language