INDHAMMA:ความสุขจากการแสดงมุทิตาจิต

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

เมื่อได้พิจารณาจิตใจของเราขณะปฏิบัติแล้วเห็นว่า ขณะนี้กิเลสไม่ปรากฏ 

หรือคุณธรรมข้อใดข้อหนึ่งกำลังปรากฏอยู่ 

เราต้องสำนึกรับรู้ความดีที่ปรากฏนั้น ต้องรู้จักอนุโมทนา แสดงมุทิตาจิต 

เพราะนี่เป็นแหล่งความสุขที่สำคัญในชีวิต 

แต่นักปฏิบัติจำนวนมากไม่คิดจะทำเช่นนั้น น่าจะเป็นเพราะกลัวจะเกิดความรู้สึกถือตัวถือตนว่าดีว่าเก่ง 

แต่การอนุโมทนาที่กล่าวถึงนี้ ไม่ใช่อนุโมทนาตัวเราว่าดีว่าเก่ง แต่เป็นการอนุโมทนาตัวคุณธรรม 

เป็นการรู้จักชื่นชมยินดีกับการเกิดขึ้นของความดีงามที่ปรากฏในจิตใจของเรา 

โดยไม่ต้องเกิดความยึดมั่นถือมั่นว่าเราดีเราเก่งอย่างไร เราแยกแยะได้ 

และถือว่าชีวิตเราเป็นเพียงภาชนะอย่างหนึ่งที่รองรับความดีที่เกิดขึ้นเท่านั้น

เมื่อเราเจริญมุทิตาเป็น ชีวิตเราจะไม่มีวันซึมเศร้า 

ไม่มีวันจะหมดกำลังใจ 

แล้วเราจะไวต่อความดีของผู้คนรอบข้างด้วย 

มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความดีทั้งวัน 

อาจไม่ใช่ความดีที่น่าตื่นเต้น แต่เป็นความดีธรรมดาๆ 

ที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคนทุกคน 

เมื่อเราสังเกตความดีในตัวเอง 

สังเกตความดีในการกระทำและน้ำใจของคนรอบข้าง 

เราจะรู้สึกเสมือนมีหยดน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจเรา 

ทำให้เราสดชื่นเบิกบานตลอดเวลา

แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะต้องพยายามมองทุกสิ่งทุกอย่างในแง่ดี อย่างนั้นก็ไม่เป็นธรรมชาติ 

มันเป็นเหมือนการทำใจเสียมากกว่า ในการเจริญมุทิตาจิตนั้น เราเอาความจริงเป็นที่ตั้ง 

ไม่ใช่พยายามหลอกลวงชักชวนจิตให้มองในแง่ดี 

แต่เป็นการลืมหูลืมตารับรู้รับทราบต่อความจริงที่ปรากฏในคนรอบข้าง ในตัวเราเอง 

และรู้จักชื่นชมความดีนั้น ความสุขจากการแสดงมุทิตาจิต เป็นความสุขที่ไม่มีโทษ ไม่มีเงาตามตัว 

และจะไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง

ชยสาโรภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Select your language