INDHAMMA:ภาษาเพลง...ภาษาธรรม...สอนให้รู้ว่า...ทำดี...นั้นไม่ยาก

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

บางคนคิดว่าจะไปทำบุญให้ทานก็ไม่มีเวลา มันยุ่งยาก

คนไม่รู้จักบุญ บุญเป็นเรื่องสร้างคุณงามความดีให้เจ้าของ

การสร้างความดีไม่เห็นยากอะไร อย่างเดินไปเห็นของเขา

นึกอยากจะได้ แต่ไม่เอาเพราะกลัวความผิด

กลัวบาป กลัวคุก กลัวตะราง นี้ก็เป็นการสร้างความดีแล้ว

เป็นการสร้างความดีให้แก่ตนเอง

ถ้าไม่ได้ยินไม่ได้ฟัง ก็ไปลักไปฉ้อโกงเขา

ก็เท่ากับสร้างความชั่วให้แก่ตัวเอง มันบาปอยู่ตรงนั้น

บุญอยู่ตรงนั้น และการปฏิบัติก็อยู่ตรงนั้น

เห็นความผิดก็ไม่ทำ ไปที่ไหนใจก็เป็นบุญที่นั้น

มีความฉลาดอยู่ในจิตของตนเองอันนี้แหละท่านเรียกว่า.... 

ธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว

หลวงปู่ชา สุภทฺโท


แม้ทำดีมันยากเหลือเกิน หนทางเดินจะมีขวากหนาม แต่อย่างไรก็ตาม จะไม่ท้อ ไม่หวั่นไหว

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี

 #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที

INDHAMMA:เวลาเราทำความผิดเรารู้อยู่แก่ใจมันฝังอยู่ในใจ แล้วจะทำอย่างไร

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ


ทษของการผิดศีลที่เห็นได้ชัดคือ

ผู้ผิดศีลจะไม่ชอบอยู่กับตัวเอง

เวลาเราทำความผิดเรารู้อยู่แก่ใจมันฝังอยู่ในใจ

แล้วจะทำอย่างไร

คนที่ชอบทำชั่วแล้วยังยินดีในความผิด ใช้วิธีทำให้ยุ่งๆ

ทำให้มีนั่นมีนี่ทำเพื่อจะไม่ต้องเห็นสิ่งที่อยู่ในใจ

ดังนั้นผู้ที่ทุศีลเลยไม่อยากภาวนา 

เพราะภาวนาแล้วเมื่อความคิด ฟุ้งซ่าน ความวุ่นวายต่างๆ 

ลดน้อยลง เขาหรือเธอผู้นั้นจะต้องมาเจอกับสิ่งที่ไม่ดี

ที่อยู่ในตัวเองเลยกลัว ก็เลยปฏิเสธการนั่งสมาธิ

ปฏิเสธการภาวนา หาว่างมงายบ้าง อะไรบ้าง

ขอให้สังเกตในโอกาสที่ผู้ถือศีลผิดพลาดนิดๆ น้อยๆ ก็เหมือนกัน เขาจะรู้อยู่แก่ใจ 

แล้วจากนั้นจะไม่ค่อยอยากอยู่กับตัวเอง ไม่ค่อยอยากจะนั่งสมาธิ 

นี่ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างศีลกับสมาธิที่เห็นได้ชัด มื่อเราผิดศีลเมื่อไหร่ถึงแม้ว่าศีลไม่ขาดเพียงแต่

หมองๆ นิดหน่อย มันจะทำให้เราไม่มีกำลังใจในการปฏิบัติธรรมเท่าที่ควร 

เราจะรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง ไม่อยากจะอยู่กับตัวเอง

เรื่องนี้สอนว่า กันดีกว่าแก้ คือ

หนึ่ง ต้องระมัดระวังไม่ให้ศีลขาด ไม่ให้ทะลุ ไม่ให้ด่างพร้อย

สอง ถ้าไม่อยากนั่งสมาธิเพราะผิดศีลต้องบังคับตัวเองให้นั่งสมาธิ สงบหรือไม่สงบก็ช่าง

เพราะเป็นทางเดียวที่จะชำระความรู้สึกไม่ดีภายใน


พระอาจารย์ชยสาโร

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที


INDHAMMA:คุณสมบัติที่เหนือมนุษย์

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

   มนุษย์ที่ไม่เข้าถึง หรือไม่รู้ความลับสุดยอดของมนุษย์ จะเป็นมนุษย์ไปได้อย่างไร

 

มนุษย์ คือ....

ผู้ที่อาจจะมีจิตใจสูง

อยู่เหนือปัญหาหรือความทุกข์

พอสมควรแก่ความเป็นมนุษย์

หรือเหนือปัญหาและความทุกข์โดยสิ้นเชิง

ซึ่งเป็นยอดของมนุษย์

พุทธทาสภิกขุ

เพราะคนที่แข็งแกร่ง อยู่กับการมีพละกำลังมาตลอด อาจจะละเลยความสำคัญของมัน

แต่คนที่อ่อนแอ จะตระหนักคุณค่าของพละกำลัง และยังเข้าใจผู้ทนทุกข์

ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง เธอจะยังเป็นคนเดิม ไม่ใช่นักรบมหากาฬ แต่เป็นคนที่ใจงาม

Captain america The first avenger

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

 #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที

INDHAMMA:ความรู้สึกต้องชดใช้

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

หนี้เงินเพื่อน หนีง่าย หนี้แค้นศัตรู หนียาก 

หนี้กรรมตัวเอง ไม่มีทางหนีเลย

ความรู้สึกต้องชดใช้ เกิดขึ้นเมื่อเราก่อหนี้ 

ความรู้สึกว่าต้องหนี เกิดขึ้นเมื่อเราเห็นว่าตัวเอง 

ไม่มีปัญญาชดใช้แน่ๆ 

ความรู้สึกว่าต้องฆ่าตัวตายเกิดขึ้นเมื่อไม่เห็นทางหนีอื่น 

ดีกว่าทางเลือกสุดท้ายแล้ว หนี้ จึงเป็นสิ่งรบกวนจิตใจได้ 

ในระดับอยากจบชีวิต

หนี้ ในใจคนส่วนใหญ่มีแต่เรื่องเงิน ในใจคนรองลงมาเป็นเรื่องบุญคุณ แต่ในใจคนหยิบมือเดียว

ที่รู้ว่ายังมีหนี้บาปเป็นเงาตามตัวอยู่ และในใจคนส่วนส่วนน้อยเท่าน้อย ที่ระแคะระคายว่า 

หนี้สำคัญสูงสุดเหนือหนี้อื่นใด คือ หนี้ความไม่รู้ หนี้อวิชชา หนี้อันเกิดจากการไม่อาจเห็นว่ากายใจนี้ 

เป็นแค่เหยื่อล่อให้ยึด ตราบใดยังยึดเหยื่อ ฮุบเหยื่อ ตราบนั้นยังต้องเป็นทุกข์ ในทางใดทางหนึ่งร่ำไป 

วิธีปลดหนี้เงิน คือ หาเงินมาใช้ 

วิธีปลดหนี้บาป คือ ให้ทาน อภัยคน เลิกคิดเบียดเบียนใครต่อ 

วิธีปลดหนี้อวิชชา คือ เจริญสติ แบบที่สติเจริญขึ้นเห็นกายใจไม่เที่ยง 

ไม่เคยเป็นตัวเดิมนับแต่ลมหายใจเข้าออก ไม่เคยมีใครคนหนึ่ง ที่มีตัวตนอยู่จริง 

ตั้งแต่ก่อนกายใจนี้เกิดมา และหลังกายใจนี้ตายไป!

ดังตฤณ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:ภาษาเพลง...ภาษาธรรม...ภาษาความในใจ...เรื่องที่มิอาจให้ใครรู้และช่วยเราได้

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

มนุษย์ทุกคนมีความในใจ มีเรื่องภายในใจที่มีลับเฉพาะ

เริ่มแต่ลับเฉพาะกลุ่ม ลับเฉพาะเพื่อน ลับเฉพาะประเทศ ลับเฉพาะสามี ภรรยา ลับเฉพาะสองคน

ลับเฉพาะตัวเราคนเดียว เป็นเรื่องที่คนอื่นมิอาจล่วงรู้ได้ บางเรื่องนั้นเป็นผลประโยชน์

บางเรื่องเป็นอารมณ์ บางเรื่องเป็นพฤติกรรมส่วนตัว ส่วนมากความในใจของคนมักจะมีคนอยากรู้

อยากเห็น อยากล่วงรู้ความลับ อยากเอาออกมาตีแผ่ บางทีเมื่อเจ้าตัวได้ตายไปแล้ว

ความลับก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป จะมีคนนำออกมาตีแผ่ เผยแพร่ให้สังคมรู้ ส่วนมาก

มักเป็นเรื่องไม่ดี แม้เป็นเรื่องที่ไม่ดี คนก็ยังสนใจอยากจะรู้

ความลับที่เป็นในใจระหว่างบุคคล ท่านว่าเป็นสนิมใจ

คิดถึงทีไร อาจทำให้เราสุขบ้าง ทุกข์บ้าง ยิ้มบ้าง ร้องไห้บ้าง แต่เมื่อทำลงไปแล้ว 

ก็ต้องปิดไว้ให้ตายไปกับตัว ลองถามใจท่านเองว่า 

ท่านมีเรื่องราวที่เป็นความลับในใจมากน้อยเพียงไร  

ข้าพเจ้าเชื่อว่า ทุกคนมีความลับในใจ มีเรื่องที่อยากพูด แต่พูดไม่ได้ 

มีเรื่องเฉพาะระหว่างคนสองคนหรือเรื่องเฉพาะลับส่วนตัว รู้ได้คนเดียว

ข้าพเจ้าเห็นว่า ความสุขหรือความทุกข์ของมุนษย์มักอยู่ที่เรื่องความในใจนี่เอง มิใช่เรื่องอื่น

ถ้าเป็นเรื่องการงาน การเงิน สังคม ก็ยังพอเขี่ยอารมณ์นั้นออกจากใจได้ 

ให้กาลเวลาช่วยเยียวยาบ้าง

แต่บางเรื่องมันเป็นเรื่องที่ปรึกษากับใครไม่ได้ เราจำเป็นต้องล้างสนิมใจด้วยตัวเราเอง

ในบางศาสนา อาจจะมีพิธีล้างบาป ก็คือ ล้างสนิมในใจเรานี่เอง ถามว่า เป็นไปได้หรือไม่

ที่ล้างบาปแล้วหมดไป อาจเป็นไปได้ที่ล้างความรู้สึกออกไป คือให้คนซึ่งมีสมมุติตน 

เป็นตัวแทนเบื้องบนมารับรู้ ให้ระบายความในใจนั้นออกมาจนหมด พอสบายใจแล้วก็หยุด 

ก็เป็นหลักจิตวิทยาง่ายๆที่สามารถทำให้คนสบายใจได้ในระดับหนึ่ง



ในพระพุทธศาสนา ท่านสอนให้ละชั่ว

ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส ความชั่วที่ยังไม่ทำ

พอหยุดยั้งไว้ได้ แต่ความชั่วที่ทำไปแล้ว

จะทำอย่างไรให้ใจผ่องใส นี่คือจุดสำคัญ

ที่จะทำให้เราเข้าถึงสภาวะของจิต

ท่านสอนเราว่า ให้พิจารณาทุกอย่าง

เริ่มตั้งแต่ตัวตนของเราทุกอณูของชีวิต

ผลิตผลมาจากดิน น้ำ ลม ไฟ และวิญญาณ

และทุกอย่างในชีวิต ล้วนเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ คิดดูให้ดี มีเพียงเท่านี้จริงๆ



เพื่อสลายอารมณ์ในใจของเราให้หมดไป ทำใจให้ผ่องใสและผ่อนคลาย บางเบา 

ไม่ไปเพิ่มกำลังกิเลสของตัวไหนอีกต่อไป ใจก็จะสงบเย็น เห็นทุกอย่างเป็นธรรมชาติ ที่ว่างเปล่า

นี่คือวิธีชำระความในใจด้วยตัวเราเอง โดยไม่ต้องไปสะเดาะเคราะห์ทำพิธีอะไรให้สิ้นเปลือง

ทุกเรื่องนั้น เกิดที่ใจ ต้องกลับมาชำระและแก้ที่ใจ ...

พระราชญาณกวี(ปิยโสภณ)

จะดูแล ปลอบใจให้เธอ ลืมความหลัง...ใจฉันรอเธอไม่ห่าง...

 

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:ลิขิตชะตาชีวิตและอนาคต

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

“ พุทธศาสนาสอนว่า

ความเป็นอยู่หรือชะตาชีวิตของคนเรานั้น 

ไม่ขึ้นกับเวลาตกฟาก ไม่ขึ้นกับอำนาจดวงดาว 

ไม่ขึ้นกับอำนาจพรหมลิขิต แต่ขึ้นอยู่กับกรรม 

กรรม(การกระทำ)

ต่างหากเป็นผู้ลิขิตชะตาชีวิตหรืออนาคตของคนเรา ...... 

ทุกคนต่างลิขิตโชคดีโชคร้าย ลิขิตความเจริญ ความเสื่อม

ให้แก่ชีวิตด้วยกรรมของตนเอง กล่าวคือ ถ้าทำกรรมชั่ว 

ชีวิตก็จะมีแต่ความทุกข์ความเดือดร้อน ในทางตรงกันข้าม

ถ้าอยากได้ดีมีความสุขความเจริญ ก็ต้องทำแต่กรรมดี 

เป็นไปตามพระบาลี ที่ว่า...

กลฺยาณการี กลฺยาณํ - ทำดีได้ดี 

ปาปการี จ ปาปกํ - ทำชั่วได้ชั่ว

พระเมธวชิโรดม

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:คิดเฉพาะเรื่องที่ควรคิด ในเวลาที่สมควรคิด...

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ไม่ใช่ว่านักปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิเพื่อไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น

แต่เพื่อสามารถคิดเฉพาะเรื่องที่ควรคิด ในเวลาที่สมควรคิด

ในเมื่อมีเรื่องที่ควรคิดพิจารณา และเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว

ขออย่าตระหนี่ความคิด อย่าเอาความง่ายเป็นหลัก

ถ้าง่ายก็ดี แต่บางเรื่องอย่างไรก็ไม่ง่าย ต้องยอมใช้เวลาคิด

อย่างรอบคอบ ทุกแง่ทุกมุม ทบทวนหลายครั้งด้วยความไม่

ประมาท ไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เวลาควรคิดก็ขยันคิด คิดอย่าง

มีเหตุผล เมื่อจบเรื่องที่จะต้องคิดแล้ว ให้พักอยู่ในความสงบ

เหมือนแมงมุมพอจับแมลงได้แล้ว ก็กลับมาพักอยู่กลางใย

แมงมุมอีกครั้ง

 

พระอาจารย์ชยสาโร

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:ความประมาทเลินเล่อ ก็เกิดจาก ความคิดปรุงแต่งเช่นกัน เพียงง่ายๆ คือ คิดปรุงแต่งว่า 'ไม่เป็นไร'

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

“ปมาโท มจฺจุโน ปทํ”

ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย

“อปฺปมาโท อมตํ ปทํ”

ความไม่ประมาท เป็นหนทางแห่งความไม่ตาย

ความประมาทเลินเล่อ ก็เกิดจาก ความคิดปรุงแต่งเช่นกัน

เพียงง่ายๆ คือ คิดปรุงแต่งว่า 'ไม่เป็นไร' เท่านั้น

ก็ประมาทได้แล้ว ที่ชอบคิดกันก็คือ 'ไม่เป็นไรเรามีบุญมาก'

หรือ 'ไม่เป็นไร เราไม่ได้ทำไม่ดี'

หรือ 'ไม่เป็นไรเราต้องสบาย ไปทุกชาติ' ดังนี้ เป็นต้น

นี่คือประมาท  ที่ท่านกล่าวว่า 'ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย'

ที่ชัด ๆ ก็คือ ความมัวเมาบังปัญญา บังความประภัสสร

แห่งจิต จึงพึงทำลาย ความประมาทเลินเล่อเสีย

ด้วยวิธีอย่าคิดปรุงแต่งว่า 'ไม่เป็นไร' ไปเสียหมด...

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:การทำความดีแล้ว ก็ย่อมจะเป็นพรอยู่ที่ตัวความดีนั้น

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ความดีนั้นมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วร หรือ 

คำว่า พร หรือ วร ก็ดี แปลว่า ความดี

การทำความดี ย่อมเป็นพรอยู่ในตัวความดีนั้นเอง

ไม่ต้องไปแสวงหาความดีที่ไหนอีก

ไม่ต้องขอจากใครก็ได้

เพราะว่าเมื่อมีการทำความดีแล้ว

ก็ย่อมจะเป็นพรอยู่ที่ตัวความดีนั้น

พุทธทาสภิกขุ

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง 

#ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที

INDHAMMA:ตรงไหนที่ตนเห็นว่ามันสุขที่สุดในชีวิต

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ขอให้ท่านทั้งหลาย สำรวจดูความสุขว่า 

ตรงไหนที่ตนเห็นว่ามันสุขที่สุดในชีวิต 

ครั้นสำรวจดูแล้วมันก็แค่นั้นแหละ แค่ที่เราเคยพบมาแล้วนั่นเอง 

ทำไมจึงไม่มากกว่านั้น มากกว่านั้นไม่มี 

โลกนี้มีอยู่แค่นั้นเอง แล้วก็ซ้ำๆ ซากๆ อยู่แค่นั้น 

เกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ร่ำไป 

มันจึงน่าจะมีความสุขชนิดพิเศษกว่า ประเสริฐกว่านั้น 

ปลอดภัยกว่านั้น 

พระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านจึงสละสุขส่วนน้อยนั้นเสีย เพื่อแสวงหาสุขอันเกิดจาก ความสงบกาย 

สงบจิต สงบกิเลส เป็นความสุขที่ปลอดภัย หาสิ่งใดเปรียบมิได้เลย 

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน 

#ฝึกฝนปัญญา #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง 

#ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที


INDHAMMA:อาการหนึ่งของจิต

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

ครั้งหนึ่ง ขณะกราบเรียนถามเรื่องการฝึกสมาธิกับหลวงพ่อชา 

พระฝรั่งรูปหนึ่งก็พ้อว่าจิตท่านไม่สงบ  

ท่านบอกว่ารู้สึกหงุดหงิดท้อแท้ว่าควบคุมจิตตัวเองไม่ได้สักที  แล้วกราบเรียนถามว่า  

“พอเริ่มทำสมาธิปั๊บ จิตก็ฟุ้งเลยครับ  ฟุ้งไปเรื่องอดีตบ้าง อนาคตบ้าง  

ผมควรจะทำอย่างไรดีครับหลวงพ่อ”

หลวงพ่อชาตอบว่าท่านกำลังสำคัญผิด  

อันที่จริง จิตไม่ได้ฟุ้งไปไหนหรอก จิตอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ  

แต่เวลาฟุ้งซ่าน อารมณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความคิดหรือความทรงจำ 

จะปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องรวดเร็วเท่านั้น  ความเข้าใจเรื่องนี้เป็นกุญแจของการแก้ไขความฟุ้งซ่าน

บางครั้งจิตก็ปราศจากความคิด  

แต่ส่วนใหญ่ มักจะมีความคิดปรากฏอยู่ด้วย  

ความสงบและความฟุ้งซ่านภายในจิต

อาจดูห่างกันคนละโยชน์  

แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงอาการของจิต

ซึ่งเกิดในปัจจุบันเท่านั้น  เมื่อเราเฝ้าดูจิต 

ความคิดก็เป็นเพียงสักแต่ว่าความคิด  

เป็นเพียงอาการหนึ่งของจิตเท่านั้น  

ความรับรู้ว่า “ฉันสงบ” และ “ฉันฟุ้งซ่าน” ก็จะจางหายไป  

แล้วจะเห็นว่าบางคราวจิตก็มีอาการสงบ บางคราวก็ไม่มี

ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร

แปลถอดความ โดย ศิษย์ทีมสื่อดิจิทัลฯ


#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที

INDHAMMA:“มาฆบูชา” ที่แท้จริง

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

การทำ “มาฆบูชา” ที่แท้จริง หรือถูกต้องตามความหมาย คือ การทำตามพระอรหันต์ 

เป็นอยู่คล้ายพระอรหันต์ . .... การทำตามพระอรหันต์นั้น ไม่ใช่เป็นการอวดดี, 

ท่านผู้ใดอย่าได้คิดว่า เมื่อพูดว่า “เราจะทำตามพระอรหันต์” ดังนี้แล้วจะเป็นการอวดดี ดังนี้ก็หาไม่

 อุบาสกอุบาสิกาที่ดี ย่อมปัจจเวกขณ์องค์อุโบสถอยู่เป็นประจำทั้ง ๘ องค์ แต่ละองค์ๆก็มีว่า 

“พระอรหันต์ทั้งหลาย ท่านทำอย่างนั้นๆๆ

และแม้เราในวันนี้ ก็จะทำตามพระอรหันต์ทั้งหลายนั้น ด้วยองค์อันนี้ๆ ครบทั้ง ๘ องค์แห่งอุโบสถ”. 

นี้ไม่ถือว่าเป็นการอวดดิบอวดดีอะไร เป็นการตั้งอกตั้งใจจะทำเพื่อความดับทุกข์ 

เช่นเดียวกับที่พระอรหันต์ท่านทำ ....

หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่ง ก็เพื่อต้องการจะเป็นอยู่ในวันหนึ่งๆนั้น 

ให้คล้ายกันกับที่พระอรหันต์ทั้งหลายท่านเป็นอยู่ให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ 

“เราไม่ได้ประกาศว่าเราเป็นพระอรหันต์ แต่ว่าเราจะทำตามพระอรหันต์ให้สุดความสามารถของเรา 

โดยเฉพาะในวันอุโบสถ วันนี้ก็เป็นวันอุโบสถ ; 

แต่ว่าเป็นวันอุโบสถที่ยิ่งไปกว่าวันอุโบสถอื่นๆ คือเป็น “วันมาฆบูชา” ด้วย

การเรียกว่า “มาฆบูชา” แปลว่า การบูชาที่ทำในเดือนมาฆะ

เพียงเท่านี้ไม่ค่อยมีความหมายอะไรนัก เพราะเป็นชื่อของเวลา 

เป็นการกำหนดด้วยเวลา เราควรจะทราบถึงความหมายเสียใหม่ว่า 

การทำการบูชาในเดือนมาฆะ เพื่อระลึกถึงพระอรหันต์ 

บูชาพระอรหันต์ เพื่อทำตามอย่างพระอรหันต์

ให้เรามีความเป็นอยู่ที่คล้ายพระอรหันต์ให้มากที่สุด 

ทุกลมหายใจเข้าออกในวันนี้ ทำอย่างนี้จึงจะได้ชื่อว่า

เป็นการทำมาฆบูชาที่แท้จริง หรือถูกต้องตามความหมาย ....

ถ้าทำอย่างอื่น หรือทำอย่างละเมอเพ้อฝัน ทำไปตามธรรมเนียมประเพณี, 

สรวลเสเฮฮาอย่างใดอย่างหนึ่งไปตามเรื่อง, 

นั้นเป็นการทำมาฆบูชาของลูกเด็กๆ : ไม่สมควรแก่อุบาสกอุบาสิกาผู้ประกอบไปด้วยคุณธรรม : 

ผู้รู้ความหมายของพระอรหันต์ดี ว่ามีอยู่อย่างไร แล้วพยายามจะทำตนให้คล้อยตามให้มากที่สุดที่จะมากได้.

ผู้ที่พิจารณาเห็นความหมายอันแท้จริง ของความเป็นพระอรหันต์โดยถูกต้องเท่านั้น 

ที่จะทำมาฆบูชาให้เป็นมาฆบูชาอย่างถูกต้อง

.... ความหมายอันแท้จริง ของคำว่า “พระอรหันต์” นั้น ก็คือ ความสะอาด สว่าง สงบ นั่นเอง 

ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ หมายถึงบุคคลที่มีความสะอาดถึงที่สุด มีความสว่างไสวถึงที่สุด 

และมีความสงบเย็นถึงที่สุด เรียกว่า “พระอรหันต์”

.... ที่ว่า สะอาด หมายถึง บริสุทธิ์หมดจด ไม่มีบาป ไม่มีความชั่ว ซึ่งเป็นสิ่งเศร้าหมอง 

ไม่มีความลับที่จะต้องปกปิด

.... ที่ว่า มีความสว่างไสว นั้น หมายถึง ความรู้แจ้ง ในสิ่งทั้งหลายทั้งปวงอย่างถูกต้องเต็มตามที่เป็นจริง 

จนประพฤติปฏิบัติถูกต่อสิ่งทั้งปวง, ไม่มีความทุกข์อันใดเกิดขึ้นมาได้เลย นี้เรียกว่า ความสว่างไสว คือ 

ความรู้แจ้งเห็นจริง

.... ที่เรียกว่า ความสงบ นั้น หมายถึง ความสงบเย็นปราศจากความทุกข์ ไม่มีความเร่าร้อน 

ไม่มีความกระวนกระวาย ระส่ำระสาย ไม่ถูกห่อหุ้มพัวพัน ตบตี ทิ่มแทง เผาลน แต่ประการใด 

จึงนับว่าเป็นความสงบเย็นอย่างแท้จริง

.... ความสะอาด ความสว่าง ความสงบ นี้ เรียกเป็นภาษาไทยสั้นๆ เพื่อจำง่าย ความสะอาด ก็คือ 

สุทธิหรือสุทธิคุณ, 

ความสว่างก็คือปัญญาคุณ ความสงบก็คือสันติคุณ...”

พุทธทาสภิกขุ

ที่มา : มาฆบูชาเทศนา เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๑ หัวข้อเรื่อง

“โอวาทปาฏิโมกขปฐมภาคกถา” 

จากหนังสือชุดธรรมโฆษณ์ เล่มชื่อว่า “มาฆบูชาเทศนา” หน้า ๔-๕


#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง 

#ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที

INDHAMMA:ความทุกข์...ประตูสู่ธรรม...เปิดทาง...ให้พ้นทุกข์

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

 ความทุกข์นั้นเสมือนประตูสู่ธรรม 

ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าจึงทรงยกทุกข์ให้เป็น

อริยสัจข้อแรก จากนั้นจึงตามมาด้วยสมุทัย

นิโรธ และ มรรค...

ถ้าไม่เจอทุกข์ ก็ยากที่จะเข้าใจสมุทัย

ไม่เห็นคุณค่าของมรรค

และไม่อาจเข้าถึงนิโรธได้

 อย่างไรก็ตาม เมื่อเจอทุกข์แล้ว ก็ต้องเกี่ยวกับทุกข์ให้เป็นคือ รู้ทุกข์ ไม่ใช่เป็นทุกข์ 

ดังนั้นพระองค์จึงสอนว่า ทุกข์ เป็นสิ่งที่ต้องกำหนดรู้ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องละ ผลักใส 

หรือถลำเข้าไป จะเห็นธรรมหรือเข้าถึงธรรมได้ ก็ต้องผ่านทุกข์เสียก่อน 

สำหรับผู้ใฝ่ธรรม ทุกข์จึงไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย น่ารังเกียจ

หากแต่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ หากใช้มันให้เป็น เกี่ยวข้องกับมันให้ถูก ก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

เพราะสามารถเปิดทางไปสู่การพ้นทุกข์ได้...

...เมื่อทุกข์เกิดขึ้น หากเอาแต่คร่ำครวญ เราก็ขาดทุน แต่ถ้าใคร่ครวญ เราก็ได้กำไร...

พระไพศาล วิสาโล

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

 #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที

INDHAMMA:เริ่มเรียนรู้อริยสัจ สลายทุกข์

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสต่อไปอีก ถึงเรื่องที่น่ารู้ว่า 

พอสักว่าคนเราเริ่มรู้อริยสัจในระดับแรก 

ความทุกข์ทั้งหลายจะสิ้นไปหมดไปอย่างมากมายเหลือที่จะเปรียบเทียบ

โดยพระองค์ได้ทรงหยิบฝุ่นที่พื้นดินขึ้นมาชั่วที่จะติดขึ้นมาได้ด้วยปลายนิ้วสองนิ้ว 

แล้วก็ชูให้ภิกษุทั้งหลายดูว่า นี่ฝุ่นนี้เท่านี้จะเปรียบเทียบกับฝุ่นทั้งโลก 

มันมากน้อยกว่ากันเท่าไร ภิกษุก็เห็นอยู่ว่ามันมากน้อยกว่ากันเหลือที่จะเปรียบกันได้ 

พระพุทธเจ้าท่านจึงตรัสว่านั่นแหละ  เมื่อรู้อริยสัจอย่างถูกต้องแท้จริงแม้ในอันดับแรก 

ความทุกข์จะหมดไปเท่ากับฝุ่นทั้งโลก นอกจากฝุ่นที่เหลืออยู่ที่นิ้วมือ

ที่ว่ารู้อริยสัจแท้จริงในอันดับแรกนั้น หมายถึง ความเป็นโสดาบัน

คือการบรรลุมรรคผลอันดับแรกที่สุด สูงขึ้นไปจากปุถุชน

คงจะเคยได้ยินได้ฟังกันแล้ว ถึงคำสี่คำว่าเป็นพระโสดาบัน เป็นพระสกิทาคามี 

เป็นพระอนาคามีแล้วเป็นพระอรหันต์. 

คนมักจะเข้าใจกันว่าเป็นพระอรหันต์นั้นหมดความทุกข์สิ้นเชิง 

แต่ถ้าเป็นเพียงพระโสดาบันนี้ ความทุกข์จะสิ้นไปเพียงนิดเดียว เหลืออยู่มากมาย 

แต่มีพระพุทธภาษิตที่ตรัสไว้อย่างตรงกันข้าม ว่าเพียงแต่รู้อริยสัจในลำดับแรก 

คือเป็นพระโสดาบันเท่านั้น ฝุ่นหมดไป เหลือเท่าที่ติดอยู่ปลายนิ้วสองนิ้ว 

ลองคำนวณดูเอง

พระพุทธเจ้ายังได้ตรัสไว้อย่างน่าสนใจอีกว่า 

การรู้อริยสัจไม่ใช่สิ่งเหลือวิสัย เป็นสิ่งที่มีได้ 

แม้แต่คฤหัสถ์ ขอให้เอาไปนึกไปคิดดูให้ดีว่า 

ถ้าความทุกข์อยู่ที่ไหนมันก็ต้องการความดับทุกข์

ที่นั่น ถ้าคฤหัสถ์หรือฆราวาส 

มีความทุกข์มากมันก็ยิ่งต้องการความดับทุกข์มาก 

เขาก็ยิ่งจำเป็นที่จะรู้หรือควรจะรู้อริยสัจมาก 

แล้วยิ่งมีความทุกข์มากเท่าไร 

ก็ยิ่งรู้จักความทุกข์ได้ดีเท่านั้น 

ดังนั้นผู้ที่เป็นฆราวาสมีความทุกข์มากกว่าพระที่อยู่ที่วัดนั้น 

ควรจะซึมซาบในรสชาติของความทุกข์ดีกว่า เว้นแต่จะไม่สนใจเท่านั้นเอง

และมักจะพูดกันว่า พวกเทวดาไม่ค่อยรู้เรื่องความทุกข์ไปเพลิดเพลินมัวเมาในเรื่องกามารมณ์นั้น

มันก็จริงเหมือนกัน ที่เป็นเหตุให้เทวดานี่รู้เรื่องความทุกข์ได้ยาก คือสบายเกินไป 

เทวดาชนิดไหนก็ได้ จะเป็นเทวดาบนสวรรค์ก็ตามใจ หรือว่าเทวดาอย่างในเมืองมนุษย์คือ

คนที่เขามีเงินมีอำนาจวาสนามีความสุขตามที่ต้องการในทางวัตถุอย่างนี้ 

ก็มักจะไม่ค่อยรู้เรื่องความทุกข์ไม่สนใจในเรื่องความทุกข์ คนยากจนจะรู้ได้ง่ายกว่า 

แต่ถ้าไม่สนใจก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉะนั้นมันก็อยู่ที่ว่าสนใจที่จะดับทุกข์หรือไม่

พุทธทาสภิกขุ


#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที

INDHAMMA:รักษาใจให้มั่นคงเป็นปกติ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

"อนิจจัง" เป็นคาถาป้องกันทุกข์ได้ 

หากเรารู้จักใช้ถ้าระลึกถึงคาถานี้บ่อย ๆ

เราก็จะไม่เพลิดเพลินยินดีมากกับสิ่งที่น่าพอใจ

ครั้นเมื่อสิ่งนั้นสูญเสียไปหรือไปเจอสิ่งที่ตรงกันข้าม

เราก็จะไม่ฟูมฟาย เสียอกเสียใจมาก

"อนิจจัง" สามารถรักษาจิตใจให้มั่นคงเป็นปกติได้

พระไพศาล วิสาโล

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

 #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที

INDHAMMA:สมถกรรมฐาน

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

สมถกรรมฐาน ก็คือการที่จิตมันไปสงบ

อยู่ในอารมณ์อันเดียวโดยไม่ได้บังคับ 

ถ้าบังคับให้มันอยู่ในอารมณ์อันเดียว 

มันไม่มีความสงบสุข มันจะเครียด มันจะเครียดขึ้นมา 

อย่างคนส่วนใหญ่นั่งภาวนา 

ใจมันจะเครียด เครียดเพราะว่าไปบังคับจิต

ให้อยู่กับอารมณ์อันนี้ ไม่ให้มันหนีไปที่ไหน 

กรรมฐานไม่ได้ทำให้เคร่งเครียดไม่ได้ทำอย่างนั้นหรอก  

รู้จักตัวเองว่าสมควรกับอารมณ์ตัวไหน 

แล้วก็ใช้อารมณ์ตัวนั้น จิตใจมีความสุข

จิตใจก็ไม่หนีไปไหนเองล่ะ สบายๆ อยู่อย่างนั้น บางทีหายใจเพลิน อยู่ไปเกือบสว่าง 

หรืออยู่ไปจนสว่างเลย ใจมันสงบ ใจมันสบาย มีความสุข ไม่วิ่งซ้าย วิ่งขวา วิ่งข้างบน ข้างล่าง ไปอดีต 

ไปอนาคตอะไรอย่างนี้ ไม่ไป นี้หลักของสมถกรรมฐาน ก็มีเท่านี้ล่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

วัดสวนสันติธร

21 มีนาคม 2564

https://www.dhamma.com/samatha-and-vipassana/

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที

INDHAMMA:อุทธัจจะกุกกุจจะ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

นิวรณ์ สิ่งขัดขวางความสงบและปัญญามีห้าข้อ ข้อที่สี่ ภาษาบาลีว่า อุทธัจจะกุกกุจจะ 

อันที่จริงข้อนี้มีสองส่วน ส่วนแรก อุทธัจจะ คือ ความฟุ้งซ่าน 

ซึ่งมีสาเหตุสำคัญจากการไม่สำรวมอินทรีย์ในชีวิตประจำวัน ส่วนที่สอง กุกกุจจะ 

มักได้รับการอธิบายในเชิงความวิตกกังวล ความรำคาญใจ 

แต่ข้อนี้มีอีกนัยหนึ่งที่น่าพิจารณา คือกุกกุจจะ หมายถึงความหมกมุ่นกับความเดือดร้อน 

ซึ่งเป็นผลจากการทำบาปในอดีต ความเดือดร้อนเป็นสิ่งที่ดีก็ได้ ไม่ดีก็ได้ 

ถ้าดีก็เป็นพลังขับเคลื่อนให้ไม่ประมาทเมื่อต้องอยู่ใกล้สิ่งยั่วยุอีก 

แต่ถ้าเราคิดปรุงแต่งเป็นอโยนิโสมนสิการ จะทำให้จิตเศร้า หมดกำลังใจว่าเราเป็นคนแย่ 

คนไม่ดี เราไม่ดีพอที่จะเจริญในธรรม เราเป็นผู้มีมลทินซึ่งล้างออกไม่ได้

นักปฏิบัติจึงควรเข้าใจว่า

ความคิดเช่นนี้ไม่ใช่อาการของ หิริโอตตัปปปะ 

หรือการละอาย เกรงกลัวต่อบาป หากแต่เป็นกิเลส 

พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า

การชำระความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีต

ทำได้ด้วยการรับผิดชอบการกระทำ 

การเปิดเผยกับผู้ที่ควรรับทราบ

โดยเฉพาะผู้เป็นกัลยาณมิตร หรือครูบาอาจารย์ 

และข้อที่สามที่สำคัญที่สุดคือ

การอธิษฐานว่าจะไม่ทำอย่างนั้นอีกต่อไป

ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที

INDHAMMA:เริ่มต้นรู้จักสติปัฏฐานสี่

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

สติปัฏฐานสี่...

คือการตามรู้ เฝ้าดู กาย เวทนา จิต ธรรม

ตามความเป็นจริง ให้เข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้มิใช่สัตว์

บุคคล ตัวตน เราเขา เป็นสักแต่ว่าธาตุตามธรรมชาติ

เท่านั้น...อย่าหลงไปยึดมั่นว่าเป็นตัวเรา ของเรา

แต่เป็นไปตามกฎของ

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา...เท่านั้น...

เพราะตัวรูปธรรม นามธรรม เป็นสภาวธรรมที่เป็นจริง ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก แต่การที่เราไม่เข้าใจ

ความจริง ไปทำให้มันซับซ้อนขึ้นมา แล้วทำให้เราลังเลสงสัย เหมือนคนตาบอดคลำช้าง

เข้าใจช้างไปตามการนึกเดาเอา ตามประสบการณ์ของตน แล้วหลงทางฉันนั้น

หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท

Deva Nanda

www.buddhayanando.com

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:การทำบุญ...ถ้าใครสูญเสียเศรษฐกิจก้อตาม ไม่ใช่การทำบุญ

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

 บุญที่แท้จริงนั้น ไม่เมา ไม่อาจจะเมา

 บุญนั้นล้างบาป คือ ล้างความเมา จึงเป็นบุญอันแท้จริง

 บุญอันแท้จริงนั้น ไม่ต้องเสียเงิน ไม่ต้องใช้เงินมาก

 ยิ่งใช้เงินมากยิ่งไม่ใช่บุญ

 จนถึงกับพูดได้ว่านิพพาน เป็นของให้เปล่า ๆ ไม่คิดสตางค์

 หลักคือ ถ้าเสียเศรษฐกิจของใครก็ตาม ไม่ใช่บุญ

 

พุทธทาสภิกขุ


#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา 

 #พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

 #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน 

 #indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

INDHAMMA:ความจริงในเรื่องของความมั่นคงของชีวิต

พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...

เมื่อพูดถึงความมั่นคงของชีวิต อันเป็นยอดปรารถนาของผู้คน ส่วนใหญ่แล้วมักนึกถึง

ความมั่งคั่งร่ำรวย เพราะเมื่อมีเงินแล้ว สวัสดิภาพ ความปลอดภัย และความสะดวกสบายก็ตามมา

มีรถ มีบ้าน ยังไม่ต้องพูดถึงบริษัทบริวารที่ห้อมล้อม แต่ทั้งหมดนี้จะมีความหมายอะไร

หากชีวิตไม่มีความสุข ปราศจากความรักและความอบอุ่นจากครอบครัวและมิตรสหาย

ถึงจะมีพวกแต่ไร้เพื่อน จิตใจก็คงอ้างว้าง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโดดเดี่ยวในยามที่อยู่คนเดียว

ยิ่งเงินที่มีอยู่นั้น มิได้มาด้วยวิธีการที่ชอบธรรม ก็ย่อมเกิดความเดือดเนื้อร้อนใจ

ในขณะที่ผู้คนพากันแสวงหาความมั่นคงของชีวิตนั้น สิ่งที่มักถูกมองข้ามไปก็คือ

ความมั่นคงของจิตใจ แม้จะมีเงินมากมายมหาศาล แต่ถ้าจิตใจเต็มไปด้วยความวิตกกังวล หวาดกลัว

รุ่มร้อน รู้สึกพร่อง ไม่รู้จักพอ ขาดความสุขสงบเย็น ก็ยากที่จะรู้สึกว่าชีวิตมีความมั่นคง

ใช่หรือไม่ว่า ความมั่นคงของชีวิตนั้นแท้จริงเป็นของชั่วคราว หรือพูดให้ถูกต้องกว่านั้น

ก็คือมันเป็นมายาภาพ ที่เราหลงคิดว่าเป็นความจริง ตราบใดที่เรายังหลงในมายาภาพดังกล่าว

เราจะไม่มีวันพบกับความสุขที่แท้จริงได้เลย แต่เมื่อเราเห็นความจริงว่าไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้หรือมั่นคง

อย่างแท้จริง เราจึงจะพบกับความสงบเย็น เพราะจิตไม่ลุ่มหลงยึดติดกับสิ่งใด ๆ อีกต่อไป ไม่ว่า

มีอะไร ก็รู้ว่าสักวันหนึ่งมันย่อม “หมด” ไป ดังนั้นเมื่อวันนั้นมาถึง จึงไม่ทุกข์ ไม่เศร้าโศก เสียใจ

หรือโกรธแค้น จิตใจยังคงเป็นปกติ มั่นคง ไม่หวั่นไหว ไม่ว่ามีเงินมากมาย มีอำนาจล้นฟ้า ก็ไม่อาจ

ป้องกันความแก่ ความเจ็บ และความตายได้ (ทำได้อย่างมากก็แค่ชะลอเท่านั้น) ใช่แต่เท่านั้น

เงินทองและอำนาจก็ล้วนเป็นสิ่งไม่เที่ยง ไม่จิรัง ไม่มั่นคง แปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ในเมื่อตัวมันเอง

ยังไม่มั่นคง มันจะไปค้ำยันชีวิตเราให้มั่นคงได้อย่างไร....

นี่คือความจริงของชีวิตอย่างหนึ่งที่ควรตระหนัก และจะช่วยให้ จิตใจมั่นคงอย่างยิ่ง ความจริงที่ว่า 

ชีวิตนี้แท้จริงแล้วไม่มีความมั่นคงเลยแม้แต่น้อย เพราะทุกคน เมื่อเกิดมา นอกจากต้องแก่ 

ต้องป่วยแล้ว ยังหนีความตายไม่พ้น คือชีวิตที่มีความตายเป็นจุดหมาย

โดยมีความเจ็บป่วย ความแก่อยู่ระหว่างทาง

(ไม่นับความสูญเสีย พลัดพรากที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน)


 ฉะนั้น...หมั่นทำความดี เริ่มด้วยการแบ่งปัน

ทรัพย์สินแก่ผู้ที่ทุกข์ยากหรือผู้ที่ทำประโยชน์

ส่วนรวม(ทาน)

จากนั้นก็รักษากายและใจไม่ให้เบียดเบียนผู้อื่น 

รวมไปถึงการช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น

ด้วยกำลังกายและสติปัญญา (ศีล) ตามมา

ด้วยการฝึกฝนอบรมจิตใจให้เป็นกุศล(ภาวนา) 

เช่น มีสติ สมาธิ และสันโดษ(ความรู้จักพอ)

ที่สำคัญคือการบ่มเพาะใจให้เกิดปัญญา คือเห็นและเข้าใจความจริงของชีวิต 

โลกและชีวิตนี้เต็มไปด้วยความผันผวนแปรปรวน

เมื่อใดเราเปิดใจยอมรับและเห็นความจริงดังกล่าว ไม่ยึดหรืออยากให้ทุกอย่างเที่ยงแท้มั่นคงหรือเป็น

ไปตามใจเรา ความผันผวนนั้นจะไม่อาจทำให้เราทุกข์ได้ต่อไป ถ้าไม่อยากทุกข์ใจเพราะความ

ผันผวนดังกล่าว ก็ควรพากเพียรสั่งสมความดีและฝึกใจให้เห็นความจริงดังกล่าว อย่ามัวแต่แสวงหาเงิน

ทองหรือสะสมวัตถุจนมองข้ามสิ่งที่สำคัญและประเสริฐกว่าไปเลย......

พระไพศาล วิสาโล

http://www.visalo.org/article/budTisco.htm

#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา

#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี 

#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน

#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม

Select your language