พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
บนหิ้งบูชาพระของอาตมามีหินทรายเล็กๆ ก้อนหนึ่ง หินก้อนนี้เคยเป็นชิ้นส่วนของพระพุทธรูปหินหนึ่ง
ในสององค์ที่ประทับยืนตระหง่านมากว่าหนึ่งพันสี่ร้อยปีที่เมืองบามิยันในภาคกลาง
ของประเทศอัฟกานิสถาน โยมคนหนึ่งถวายหินก้อนนี้ให้อาตมาเมื่อเกือบยี่สิบปีมาแล้ว
โดยโยมได้มาในช่วงที่ไปเยือนเมืองบามิยันร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ
ตอนนั้น กลุ่มนักรบตาลีบันได้ทำลายพระพุทธรูปลงอย่างราบคาบแล้ว
ก้อนหินที่อาตมาได้รับเป็นเพียงเศษเล็กเศษน้อยจากซากปรักหักพังในครั้งนั้น
สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาอาจดูมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ใช่ว่าจะมีอะไรรับประกันได้แน่นอน
โบสถ์วิหารที่สร้างให้คงทนอยู่ได้นับพันปีอาจรอดพ้นจากภัยธรรมชาติอย่างยาวนาน
แต่คงไม่มีใครล่วงรู้ว่าในอนาคต จะมีคนมองสถานที่นั้นอย่างไรหรือใช้ประโยชน์ในการใด
เมื่อราวๆ สองร้อยปีที่ผ่านมา กองทหารอังกฤษเคยใช้พระเจดีย์ชเวดากอง
ที่กรุงย่างกุ้งเป็นป้อมทหารมาแล้ว ส่วนบรรดาพุทธสถานเก่าแก่
ในอินเดียที่รอดพ้นจากการถูกผู้นับถือศาสนาอื่นทำลายมาได้
ก็มีจำนวนไม่น้อยเลยที่ถูกเปลี่ยนชื่อและยึดเป็นสถานที่ของศาสนาอื่น
พระพุทธศาสนาจะดำรงสืบไปในอนาคตหรือไม่ ย่อมไม่ขึ้นอยู่กับวัตถุใดๆ เช่น หินทรายหรือกระทั่งหินแกรนิต หากขึ้นอยู่กับการหล่อเลี้ยงคบไฟแห่งพุทธธรรม ให้ส่องสว่างในจิตใจของทุกชีวิต เราไม่จำเป็นต้องสู้รบปรบมือ กับความไม่เที่ยงหรอก เพียงแต่ทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ก็พอแล้ว |
ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร
แปลถอดความ โดย ศิษย์ทีมสื่อดิจิทัลฯ
#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา
#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
#จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี #เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น