พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
เมื่อหลายสิบปีก่อนหลวงปู่บุดดา ถาวโรได้รับนิมนต์ให้ไปฉันเพลที่กรุงเทพฯ
เมื่อฉันเสร็จญาติโยมก็นิมนต์ให้หลวงพ่อจำวัดพักผ่อนก่อน
เพราะสมัยนั้นการเดินทางไปสิงห์บุรีใช้เวลาหลายชั่วโมง หลวงปู่ก็ชรามากแล้ว
เจ้าภาพจึงจัดห้องให้ท่านพัก มีลูกศิษย์หลายคนนั่งอยู่เงียบ ๆ เป็นเพื่อนท่าน
บังเอิญห้องที่ติดกันเป็นร้านขายของชำ เจ้าของร้านเป็นอาซิ้ม
คนจีนสมัยก่อนจะสวมเกี๊ยะไม้ ไม่ได้สวมรองเท้าแตะเหมือนสมัยนี้
ดังนั้นเวลาเดินเสียงก็ดังเข้ามาถึงห้องที่หลวงปู่จำวัดอยู่ ลูกศิษย์ได้ยินก็รำคาญ
จึงพูดขึ้นมาว่า “เดินเสียงดังจัง ไม่เกรงใจกันเลย”
หลวงปู่แม้จะเอนกายแต่ท่านไม่หลับ เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พูดขึ้นมาเบา ๆ ว่า
“เขาเดินของเขาอยู่ดี ๆ เราเอาหูไปรองเกี๊ยะเขาเอง”
หลวงปู่บุดดาบอกเป็นนัยว่า เสียงเกี๊ยะจะดังอย่างไร ถ้าไม่เอาหูไปรองเกี๊ยะ ก็ไม่รู้สึกรำคาญ ดังนั้นเวลารู้สึกรำคาญขึ้นมา อย่าไปโทษเสียงอย่างเดียว ต้องโทษตัวเองด้วยว่าเอาหูไปรองเกี๊ยะเขาทำไม ทีนี้ก็น่าคิดว่าทำไมถึงเอาหูไปรองเกี๊ยะ คำตอบก็คือไม่มีสติ เมื่อไม่มีสติ หูก็จะหาเรื่อง ตาก็จะหาเรื่อง เพราะว่าเมื่อไม่มีสติ ก็จะลืมตัว เมื่อลืมตัว หูและตา รวมทั้งใจด้วย ก็จะไปหาความทุกข์มาใส่ตัวทันที |
ได้ยินเสียงอะไร ไม่ว่าเสียงเกี๊ยะ เสียงรถยนต์ เสียงต่อว่าด่าทอ ใจก็จะไปเอาคว้าเสียง
เหล่านั้นมาเล่นงานตัวเอง หรือเปิดทางให้สิ่งเหล่านั้นมาทำร้ายจิตใจได้
พระไพศาล วิสาโล
#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา
#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี
#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น