พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
พระพุทธเจ้าท่านตรัสสันโดษเพียงเพื่อให้คนหยุดเป็นเปรต หยุดเป็นเปรตคือว่าหยุดมีท้องเท่าภูเขามีปากเท่ารูเข็มซะที ให้มีความพอใจทุกระยะ ทุกขั้นทุกตอน จนตลอดชีวิต และไอ้ความพอใจนี้ เป็นเหตุให้ ก้าวหน้า คือให้อยากทำ ต่อไป เพราะว่ายินดีในสิ่งนี้แล้วก็จะทำสิ่งนี้ได้เรื่อยไป คนโบราณของเรามีสันโดษโดยไม่รู้สึกตัว ไม่ต้องอบรม |
อาตมายกตัวอย่าง อย่างว่า คนจน เป็นชาวนา ทำนา เค้าต้องลงมือ ใช้เรี่ยวแรง เอาจอบฟันดิน
ลงไปในการทำนา ถ้าเค้าทำนา ฟันดินลงไปทีแรก เค้าก็สบายใจพอใจว่า ทำลงไปทีนึงแล้วมันก็
เสร็จไปหนึ่งแล้ว ฟันสองทีก็เสร็จไปสองแล้ว ฟันสามทีก็เสร็จไปสาม ยิ้มกริ่มในใจอย่างนี้ มันก็ฟัน
ไปได้เรื่อย ร้อยที พันที หมื่นที แสนที จนนาเสร็จ แล้วคนนั้นก็ยิ้มกริ่มอยู่ในใจเรื่อย ไม่มีความ
ทุกข์เลย นั่นแหล่ะคือตัวความสันโดษ แล้วเค้าทำเสร็จลงไปแล้วก็ยังรอได้ คอยได้ จนกว่าผลมัน
จะออกมา กว่าข้าวจะสุก ตลอดเวลาที่คอยก็พอใจ ยิ้มกริ่มอยู่ในใจตลอดเวลา มีความสุข
นี้ถ้าคนที่ไม่สันโดษ พอฟันดินลงไปทีมัน มันบอกว่า แหมทีเดียวเนี่ย มันยังเหลืออีกตั้งเยอะแยะ
ที่ยังไม่ได้ฟันเนี่ยมันก็ท้อใจ มันไม่มีแรงที่จะทำอีก นี้มันฝืนมันอีกสองทีสามที มันก็ยิ่งท้อใจ
ยิ่งทรมานตัวเองมากขึ้นไปอีก จนมันจะทำไม่ไหว แล้วมันจะคิดว่าไปขโมยดีว่า เมื่อใครทำไว้แล้ว
เราไปขโมยดีกว่า นี่คือโทษของความที่ไม่สันโดษ ไม่พอใจ ในสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้ว หรือได้มี
มีแล้ว เรื่องนี้มองข้ามกันไปเสียหมด ว่าบรรพบุรุษเค้าได้อยู่กันมาด้วยความผาสุข เพราะมีสันโดษ
ที่ถูกต้อง ตามแบบของพระพุทธเจ้า
พุทธทาสภิกขุ
#อ่านแล้วแบ่งกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #คิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา
#พัฒนาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ฉลาดใช้ #ชีวิตดี
#เฉลียวคิด #ชีวิตจักสนุก #สุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
#indhamma #อยู่ในธรรม #ทบทวนธรรม #ลงมือทำทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น