พระพุทธองค์ทรงชี้ทางแก่ผู้มาหา...มาฝึกกับพวกเราสิ...
เมื่อหลวงพ่อชา สุภัทโท เดินทางไปแสดงธรรมที่ประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรกในปี ๒๕๒๐ ท่านและคณะ
ซึ่งมีพระอาจารย์สุเมโธ เป็นล่าม พำนักอยู่ที่วิหารแฮมพ์สเตดกลางกรุงลอนดอนเป็นส่วนใหญ่
ตรงข้ามของวิหารนั้ นเป็นแหล่งบันเทิง มีทั้งผับและดิสโก้เทค จึงมีเสียงดนตรีดังกระหึ่มทั้งคืน คืนหนึ่ง
ขณะที่พระสงฆ์และญาติโยมกำลังนั่งสมาธิ มีเสียงดนตรีจังหวะกระแทกกระทั้นดังเข้ามาในห้องตลอด
เวลา ทั้งพระและโยมพากัน หน้านิ่วคิ้วขมวด นั่งไม่เป็นสุขเอาเลย แต่หลวงพ่อชากลับนิ่งสงบราวกับ
ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เมื่อนั่งสมาธิเสร็จ โยมผู้หนึ่งได้เข้าไปหาหลวงพ่อ และขอโทษที่มีเสียงรบกวน
ระหว่างที่นั่งสมาธิ หลวงพ่อชากลับตอบว่า......
“โยมก็คิดว่าเสียงดนตรีมันมารบกวนเรา แต่ความจริง เราไปรบกวนเสียงต่างหาก”
คำพูดของหลวงพ่อชา เตือนให้เราตระหนักว่า เสียงอะไรก็ตาม หากได้ยินแล้ว เราวางใจเฉยกับมัน ความทุกข์ก็ไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าใจเราต่อต้านผลักไสหรือโรมรันพันตูกับเสียงนั้นเมื่อใด ก็จะเป็นทุกข์ทันที ทุกครั้งที่หงุดหงิดเมื่อได้ยินเสียงใด ลองสังเกตให้ดี จะพบว่าตอนนั้นใจเรากำลังต่อสู้ฟาดฟัน กับเสียงนั้นอย่างไม่ยอมเลิกรา รวมทั้งอาจกำลังบ่นก่นด่า ต้นตอของเสียงอยู่ก็ได้ ไม่ใช่แต่เสียงเท่านั้น ความคิดฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้นขณะนั่งสมาธิ แท้จริงก็ไม่ได้รบกวนเรา |
แต่เป็นเราต่างหากที่ไปรบกวนความคิดนั้น นั่นคือ พยายามผลักไส กดข่ม และต่อสู้กับมันอยู่ตลอดเวลา
ถ้าเพียงแต่ดูมันเฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไรกับมัน ความสงบก็จะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก
พระไพศาล วิสาโล
#อ่านแล้วแบ่งๆกันอ่านหลายๆท่าน #อ่านหลายรอบ #ระดมสมองคิดหลายๆหน #ฝึกฝนปัญญา#ประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน #จิตรู้เท่าทันสรรพสิ่ง #ชีวิตสุขสงบเย็น #เฉกเช่นพระนิพพาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น